เรื่องบังเอิญเกิดขึ้นได้เสมอ!

• ฟุตบอลโลกจัดขี้นในทวีปอื่นที่ไม่ใช่ยุโรปกับอเมริกาใต้
• อุรุกวัยได้อันดับสามของกลุ่มในรอบแรก
• แคนาดาตกรอบแรกด้วยการแพ้ 3 นัดรวด
• โมร็อกโกเข้ารอบเป็นอันดับหนึ่งของกลุ่ม
• อังกฤษชนะคู่แข่งที่ไม่ใช่ยุโรป 3-0 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
• รอบ 8 ทีมสุดท้ายมีทีมจากอเมริกาใต้ 2 ทีม ยุโรป 5 ทีม และทวีปอื่น 1 ทีม
• ประกบคู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมจากอเมริกาใต้เจอกับยุโรป 2 คู่ ยุโรปพบกันเอง 1 คู่ และยุโรปพบกับทวีปอื่นอีก 1 คู่
• ทีมจากอเมริกาใต้ชนะ 1 แพ้ 1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมชนะคืออาร์เจนติน่า ทีมแพ้คือบราซิล
• อาร์เจนติน่าชนะคู่แข่งที่ไม่ใช่ยุโรปด้วยผลต่างประตูเดียวในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยิงได้ 2 ประตูในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และ ดีเอโก้ มาราโดน่า ทำไป 2 ประตูในรอบน็อกเอ๊าต์ 2 เกมนั้น
• บราซิลอยู่ในกลุ่มที่มีทีมจากยุโรป 2 ทีมและแอฟริกา 1 ทีม เข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม.. ยิง 4 ประตูในรอบ 16 ทีมสุดท้าย.. ยิง 1 ประตูในรอบ 8 ทีมสุดท้าย และตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการแพ้จุดโทษทีมจากยุโรปที่ยังไม่เคยเป็นแชมป์โลก

เรื่องบังเอิญเกิดขึ้นได้เสมอนะครับ เอาเข้าจริงแล้วสิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้นจากมุมมองด้านเดียวล้วนๆ

เพราะเราอยากจะมองมันอย่างนั้น ทั้งที่ฟุตบอลโลก ปี 1986 กับ 2022 ก็ยังมีอะไรที่ไม่เหมือนกันอีกมากมาย..

เยอรมัน เบลเยียม เดนมาร์กไม่ได้ตกรอบแรกเหมือนครั้งนี้ เกาหลีใต้กับโปรตุเกสไม่ได้เข้ารอบสองเหมือนคราวนี้ อิตาลีไม่ได้ตกรอบคัดเลือกเหมือนหนนี้..

เพียงแต่เรื่องไม่เหมือนกันทั้งหลายนั้นเราพร้อมจะมองข้ามมันไป อย่างน้อยก็ในนาทีนี้ มันไม่ได้สลักสำคัญอะไรแล้วสำหรับกองเชียร์อาร์เจนติน่าที่ยังคงอยู่บนเส้นทางแห่งความฝันครั้งยิ่งใหญ่

ลิโอเนล เมสซี่ พาอาร์เจนติน่าตะลุยเข้าสู่รอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก ไปพบกับโครเอเชียที่แม้จะมีดีกรีรองแชมป์เก่า แต่ก็อดให้ความรู้สึกคล้ายกับตอนที่ ดีเอโก้ มาราโดน่านำทีมฟ้าขาวบุกเข้าไปเจอเบลเยียมในรอบเดียวกันเมื่อ 36 ปีก่อนไม่ได้ คือเป็นทีมม้ามืด..

ปี 1986 ลงเอยที่มาราโดน่าเดินหน้าต่อไปกระชากแชมป์โลกมาให้ชาวอาร์เจนไตน์ได้ชื่นชม

ปี 2022 สาวกฟ้าขาวทั่วโลกคงปรารถนาที่จะได้ชื่นใจจากการเห็นเมสซี่และผองพวกทำมันได้เช่นกัน

ลิโอเนล เมสซี่ พาอาร์เจนติน่ามาถึงหน้าประตูแล้วนะครับ มาเคาะประตูสู่นัดชิงฟุตบอลโลกแล้ว...

ตังกุย