กริมสบี้ เขี่ย แมนยู ร่วงคาราบาว คัพ รอบสอง 5 ประเด็นชำแหละทีมอโมริมยังไม่ชนะ

กริมสบี้ เขี่ย แมนยู ร่วงคาราบาว คัพ รอบสอง 5 ประเด็นชำแหละทีมอโมริมยังไม่ชนะ
แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดท่าตกรอบ คาราบาว คัพ รอบสอง หลังดวลโทษพ่าย กริมส์บี้ ทีมลีก ทู 11-12 รวม 5 ประเด็นร้อน ทั้งเกมรับรั่ว, โรเตชันล้มเหลว และอนาคต รูเบน อโมริม กุนซือเก้าอี้สั่น

แมนฯ ยูไนเต็ด พลิกนรกไม่สำเร็จแม้จะบุกไปไล่ตีเสมอ กริมสบี้ ได้อย่างหวุดหวิด 2-2 ในเวลาปกติของการฟาดแข้งถ้วย คาราบาว คัพ รอบสองเมื่อวันพุูธที่ 27 ส.ค.แต่หลังดวลลูกโทษแบบมาราธอน ผีแดง เป็นฝ่ายปราชัย 12-11 ยังชนะใครไม่เป็นนับตั้งแต่เริ่มซีซั่น แถมไม่พร้อมเล่นถ้วยใบนี้เช่นกันหลังจาก รูเบน อโมริม ระบุว่าทีมไม่พร้อมเล่นถ้วยยุโรปหลังบุกไปโดน ฟูแล่ม ตีเสมอ 1-1 ในเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดแม้เกมเปิดซีซั่นที่พ่ายต่อ อาร์เซน่อล คารัง 1-0 เขาจะยืนยันว่านักเตะพร้อมชนะได้ทุกทีม

1. เจ้าบ้านไม่ธรรมดาไร้พ่ายตั้งแต่ต้นซีซั่น

กริมสบี้ ทีมระดับ ลีก ทู มีผลงานน่าจับตามองไม่น้อยเนื่องจากพวกเขายังไม่แพ้เลยนับตั้งแต่ออกสตาร์ตซีซั่นใหม่รวมหกนัดในทุกรายการ

เดอะ มาริเนอร์ส ทีมอันดับสี่ของลีกในปัจจุบันมีแต้มตามหลังจ่าฝูง ครูว์ อเล็กซานดร้า แค่แต้มเดียวเท่านั้นจากผลงานชนะ 3 เสมอ 2

สำหรับเกม คาราบาว คัพ รอบแรก พวกเขาเปิดรังพิชิต ชรูว์สบิวรี่ ที่หล่นมาจาก ลีก วัน ได้ด้วยสกอร์ 3-1 โดย แคม การ์ดเนอร์ ซึ่งกดเม็ดสองให้ทีมในเกมดังกล่าวเป็นนักเตะรายเดียวที่ยังติดโผ 11 คนแรกของรอบนี้หลังเช็กบิลได้

ด้าน จัสติน อามาลูซอร์ ซึ่งสอยเม็ดแรกของเกมหล่นไปนั่งข้างสนามเช่นเดียวกับตัวสำรอง เจซ คาเบีย ที่ลุกมายิงเม็ดปิดกล่องในช่วงทดเวลา

2. เซสโก้ ตัวจริง-เมนู ประเดิมเกมแรกซีซั่นใหม่

รูเบน อโมริม กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด โรเตชั่นทีมตามคาดรวมทั้งสิ้นแปดรายเมื่อเทียบกับเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่พวกเขาออกไปเสอมกับ ฟูแล่ม 1-1

เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าตัวใหม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมแรก ขณะที่ ค็อบบี้ เมนู ประเดิมสนามเกมแรกของซีซั่นใหม่เช่นกัน อีกทั้ง อ็องเดร โอนาน่า ได้กลับมาเฝ้าเสาหลังหล่นเป็นตัวสำรองในสองเกมแรกของศึก พรีเมียร์ลีก

อย่างไรก็ดี ราสมุส ฮอยลุนด์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอีกตามเคยเช่นเดียวกับ เลนี่ โยโร่ และ ลุค ชอว์ ที่ได้พักเกมนี้ ส่วน ดีเอโก้ เลออน นักเตะใหม่อีกรายมีชื่อนั่งข้างสนามกับทีมเป็นเกมแรกโดย ผีแดง ใส่ชื่อนายทวารเป็นตัวสำรองพร้อมกันทั้งสองราย

สำหรับสามนักเตะที่ยึดตำแหน่งตัวจริงได้ประกอบไปด้วย มาเตอุส คุนญ่า และสองวิงแบ็ค อาหมัด ดิยัลโล่ กับ แพทริค ดอร์กู โดยที่ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้สวมปลอกแขนกัปตันแทน บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่นั่งอยู่ในซุ้ม

3. หลังสามโดนสองตุง

เปิดฉากการฟาดเกือกขึ้นมาก็เริ่มส่อเค้าลางแล้วว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แคล้วเจอกับเกมที่ลำบากแน่เมื่อ กริมสบี้ ไม่ได้เกรงพิษสงของ ผีแดง เอาซะเลย และเป็นฝ่ายเดินหน้าบุกใส่สร้างปัญหาให้อาคันตุกะอย่างน่าดูชมชนิดที่พวกเขาไม่น่าจะเป็นทีมระดับดิวิชั่นสี่ด้วยซ้ำ

และในที่สุด นาทีที่ 22 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็โดนทะลวงประตูจนได้จากการทำเสียบอลในแดนกลางของ อาหมัด ก่อนที่ ดาร์ราห์ เบิร์นส์ จะตักยาวข้ามฟากไปทางซ้ายให้ ชาร์ลส์ เวอร์นัม ซัดมุมแคบตุงตาข่ายโดยที่ ไทเลอร์ เฟรดริคสัน เข้าบล็อกได้อย่างเลวร้ายส่งผลให้เจ้าบ้านนำ 1-0 

นับจากนั้นเกมของทีมเยือนก็ยังไม่ดีขึ้น กระทั่งนาทีที่ 30 โอนาน่า ออกมาชกบอลโด่งพลาดจนโดน ไทเรลล์ วอร์เรน จิ้มเผาขนไม่เหลือเป็นสกอร์ 2-0 ของ กริมสบี้ โดยนาทีก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เกือบเสียประตูด้วยซ้ำ แต่โชคดีที่ท่านเปาตาไวเนื่องจาก คาเมรอน การ์ดเนอร์ ทำแฮนด์บอลก่อนสอยตาข่ายได้สำเร็จ

แน่นอนว่า ผีแดง มีโอกาสเช็กบิลเช่นกัน แต่เกมของเจ้าบ้านแลดูเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าจึงรับมือกับทีมดังจากลีกสูงสุดได้ไม่ลำบาก แถมจังหวะบุกแต่ละครั้งของพวกเขาได้ลุ้นตลอดเนื่องจาก ปีศาจแดง เล่นในระบบหลังสามซึ่งเปิดพื้นที่ให้พวกเขาได้โจมตีบ่อยครั้ง

ครบ 45 นาทีแรก แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลเหนือกว่า 64.50%:35.50% และได้ส่องยิงมากกว่า 10:6ครั้ง รวมทั้งส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 4:3 ครั้ง แต่มันไม่มีประโยชน์ในเมื่อพวกเขาเสียประตูไปแล้วถึงสองเม็ดจากเกมรับที่หละหลวม และเกมรุกที่ไร้ประสิทธิภาพ

4. ตกรอบน่าช็อกซ้ำรอยยุค ฟาน กัล

แม้เกมในครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด จะเล่นกันได้ดีขึ้น และไล่ตีเสมอ 2-2 ได้แบบจวนเจียนจากลูกโขกของ แม็กไกวร์ ในนาทีที่ 89 หลัง ไบรอัน เอ็มเบอโม่ จุดประกายความหวังให้ทีมได้ในนาทีที่ 75 แต่สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็พ่ายการดวลลูกโทษให้เจ้าบ้านซึ่งในจังหวะแบบนี้ไม่อาจตำหนิใครได้เนื่องจากสถานการณ์กดดันหนัก แถม ผีแดง ต้องเป็นฝ่ายไล่ยิงทีหลังเพื่อตีเสมอด้วยแม้อันที่จริงพวกเขาจะได้เปรียบแล้ว แต่ มาเตอุส คุนญ่า ซัดพลาดปิดจ็อบไม่ได้ กระทั่งในที่สุด เอ็มเบอโม่ กดไปชนคานแม้ในช่วงแรกเขาจะสังหารตุงตาข่าย

กระนั้นก็ดี จากสกอร์ที่เป็นรองก่อน 2-0 แต่ตามตีเสมอได้ต้องบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ดีเกินคาดเช่นกันเนื่องจากรูปเกมในครึ่งแรกไม่มีวี่แววเลยว่าพวกเขาจะโกงความตายได้ แต่หลังเปลี่ยนตัวสำรองลงสนาม ผีแดง เอาตัวรอดได้สำเร็จก่อนกระเด็นตกรอบด้วยการดวลลูกโทษตัดสิน

หลังโม่เกือกกันครบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมที่มีมูลค่า 765 ล้านปอนด์ เหนือกว่า กริมสบี้ ที่มีมูลค่าขุมกำลัง 3.1 ล้านปอนด์ทุกด้านทั้งการครองบอล 70.50%:29.50% และโอกาสสับไก 28:10 ครั้ง รวมทั้งการส่งบอลเข้ากรอบ 9:4 ครั้งซึ่งหากจะมองถึงสาเหตุที่ทีมของ อโมริม ร่วงตกรอบด้วยฝีเกือกของทีมรองบ่อนก็ต้องบอกว่าพวกเขาสมควรซักซ้อมจังหวะการคลำเป้าให้มีความเฉียบขาดมากกว่าที่เป็นอยู่

หลังอำลาถ้วยใบนี้ตั้งแต่รอบสอง แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างผลงานเลวร้ายซ้ำรอยยุคของ หลุยส์ ฟาน กัล ที่ออกไปพ่ายต่อ เอ็มเค ดอนส์ ในรอบนี้ของรายการนี้เช่นกัน แต่เป็นผลลัพธ์ที่น่าขายหน้ายิ่งกว่าจากสกอร์ 4-0 เมื่อเดือนส.ค.2014 ทั้งๆที่ไลน์อัพทีมชุดนั้นของ ผีแดง มีดาวดังลงสนามหลายรายทั้ง ดาบิด เด เคอา , ชินจิ คางาวะ ,จอนนี่ อีแวนส์ , แดนนี่ เวลเบ็ค และ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ชิชาริโต้

5. สิ่งที่อาจเกิดขึ้นตามมา

หลังเพิ่มสถิติการคุมทีมที่เลวร้ายอย่างไม่เลิกรา อโมริม น่าจะกดดันหนักอย่างไม่ต้องสงสัยโดยเฉพาะการพาทีมพ่ายให้กับคู่แข่งระดับลีก ทู

ด้วยเหตุนี้ ผลลัพธ์ที่จะตามมาย่อมมีอีกมากมายโดยอันดับแรกย่อมหนีไม่พ้นกระแสข่าวการปลดกุนซือโปรตุกีสออกจากตำแหน่งเนื่องจากผ่านมาถึงวันนี้ ผีแดง ของเขาไม่มีพัฒนาการของการคว้าผลลัพธ์เอาซะเลย

อย่างไรก็ดี หาก อโมริม ยังได้รับการสนับสนุนจากบอร์ด สิ่งที่อาจเกิดขึ้นตามมาคือการพยายามปิดดีล เซนเน่อ ลัมเมนส์ นายทวารทีม รอยัล อันทเวิร์ป เพื่อนำมาแก้ปัญหาในตำแหน่งผู้รักษาประตูเนื่องจาก โอนาน่า ยังเล่นพลาดจนทีมเสียประตูที่สองของเกมนี้แม้เขาจะโชคร้ายที่เซฟลูกโทษพาทีมเข้ารอบไม่สำเร็จทั้งๆที่ปัดลูกยิงได้หลายหน แต่บอลยังหลุดเข้าประตู

นอกจากนี้ หลังตกรอบ คาราบาว คัพ ผีแดง เหลือรายการให้เล่นในซีซั่นนี้ตั้งแต่ไก่โห่แค่สองรายการเท่านั้นคือ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ ซึ่งยังไม่แน่ว่าทีมจะมีผลงานที่ดีหรือเปล่าแม้นักเตะจะเหนื่อยกันน้อยลง และมีเวลาฟิตซ้อมกันมากขึ้นเนื่องจากไม่มีคิวลงเล่นเกมมิดวีคอีกต่อไปแล้วทั้งๆที่ซีซั่นเพิ่งเริ่มออกสตาร์ตเท่านั้น

ขณะเดียวกัน ที่ต้องจับตามองต่อไปคือพวกเขาจะชนะเกมแรกของซีซั่นได้เมื่อไหร่โดยเกมต่อไป ผีแดง จะกลับไปเล่นศึก พรีเมียร์ลีก ต้อนรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์ ทีมน้องใหม่ในวันที่ 30 ส.ค.นี้ซึ่งถือเป็นเกมสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้เพราะหากทีมของ อโมริม ยังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นต่อไป นัดหน้า ผีแดง จะต้องทำศึกดาร์บี้แมตช์กับ แมนฯ ซิตี้ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเกมที่ยากมหันต์ต่อการพยายามเก็บหนึ่งแต้มกลับรัง แถมนัดต่อไปพวกเขาจะต้องเปิดรังบู๊กับ เชลซี ตามมาด้วย

ดูแววแล้ว ขาเก้าอี้ของ อโมริม กำลังสั่นคลอนมากขึ้นทุกทีในเมื่อเขาทำงานได้ไม่เข้าเป้าอย่างที่บอร์ดตั้งความหวังเอาไว้ และบางทีทางที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ปัญหาคือการตะเพิดนายใหญ่วัย 40 ปีเพื่อหากุนซือคนใหม่พาทีมลงสนามในระบบ 4-2-2 ในเมื่ออดีตโค้ชทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ไม่มีความยืดหยุ่น และอ่านปัญหาไม่ขาดว่าลูกทีมไม่พร้อมเล่นระบบหลังสามซึ่งรังแต่จะทำให้เกมรับเสียประตูง่ายจนนักเตะต้องพากันห่วงหน้าพะวงหลังอย่างที่เห็นกันทุกนัด



ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport