สื่ออังกฤษแฉต้นเหตุพา เบน ไวท์ ผิดใจกับมือขวา แกเร็ธ เซาธ์เกต

เดอะ เทเลกราฟ สื่อของอังกฤษ ระบุ ที่มาของการที่ เบน ไวท์ ไม่ถูกกับ สตีฟ ฮอลแลนด์ ผู้ช่วยกุนซือทีมชาติอังกฤษ มาจากการที่ ฮอลแลนด์ เคยจัดช่วงถาม-ตอบกับเจ้าตัวระหว่างศึก ฟุตบอลโลก 2022 ต่อหน้านักเตะทุกคนของ "สิงโตคำราม" และ ไวท์ ตอบคำถามของ ฮอลแลนด์ ไม่ได้ จนทำให้ ฮอลแลนด์ บอกว่า ไวท์ ขาดความสนใจในเรื่องฟุตบอล

เบน ไวท์ กองหลัง อาร์เซน่อล มีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกับ สตีฟ ฮอลแลนด์ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เพราะไม่พอใจที่อีกฝ่ายเหมือนกับทำให้ตนต้องขายหน้าต่อหน้าบรรดาเพื่อนร่วมทีม ตามรายงานของ เดอะ เทเลกราฟ สื่อของเมืองผู้ดี

ที่จริง แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษเรียกตัว ไวท์ มาติดทัพ "สิงโตคำราม" ชุดที่จะเล่นเกมอุ่นเครื่องกับ บราซิล และ เบลเยียม แต่ดาวเตะวัย 26 ปีกลับขอถอนตัวไปเอง โดยตอนแรกมีการชี้แจงว่ามันเป็นเหตุผลส่วนตัว ก่อนจะมีข่าวในเวลาต่อมาว่ามันเป็นเพราะ ไวท์ ผิดใจกับ ฮอลแลนด์

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้ว่าต้นตอของรอยร้าวนี้คืออะไร กระทั่งล่าสุด เดอะ เทเลกราฟ ก็แฉว่าต้นเหตุที่แท้จริงมันต้องย้อนไปในตอนที่ อังกฤษ อยู่ระหว่างการทำศึก ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์เป็นเจ้าภาพ เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 โดยตอนแรก ฮอลแลนด์ ถาม ไคล์ วอล์คเกอร์ ว่าคิดยังไงเกี่ยวกับฟอร์มของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลก่อน

หลังจากนั้น ฮอลแลนด์ ก็ถาม ไวท์ ด้วยคำถามแบบเดียวกัน ซึ่งดาวเตะจาก อาร์เซน่อล บอกว่าเขาไม่รู้ว่าต้องตอบยังไง และมันก็ทำให้ ฮอลแลนด์ สรุปว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะ ไวท์ ไม่มีความสนใจในกีฬาฟุตบอลอย่างจริงจัง โดยกิจกรรมในตอนนั้นเป็นการจัดขึ้นต่อหน้านักเตะทุกคนของทีมชาติอังกฤษด้วย

เดอะ เทเลกราฟ ระบุว่าที่จริง ไวท์ ไม่มีปัญหาอะไรกับความเห็นของ ฮอลแลนด์ แต่สิ่งที่ทำให้เขาไม่พอใจก็คือการที่ช่วงถาม-ตอบมันถูกจัดขึ้นต่อหน้านักเตะคนอื่นๆ ต่างหาก ซึ่งมันก็พอจะสอดคล้องกับการที่จู่ๆ ไวท์ ตัดสินใจถอนตัวจาก อังกฤษ เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ปี 2022 ทั้งที่ทีมยังอยู่ระหว่างการแข่งขัน ฟุตบอลโลก โดยตอนนั้นสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ก็ให้เหตุผลเพียงแค่ว่ามันเป็นเพราะเรื่องส่วนตัว

สำหรับ ไวท์ นั้น เคยบอกเองว่าเขาไม่ได้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลมากจนถึงขนาดที่จะเรียกว่าเป็นแฟนบอลได้ ดังนั้นมันจึงอาจจะไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่เขาไม่สามารถตอบคำถามของ ฮอลแลนด์ เมื่อปี 2022 ได้


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport