สุดดราม่าที่แฮมพ์เด้น กับ 28 ปีแห่งความพยายายาม

สุดดราม่าที่แฮมพ์เด้น กับ 28 ปีแห่งความพยายายาม
"Ohhhhhhh! Tierney!!"

เสียงผู้บรรยายตะโกนแข่งกับเสียงเชียร์แห่ง แฮมพ์เด้น พาร์ค ที่ดังสนั่นขึ้นมาในฉับพลันที่บอลจากเท้าของ คีแรน เทียร์นี่ย์ พุ่งโค้งทะลุฝูงคนหนีมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปเสียบตาข่าย

นาที 90+3..

the Hampden roar อันลือลั่นได้ทำงานของมันอีกครั้ง

สกอตแลนด์ยิงนำเดนมาร์ก 3-2 ในวินาทีชี้เป็นชี้ตายที่สุด

"On a night that will be remembered! in either glory or grief"

มันเป็นค่ำคืนที่น่าจดจำแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับชาวสกอตติชทุกคน

สกอตแลนด์ไปฟุตบอลโลก!

---------------

เกมที่แฮมพ์เด้น พาร์ค เมื่อคืนที่ผ่านมาคือเกมในลักษณะที่ว่า Do or Die - ดับเครื่องชน ไม่รุ่ง ก็ร่วง

เมืองกลาสโกว์คลาคล่ำไปด้วยกองเชียร์ตาร์ตันในเสื้อสีน้ำเงินเข้มอันเป็นเอกลักษณ์ ทุกคนรู้ดีว่าเกมรับมือเดนมาร์กนัดนี้สำคัญเพียงใด

Do or Die

มันคือเกมสุดท้ายของฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก ด้วยคะแนนที่ตามหลังอยู่ 1 แต้ม สกอตแลนด์มีทางเลือกเดียวถ้าจะไปฟุตบอลโลกที่รอคอยมา 28 ปีโดยไม่ต้องไปลุ้นเหนื่อยอีกจากเกมเพลย์ออฟ

ต้องชนะเท่านั้น

ครั้งล่าสุดที่สกอตแลนด์ไปบอลโลกคือฟร้องซ์ 98 ผลลงเอยเหมือน 7 สมัยก่อนหน้าคือไม่ผ่านรอบแรก หนักกว่านั้นคือจมบ๊วยของตารางเตะ 3 เกมมีแค่แต้มเดียว ทิ้งทวนด้วยการถูกโมร็อกโกยำ 0-3 อีกต่างหาก

แน่นอน.. แฟนบอลผิดหวัง แต่ ณ เวลานั้นพวกเขาไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ตามมาจะเป็นความผิดหวังยิ่งกว่า

เพราะสกอตแลนด์ไม่มีโอกาสได้ไปแก้ตัวอีกเลย

6 สมัยติดต่อกันที่สกอตแลนด์ตกรอบคัดเลือก บางครั้งใกล้เคียง บางคราวหมดลุ้นตั้งแต่เนิ่น ๆ

ฟุตบอลโลก 2002 ฟุตบอลโลก 2006 ฟุตบอลโลก 2010

ฟุตบอลโลก 2014 ฟุตบอลโลก 2018

ฟุตบอลโลก 2022

ไม่มีครั้งไหนเลยที่พวกเขาจะฝ่าด่านรอบคัดเลือกกลับไปเล่นในรอบสุดท้ายได้อีกครั้ง

จนกระทั่งครั้งนี้.. ฟุตบอลโลก 2026

โควต้าที่เพิ่มขึ้นจาก 13 ทีมเป็น 16 ทีมก็ส่วนหนึ่ง แต่เงื่อนไขในรอบคัดเลือกที่ต้องจบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มเท่านั้นถึงจะตีตั๋วไป อเมริกา 2026 โดยอัตโนมัติก็ทำให้งานนี้ยังคงไม่ใช่งานง่าย ๆ อยู่ดี

กลุ่ม C ที่สกอตแลนด์อยู่มี เดนมาร์ก กรีซ และ เบลารุส ร่วมกลุ่ม เท่ากับว่าทุกทีมจะลงเตะเพียง 6 เกมเท่านั้น

ขุนพลสกอตต์เริ่มต้นด้วยการไปเยือนเดนมาร์กและได้ผลเสมอ 0-0 กลับมา จากนั้นก็ชนะ 3 นัดรวดเหนือ เบลารุส เหย้า/เยือน และกรีซในบ้าน

4 เกมผ่านไปมี 10 คะแนน สถานการณ์ของกลุ่มเห็นชัดว่าต้องแย่งกับเดนมาร์กที่มี 10 คะแนนเท่ากัน

นัดรองสุดท้ายเมื่อวันอาทิตย์ เดนมาร์กไล่ตีเสมอเบลารุส 2-2 ในบ้านตัวเองแต้มหายไป 2 แต้ม แต่สกอตแลนด์หนักกว่าเพราะไม่มีแต้มติดมือเลย

ออกไปเยือนกรีซที่ปิเรอุสเล่นไปชั่วโมงเศษโดนกระทุ้งไปแล้ว 3 ประตู กัดฟันไล่มาได้เต็มที่แค่ 2 ลูก จบเกมแพ้ 2-3

เข้าสู่เกมสุดท้ายด้วยการมีคะแนนตามหลังทีมโคนม 1 คะแนน

โจทย์ไม่ซับซ้อน ชนะไปบอลโลก ไม่ชนะก็เหนื่อยต่อในเกมเพลย์ออฟ

---------------

แฮมพ์เดน พาร์ค คราคร่ำไปด้วยฝูงชน ธงทิวโบกพลิ้ว เสียงเชียร์ดังกระหึ่มสมกับที่เป็นเกมสำคัญ

สกอตแลนด์ไม่ได้ไปฟุตบอลโลกมา 28 ปีแล้ว นักเตะชุดปัจจุบันหลายคนยังไม่ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ

เบน โด๊ค, แอรอน ฮิคกี้, แอนดี้ เออร์วิง, จอร์จ เฮิร์สท์, ลูอิส เฟอร์กูสัน ยังไม่เกิด

คีแรน เทียร์นี่ย์ เพิ่งอายุขวบเดียว

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เช อดัมส์ เพิ่งอายุ 2 ขวบ

แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เพิ่งอายุ 4 ขวบ

พลังแห่งความมุ่งมั่นแผ่กระจายไปทั่วสนามจริง ๆ นักเตะวิ่งลืมตาย กองเชียร์เชียร์สุดตัว เสียงตะโกนดังไม่หยุด ตอนเสียประตูมีสะดุ้งไปครู่แล้วก็ส่งเสียงเอาใจช่วยนักเตะกันใหม่

แล้วเกมที่เกิดขึ้น จะให้พูดอย่างไรดี.. หากเราเป็นคนสกอตต์คงนอนหลับฉ่ำไปด้วยฝันดี

นาทีที่ 3 แม็คโทมิเนย์จักรยานอากาศสุดสวย สกอตแลนด์ขึ้นนำ 1-0

นาทีนั้นสกอตแลนด์ไปบอลโลก และมันลากยาวไปจนจบครึ่งแรก

แต่ความชุลมุนหัวใจสั่นไหวตก ๆ หล่น ๆ ราวกับนั่งรถไฟเหาะตีลังกาอยู่ที่ครึ่งหลังเพราะความเข้มข้นทวีขึ้นเรื่อย ๆ ตามเวลาที่เหลือน้อยลง

พุ่งขึ้นไปจนถึงขีดสุด ด้วยความที่ทุกคนรู้ดีว่ามันต้องได้บทสรุปไม่ทางใดก็ทางหนึ่งในเกมนี้ ไม่มีเกมต่อไป

นาทีที่ 57 เดนมาร์กตีเสมอ 1-1 จากจุดโทษของ ราสมุส ฮอยลุนด์

เดนมาร์กไปบอลโลก

นาที 61 ราสมุส คริสเตนเซ่น แบ๊กขวาของเดนมาร์กโดนใบเหลืองที่สองไล่ออกจากสนาม

เดนมาร์กเหลือ 10 คน แต่ยังไปบอลโลก

นาที 78 สกอตแลนด์ที่ลุยแหลกทำได้สำเร็จ ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากลูกเตะมุมที่ ลอว์เรนซ์ แชงค์แลนด์ ทิ่มจ่อ ๆ เข้าไป

สกอตแลนด์กระชากตั๋วบอลโลกมาถืออีกครั้ง และได้เปรียบตัวผู้เล่น

แต่สกอตแลนด์ก็ยังคงเป็นสกอตแลนด์ ความไม่สมบูรณ์แบบคือตัวตนของฟุตบอลพวกเขา

นาที 81 พาทริค ดอร์กู ยิงโล่ง ๆ แบบไม่มีใครประกบ ตีเสมอให้เดนมาร์กเป็น 2-2

เดนมาร์กพลิกกลับมาเป็นฝ่ายถือตั๋ว โควต้าบอลโลกในกลุ่มนี้เป็นของพวกเขา

ช่วงเวลาที่เหลือ สกอตแลนด์บุก และบุก และบุกอย่างไม่คิดชีวิต ส่วนเดนมาร์กที่เหลือผู้เล่นน้อยกว่าต้องปรับทัพเปลี่ยนตัวเน้นเกมรับเพื่อยันให้อยู่

ผ่านเข้าสู่นาทีที่ 90 สกอร์ยังเสมอกันอยู่ 2-2

ป้ายข้างสนามชูตัวเลขทดเวลา 6 นาที

เดนมาร์กยังคงไปฟุตบอลโลก ถีบสกอตแลนด์ไปเพลย์ออฟ

แต่แล้ว..

ในนาที 90+3

บอลที่โยนเข้าไปกดดันถูกสกัดกลิ้งมาจากหน้าเขตโทษ

คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ๊กซ้ายจากกลาสโกว์ เซลติก ที่เพิ่งเปลี่ยนตัวลงไปแทน แอรอน ฮิคกี้ 20 นาทีก่อนหน้า วิ่งเข้าปั่นด้วยเท้าซ้ายจากระยะ 25 หลา บอลพุ่งวาบผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปตุงตาข่าย

โดยลำพังประตูนี้สวยสดงดงามในตัวอยู่แล้ว แต่สำหรับสกอตแลนด์ทั้งประเทศ มันยิ่งสวยงามหมดจดมากกว่านั้น เพราะมันคือประตูที่พาพวกเขาไปฟุตบอลโลก

สกอตแลนด์นำอีกครั้ง 3-2 กำลังจะไปฟุตบอลโลก

นาที 90+8 เดนมาร์กที่เปิดหน้าแลกเต็มตัวจ่ายบอลพลาด เคนนี่ แม็คลีน ตัวสำรองอีกคนตัดบอลได้ พาบอลขึ้นมาถึงครึ่งสนามแล้วยิงไกลทันที บอลลอยข้ามหัว ชไมเคิ่ล ที่ออกมานอกเขตโทษเข้าประตูไป

สกอตแลนด์นำ 4-2

เสียงนกหวีดดังหมดเวลา

สกอตแลนด์ไปฟุตบอลโลก!

ดราม่าซ้อนดราม่า ซ้อนดราม่า

เสียงคำรามแห่งแฮมพ์เด้น พาร์ค ทำงานของมันอีกครั้ง และคราวนี้ มันดังกระหึ่มอย่างยาวนาน

นานสมกับที่รอคอย

28 ปีแห่งความพยายายาม สกอตแลนด์ได้ไปบอลโลกอีกครั้งในที่สุด

-ตังกุย-



ที่มาของภาพ : Reuters
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport