"เด็กจอมโหด" ที่ผ่านเข้ารอบ ชิงชนะเลิศ รายการนี้เป็นครั้งที่ 3 คราวนี้ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง ทำได้ดีกว่า ตลอดทั้งเกมก่อนมาได้ประตูชัยนาทีที่ 86 จากลูกโขกของ ลูเซียโน่ โรดริเกซ สวมทบทฮีโร่พาทีมเบียด "อิตาลี" 1-0 ผงาดซิวแชมป์โลกยู-20 สมัยแรกไปครองสำเร็จ
สนาม : เอสตาดิโอ อูนิโก้ ดีเอโก้ อาร์มานโด้ มาราโดน่า
มาร์เซโล่ โบรลี กุนซือทีมชาติอุรุกวัยชุดยู-20 พาทีมตบเท้าเข้ารอบชิงชนะเลิศมาได้หลังเฉือนเอาชนะ อิสราเอล 1-0 ในรอบตัดเชือกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทางด้าน คาร์มิเน่ นันเซียต้า เฮดโค้ชชาวอิตาเลียน นำทัพ อัซซูรี่น้อย ผ่านเข้ามาเล่นในรอบชิงชนะเลิศได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์หลังเอาชนะ เกาหลีใต้ มาได้หวุดหวิด 2-1
เปิดฉาก ครึ่งแรก 10 นาทีเป็น "เด็กจอมโหด" ทำได้ดีกว่าเปิดเกมบุกอยู่ข้างเดียวแถมโอกาส จบสกอร์ เพียบแต่ยังขาดความเฉียบคมไม่ตรงกรอบให้ เซบาสเตียโน่ เดสเพลนเชส ต้องออกแรงเซฟ
20 นาทีผ่านโอกาสซัดตรงกรอบครั้งแรกเป็นของ อุรุกวัย จากบอลหน้าเขตโทษฝั่งขวา ลูเซียโน่ โรดริเกซ ตะบันด้วยซ้ายแฉลบบล็อคแนวรับ อิตาลี ย้อยไปเข้ามือ เซบาสเตียโน่ เดสเพลนเชส
ต่อมานาทีที่ 23 พลาดโอกาสทองจากจังหวะเตะมุมทางขวา ฟาบริซิโอ ดิอาซ วางเข้าเขตโทษข้ามมาเสาไกลตกใส่หัว แอนเดอร์สัน ดูอาร์เต้ ขวิดเต็มแรงติดเซฟ เซบาสเตียโน่ เดสเพลนเชส ควักข้ามคานเหลือเชื่อ
นาทีที่ 32 อุรุกวัย โหมอยู่ข้างเดียวคราวนี้จากลูกครอสทางซ้ายบอลโค้งมาหน้ากรอบ 6 หลาเข้าทาง แอนเดอร์สัน ดูอาร์เต้ สอดมาชาร์จแต่ผิดจังหวะกลายเป็นวืดปล่อยบอลผ่านหน้าประตูหลุดออกมา
หมดครึ่งเวลาแรก อุรุกวัย 0 อิตาลี 0
60 นาทีผ่าน "เด็กจอมโหด" เร่งเครื่องต่อเนื่อง แอนเดอร์สัน ดูอาร์เต้ ได้ลองซัดแต่ก็ยังไม่ตรงกรอบก่อนมีจังหวะปะทะกับ เซบาสเตียโน่ เดสเพลนเชส ร่วงลงไปกองด้วยกันทั้งคู่
3 นาทีต่อมาจากความสามารถเฉพาะตัวของ ฟรังโก กอนซาเลซ แหวกเข้าเขตโทษฝั่งขวาตบมาหน้ากรอบ 6 หลาเกือบถึง อันเดรส เฟอร์รารี เสียดายไปติดแนวรับ อิตาลี ตามมาขวางไว้ได้ทัน
20 นาทีสุดท้ายคราวนี้เป็น ฟาบริซิโอ ดิอาซ เก็บตกหน้าเขตโทษก้มหน้าตะบันด้วยขวาบอลกระดอนพื้นไปตรงตัว เซบาสเตียโน่ เดสเพลนเชส ล้มตัวรับเอาไว้ได้ไม่พลาด
นาทีที่ 81 อิตาลี หวิดงานเข้าจากความผิดพลาดของ มัตเตโอ ปราติ เข้าบอลอันตรายย่ำใส่หน้าแข้ง ฟาบริซิโอ ดิอาซ ผู้ตัดสิน ชูใบแดง ไล่ออกทันทีโชคดี วีเออาร์ เปลี่ยนเป็นใบเหลือง
แต่แล้วนาทีที่ 86 อุรุกวัย ออกนำ 1-0 จนได้จากลูกเตะมุมทางขวาบอลชุลมุนในเขตโทษย้อยข้ามมาเสาไกลถึง ลูเซียโน่ โรดริเกซ ขวิดในกรอบ 6 หลาตุงตาข่าย ผู้ตัดสิน รอเช็ค วีเออาร์ อยู่นานก่อนยืนยันเป็นประตู
ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+11 อุรุกวัย หวิดปิดกล่องจากจังหวะสวนกลับ ฟรังโก กอนซาเลซ หลุดเดี่ยวขึ้นมาพร้อมเพื่อนอีก 4 คนแต่จังหวะสุดท้ายช้าโดน เซบาสเตียโน่ เดสเพลนเชส ตะปปเอาไปจากเท้า
หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม อุรุกวัย 1 อิตาลี 0
รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม
อุรุกวัย (4-2-3-1) : แรนดัลล์ โรดริเกซ - โรดริโก้ ชากัส, เซบาสเตียน โบเซลลี่, ฟากุนโด กอนซาเลซ, อลัน มัตเตอร์โร่ - ดาเมียน การ์เซีย, ฟาบริซิโอ ดิอาซ - ลูเซียโน่ โรดริเกซ, ฟรังโก กอนซาเล, ฮวน เด ลอส ซานโตส - แอนเดอร์สัน ดูอาร์เต้
อิตาลี (4-1-2-1-2) : เซบาสเตียโน่ เดสเพลนเชส - ริคคาร์โด้ ทูริคเคีย, กาเบรียล กัวริโน่, ดานิเอเล่ กีลาร์ดี, ซามูเอล โจวาเน่ - จาโกโม ฟาติคานติ - เซซาเร่ คาซาเด, มัตเตโอ ปราติ - ตอมมาโซ่ บัลดานซี่ - ซิโมน่า ปาฟุนดี, จูเซปเป้ อัมโบรซีโน่