มีครบทุกครั้ง!ย้อนดูผลงานน้องใหม่ในศึก ยูโร 16 หนก่อน

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ "ยูโร" ยังคงมีทีมน้องใหม่เข้าร่วมการแข่งรอบสุดท้ายได้ครบทั้ง 17 ครั้ง หลังล่าสุดทีมชาติจอร์เจียผ่านรอบคัดเลือกของ ยูโร 2024 ไปได้

ในรอบคัดเลือก รอบเพลย์ออฟ ของสาย ซี นั้น จอร์เจีย โคจรมาเจอกับ กรีซ ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งก่อนลงเล่นหลายคนยกให้ กรีซ เป็นต่อจากการมีประสบการณ์มากกว่าเพราะเคยเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายของ ยูโร ได้ 4 ครั้ง แถมเคยเป็นแชมป์เมื่อปี 2004 ด้วย แต่กลับกลายเป็น จอร์เจีย ที่ตีตั๋วไปยัง เยอรมนี ได้

นี่ถือเป็นการลบล้างความผิดหวังที่ดีของ จอร์เจีย หลังจากในศึก ยูโร 2020 รอบคัดเลือก พวกเขาไปถึงรอบชิงชนะเลิศของรอบเพลย์ออฟได้เหมือนกัน แต่ไปแพ้ มาซิโดเนีย เหนือ 0-1 ซึ่งวันนี้เราจะย้อนดูกันว่า 16 หนก่อนหน้านี้มีทีมไหนบ้างที่ได้ลงเล่น ยูโร เป็นครั้งแรก และผลงานของน้องใหม่แต่ละทีมเป็นยังไง

- ยูโร 1960

ด้วยความที่มันเป็นศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปหนแรก ดังนั้นมันเลยถือว่าทั้ง 4 ทีมที่เข้าสู่รอบสุดท้ายถือเป็นหน้าใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น สหภาพโซเวียต, ยูโกสลาเวีย, เช็คโกสโลวาเกีย และ ฝรั่งเศส ที่เป็นเจ้าภาพ ซึ่งแชมป์ตกเป็นของ สหภาพโซเวียต

- ยูโร 1964

นอกจาก สหภาพโซเวียต แล้วนั้น อีก 3 ทีมถือเป็นน้องใหม่ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น สเปน ซึ่งเป็นเจ้าภาพของรายการนี้, เดนมาร์ก และ ฮังการี และพลพรรค "ลา โรฆา" ก็ทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นเฮกันลั่นประเทศด้วยการคว้าแชมป์ไปเชยชม

- ยูโร 1968

อิตาลี กับ อังกฤษ เป็นน้องใหม่ไฟแรงในรายการนี้ โดยพวกเขาชิงชัยกับ ยูโกสลาเวีย และ สหภาพโซเวียต ซึ่ง อิตาลี รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ก่อนที่สุดท้ายพวกเขาจะได้แชมป์ไปครองจนทำให้ถือเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันที่ทีมน้องใหม่ซึ่งเป็นเจ้าภาพด้วยนั้นได้ถ้วยไปนอนกอด

- ยูโร 1972

สหภาพโซเวียต กลับมาอีกครั้ง โดยมีรุ่นพี่อีก 1 ทีมคือ ฮังการี ส่วนน้องใหม่ในหนนี้ได้แก่ เบลเยียม ที่เป็นเจ้าภาพ กับ เยอรมัน ตะวันตก และแชมป์ก็ตกเป็นของ เยอรมัน ตะวันตกที่เอาชนะ สหภาพโซเวียต ในนัดชิงชนะเลิศไปได้

- ยูโร 1976

มีเพียง เนเธอร์แลนด์ส เท่านั้นที่เป็นน้องใหม่ในการแข่งรอบสุดท้าย ส่วนอีก 3 ทีมประกอบไปด้วย เช็คโกสโลวาเกีย, เยอรมัน ตะวันตก และ ยูโกสลาเวีย และทัพ "อัศวินสีส้ม" ก็ได้อันดับ 3 จากการแข่งครั้งนี้

- ยูโร 1980

นี่คือหนแรกที่ศึก ยูโร รอบสุดท้าย มีการเริ่มต้นตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม และมีทีมร่วมการแข่งขันเกิน 4 ทีม โดยทีมที่ได้สิทธิ์บู๊รอบสุดท้ายมีทั้งหมด 8 ราย ถึงกระนั้น มันก็มีเพียง กรีซ เท่านั้นที่ถือเป็นหน้าใหม่ และด้วยประสบการณ์ที่ไม่มากเท่าไหร่นักขุนพลจากแดนเทพนิยายเลยตกรอบอย่างรวดเร็วจากการเป็นอันดับสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม 1

- ยูโร 1984

โปรตุเกส กับ โรมาเนีย คือน้องใหม่ในการแข่งครั้งนั้น ซึ่งพวกเขาก็มาอยู่กลุ่ม 2 เหมือนกันด้วย โดยที่ โปรตุเกส เป็นอันดับ 2 ของกลุ่มจนเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ ต่างกับ โรมาเนีย ที่จบด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม แต่สุดท้าย โปรตุเกส ก็ไปแพ้ ฝรั่งเศส 2-3 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ

- ยูโร 1988

สาธารณรณรัฐไอร์แลนด์ เป็นหน้าใหม่รายเดียวท่ามกลางเหล่า 7 รุ่นพี่ แต่พวกเขาก็ทำผลงานได้โดดเด่นจนเกือบจะผ่านรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม 2 แล้ว จากการชนะ อังกฤษ 1-0 และเสมอ สหภาพโซเวียต 1-1 น่าเสียดายที่นัดสุดท้ายไปแพ้ เนเธอร์แลนด์ 0-1 จนทำให้เป็นเพียงอันดับ 3 ของกลุ่มและต้องกลับบ้าน

- ยูโร 1992

ด้วยการเป็นเจ้าภาพในการแข่งครั้งนั้น ทำให้ สวีเดน ได้สิทธิ์ลงเล่น ยูโร รอบสุดท้าย เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ โดยพวกเขามี สกอตแลนด์ เป็นเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน อย่างไรก็ตาม สกอตแลนด์ ตกรอบตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มจากการเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม 2 ต่างกับ สวีเดน ที่เป็นแชมป์ของกลุ่ม 1 ทว่าทัพ "ไวกิ้ง" ก็แพ้ เยอรมนี 2-3 ในรอบตัดเชือกจนไปไม่ถึงฝั่งฝัน

- ยูโร 1996

ครั้งนี้มีการเพิ่มโควตาทีมในรอบสุดท้ายจาก 8 ทีมเป็น 16 ทีม และมันก็มีน้องใหม่มากถึง 4 ราย ประกอบไปด้วย สวิตเซอร์แลนด์, โครเอเชีย, บัลแกเรีย และ ตุรกี แต่มีเพียง "ตาหมากรุก" ที่ไปได้ไกลกว่าเพื่อน เพราะพวกเขาไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนจะพ่าย เยอรมนี 1-2

- ยูโร 2000

นอร์เวย์ กับ สโลวีเนีย เป็นเพียง 2 หน้าใหม่ในครั้งนั้น และพวกเขาก็โดนจับให้มาอยู่กลุ่ม ซี เหมือนกันอีก แต่ชะตากรรมก็ไม่ต่างกันเมื่อต่างก็จอดป้ายตั้งแต่รอบนั้น เพียงแต่ นอร์เวย์ ดูดีกว่าหน่อยเพราะอดไปต่อจากการแพ้ ยูโกสลาเวีย ด้วยกฎเฮดทูเฮด ต่างกับ สโลวีเนีย ที่เป็นบ๊วยของกลุ่ม

- ยูโร 2004

ครั้งนั้นมีทีมน้องใหม่รายเดียว ได้แก่ ลัตเวีย แต่พวกเขาดันโดนจับไปอยู่ในกลุ่ม ดี ร่วมกับ เยอรมนี, เนเธอร์แลนด์ส และ สาธารณรัฐเช็ก จนสุดท้ายก็กลับบ้านอย่างรวดเร็วในฐานะอันดับสุดท้ายของกลุ่ม

- ยูโร 2008

ผลจากการเป็นเจ้าภาพร่วมกับ สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้ ออสเตรีย ได้ลงเล่น ยูโร รอบสุดท้าย เป็นหนแรก ร่วมกับ โปแลนด์ ซึ่งทั้งคู่ก็มาอยู่กลุ่ม บี เหมือนกัน แต่ตอนจบพวกเขาก็มีเพียง 1 คะแนนจนกอดคอกันตกรอบ

- ยูโร 2012

อาจจะฟังดูน่าเหลือเชื่อ แต่ก่อนจะถึงปี 2012 ยูเครน ไม่เคยได้ลงเล่น ยูโร รอบสุดท้ายแม้แต่ครั้งเดียว และที่พวกเขาได้ลงเล่น ยูโร 2012 รอบสุดท้ายมันก็เป็นเพราะในฐานะเจ้าภาพร่วมกับ โปแลนด์ ซึ่งพวกเขาถือเป็นน้องใหม่รายเดียวในครั้งนั้น แต่ผลงานก็น่าผิดหวังเมื่อจอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม

- ยูโร 2016

โควตาสำหรับการเล่น ยูโร รอบสุดท้าย เพิ่มขึ้นมาเป็นถึง 24 ทีม และมันก็ส่งผลให้มีน้องใหม่ถึง 4 ราย ประกอบไปด้วย ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์เหนือ, เวลส์ และ อัลแบเนีย โดยทีมที่ผลงานโดดเด่นสุดคือ เวลส์ เพราะพวกเขาไปถึงรอบรองชนะเลิศ รองลงมาคือ ไอซ์แลนด์ กับ ไอร์แลนด์เหนือ ที่เข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน อัลแบเนีย เป็นน้องใหม่ทีมเดียวที่ตกรอบแบ่งกลุ่ม

- ยูโร 2020

ฟินแลนด์ กับ มาซิโดเนีย เหนือ คือ 2 น้องใหม่ประจำศึก ยูโร ในครั้งนั้น แต่เส้นทางของทั้งคู่ก็จบลงที่รอบแบ่งกลุ่ม โดย ฟินแลนด์ เป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม บี ที่ประกอบไปด้วย เบลเยียม เดนมาร์ก และ รัสเซีย ส่วน มาซิโดเนีย เหนือ เป็นบ๊วยของกลุ่ม ซี ที่มี เนเธอร์แลนด์ส, ออสเตรีย และ ยูเครน เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages, foottheball, bbc, greekherald
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport