มีทั้งสุขและทุกข์! ย้อนอดีตผลงานอันน่าทึ่งของเหล่า "อันดับ 3 ที่ดีที่สุด"

ถือว่าทำให้แฟนบอลเจ้าถิ่นสมหวังในที่สุด สำหรับทีมฟุตบอลชายของ ไอวอรี่ โคสต์ หลังจากพวกเขาเอาชนะ ไนจีเรีย 2-1 ในนัดชิงชนะเลิศของศึก แอฟริกา คัฟ ออฟ เนชั่นส์ 2023 ได้ จนทำให้ทัพ "ช้างดำ" ได้แชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 3

นี่นับเป็นความสำเร็จที่เรียกว่า "ปาฏิหาริย์" ก็อาจจะไม่ผิดนัก เมื่อพิจารณาถึงเรื่องที่ว่าตอนแรกทีมเจ้าภาพทำท่าว่าจะต้องจอดป้ายตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มแล้วหลังทำผลงานได้เลวร้ายจนเป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม แถมยังมีการปลดกุนซือตอนเล่นรอบแบ่งกลุ่มครบ 3 เกมอีก แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาได้เข้ารอบแบบฉิวเฉียดในฐานะหนึ่งใน 4 ทีมที่เป็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุด แถมยังเป็นในโควตาสุดท้ายด้วย ก่อนที่ ไอวอรี่ โคสต์ จะได้ชูถ้วยแชมป์ในบั้นปลาย

ผลงานในครั้งนี้ทำให้นี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรายการ แอฟริกา คัฟ ออฟ เนชั่นส์ ที่ทีมซึ่งเป็นอันดับ 3 สามารถก้าวไปคว้าแชมป์มาครองได้ แต่ถ้าเทียบกับรายการระดับทีมชาติของทีมชุดใหญ่รายการอื่นๆ แล้วนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกหรือเปล่า ?

คำตอบคือ ไม่ใช่ หลายคนคงยังจำศึก ยูโร 2016 กันได้ดี เพราะครั้งนั้น โปรตุเกส ทำผลงานในรอบแบ่งกลุ่มได้น่าผิดหวังมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสมอกับ ไอซ์แลนด์ 1-1, เจ๊ากับ ออสเตรีย 0-0 และเสมอกับ ฮังการี 3-3 ทั้งที่ทีมชุดนั้นมีนักเตะชื่อดังหลายราย อย่างเช่น คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เปเป้, เชา มูตินโญ่ และ หลุยส์ นานี่ เป็นต้น

การเก็บได้เพียง 3 คะแนนในสภาพที่ไม่ชนะใครเลยทำให้ทีมของกุนซือ แฟร์นานโด ซานโตส เป็นเพียงอันดับ 3 ของกลุ่ม เอฟ เดชะบุญที่พวกเขายังได้เข้ารอบในฐานะหนึ่งในอันดับ 3 ที่ดีที่สุด ร่วมกับ สโลวาเกีย, สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และ ไอร์แลนด์เหนือ ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงผลงานในรอบแบ่งกลุ่มแล้วนั้นหลายคนก็ฟันธงว่า โปรตุเกส คงไปได้ไม่ไกล

อย่างไรก็ตาม มันกลับกลายเป็นว่าทีมของ ซานโตส เดินหน้าต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่ชนะ โครเอเชีย 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ, ชนะ โปแลนด์ 5-3 ในช่วงดวลจุดโทษ หลังจากจบ 120 นาทีเสมอกัน 1-1, เอาชนะ เวลส์ 2-0 ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะไปพิชิต ฝรั่งเศส 1-0 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของรอบชิงชนะเลิศ จนทำให้ทีมฟุตบอลชายของ โปรตุเกส ได้แชมป์ระดับเมเจอร์เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ของชาติ

นอกจากนี้ หากนับรวมทั้งในฝั่งชายและฝั่งหญิงแล้วนั้น มันก็เคยมีอีก 3 ครั้งด้วยกันที่ทีมชาติระดับทีมชุดใหญ่ได้เพียงอันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่ม แต่ไปไกลถึงรอบชิงชนะเลิศได้ เพียงแต่ 3 ทีมนี้ต้องอกหักในท้ายที่สุด

เริ่มจากทีมหญิงของอังกฤษชุดทำศึก ยูโร 2009 โดยตอนนั้นทีมแข้งแม่เนื้ออ่อนของ อังกฤษ อยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ สวีเดน, อิตาลี และ รัสเซีย ซึ่งพวกเธอเก็บได้เพียง 4 คะแนนจนเป็นที่ 3 ของกลุ่ม แต่มันก็ยังดีพอที่จะทำให้ได้เข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ

ทั้งนี้ ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายนั้นทีมหญิงของอังกฤษ ต้องเจอกับ ฟินแลนด์ ที่เป็นเจ้าภาพ และพวกเธอก็ชนะไป 3-2 ส่วนในรอบรองชนะเลิศพวกเธอเฉือน เนเธอร์แลนด์ส 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ จนทำให้ได้เข้าไปดวลกับ เยอรมนี ในนัดชิงชนะเลิศ แต่พวกเธอก็ต้านทานความยอดเยี่ยมของอีกฝ่ายไม่ไหวจนพ่ายไปถึง 2-6

อีกทีมหนึ่งเป็นทีมที่หลายคนอาจจะยังจำได้ดี เพราะทีมที่ว่าคือทีมชายของทีมชาติอิตาลี ชุดลงเล่น ฟุตบอลโลก 1994 โดยตอนนั้น อิตาลี เก็บได้ 4 คะแนนในการลงเล่นกลุ่ม อี จนทำให้เท่ากับว่าทั้ง 4 ทีมในกลุ่มนั้นมี 4 แต้มทั้งหมด โดยเพื่อนร่วมกลุ่มของพวกเขามี เม็กซิโก, ไอร์แลนด์ และ นอร์เวย์

ฟุตบอลโลก ครั้งนั้นมีการเอาอันดับ 3 เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้งหมด 4 ทีมจาก 6 กลุ่ม ซึ่ง อิตาลี ก็เป็นโควตาอันดับสุดท้ายพอดิบพอดี โดยในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพวกเขาเจอกับ ไนจีเรีย ก่อนจะชนะไป 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ และหลังจากนั้นก็ไปทุบ สเปน 2-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ตามด้วยการพิชิต บัลแกเรีย 2-1 ในรอบตัดเชือก

แม้ว่านัดชิงชนะเลิศ อิตาลี จะต้องเจอกับ บราซิล แต่แฟนบอลทัพ "อัซซูรี่" ก็มีความหวังอย่างเต็มเปี่ยม แต่หัวใจของพวกเขาก็ต้องแตกสลายเมื่อไปแพ้ในช่วงดวลจุดโทษจากการยิงพลาดของ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ที่ยังเป็นตำนานให้คนพูดถึงอย่างยาวนาน

สำหรับอีกรายได้แก่ทีมชายของ อาร์เจนตินา ชุดทำศึก ฟุตบอลโลก 1990 ตอนนั้น อาร์เจนตินา มีแค่ 3 แต้มในการลงเล่นกลุ่ม บี ร่วมกับ แคเมอรูน, โรมาเนีย และ สหภาพโซเวียต แต่พวกเขาก็ยังได้ตั๋วเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย

บราซิล คือคู่แข่งที่รอพวกเขาอยู่ในแมตช์แรกของรอบน็อกเอาท์ แต่ อาร์เจนตินา ก็เอาชนะคู่อริตลอดกาลไปได้ 1-0 ก่อนจะไปชนะ ยูโกสลาเวีย ในช่วงดวลจุดโทษของรอบก่อนรองชนะเลิศ ตามด้วยการพิชิต อิตาลี ในช่วงดวลเป้าของรอบรองชนะเลิศ หลังจากตอนแรกเกมจบลงด้วยการเสมอกัน 1-1

ในรอบชิงชนะเลิศ อาร์เจนตินา ต้องเผชิญหน้ากับ เยอรมัน ตะวันตก ซึ่งตอนแรกเกมทำท่าว่าจะจบช่วง 90 นาทีด้วยการเสมอกันแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่า เยอรมัน ตะวันตก มาได้ประตูชัยในช่วง 5 นาทีสุดท้ายจาก อันเดรียส เบรห์เม่

หลายคนอาจจะมองว่าทีมที่เป็น "อันดับ 3 ที่ดีที่สุด" แค่จะได้ต่อลมหายใจในทัวร์นาเมนท์ก่อนจะต้องกลับบ้านในรอบต่อไป แต่อีกด้านหนึ่งนั้นนี่ถือเป็น "โอกาสที่สอง" สำหรับทีมเหล่านั้นก็ว่าได้ มันอยู่ที่ว่าทีมเหล่านั้นจะคว้าโอกาสดังกล่าวเอาไว้รึเปล่า และในอนาคตเราอาจจะได้เห็นอันดับ 3 ที่ดีที่สุดซึ่งได้แชมป์ไปนอนกอดเหมือนกับ ไอวอรี่ โคสต์ ชุดปัจจุบัน และ โปรตุเกส ชุด ยูโร 2016 ก็ได้


- เด็กเกร็ดบอล -


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : เด็กเกร็ดบอล
เด็กเกร็ดบอล
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport