เอ็มบั๊ปเป้เบิ้ลขึ้นดาวซัลโว! ฝรั่งเศสถลุงโปแลนด์ ลิ่ว8ทีมลุ้นชนอังกฤษ

ฝรั่งเศส ไร้ปัญหาจัดการไล่อัด โปแลนด์ จากประตูของ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ยิงครบ 52 ประตูกลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของทีมชาติฝรั่งเศสทำลายสถิติของ เธียรี่ อองรี ส่วน คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ไม่น้อยหน้าจัดสองประตูแบบสุดงามขึ้นไปนำเป็นดาวซัลโวที่ 5 ประตู ส่งผลให้ทัพตราไก่ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ หรือ เซเนเกัล ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม 2565 ที่สนาม อัล ธูปาม่า สเตเดี้ยม ระหว่าง ฝรั่งเศส พบ โปแลนด์   

ดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ เทรนเนอร์ของทีมชาติฝรั่งเศสพาทีมลงสนามล่าสุดพ่ายต่อ ตูนิเซีย 0-1 แต่ไม่ส่งผลอะไรเพราะทีมตราไก่การันตีเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะที่ เชสลาฟ มิคนีวิชซ์ เทรนเนอร์ทีมชาติโปแลนด์พาทีมลงสนามล่าสุดพ่ายต่อ อาร์เจนตินา 0-2 แต่ก็สามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาได้ในฐานะรองแชมป์ของกลุ่ม ซี

ครึ่งแรกเปิดฉากมา 4 นาทีแรกเป็น ฝรั่งเศส ที่ได้โอกาสทักทายก่อนจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งขวาแล้วเป็น ราฟาแอล วาราน โถมเข้ามาโหม่งบอลหลุดกรอบออกไป 

ฝรั่งเศส ยังเป็นฝ่ายขึงเกมบุกใส่อยู่ฝ่ายเดียว นาที 13 ออเรเลียง ชูอาเมนี่ ลองส่องหน้ากรอบด้วยขวาไปติดเซฟของ วอยเชียค เชสนี่ 

โปแลนด์ ได้โอกาสโต้กลับมาบ้าง และเกือบขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 21 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้บอลหน้าเขตโทษก่อนตะบันด้วยซ้ายส่งบอลหลุดกรอบไปนิดเดียว 

จากนั้นนาที 29 ฝรั่งเศส ชวดขึ้นนำแบบเหลือเชื่อเมื่อ อุสมาน เดมเบเล่ ปาดบอลไปที่เสาไกลให้ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์เข้าชาร์จที่เสาไกลคนเดียวโล่งๆ แต่บอลแรงไปทำให้เจ้าตัวยิงไม่ตรงกรอบ

นาที 35 คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ ลากบอลเข้าเขตโทษก่อนล็อกเข้าซ้ายแล้วยิงยัดเสาแรกแต่ วอยเชียค เชสนี่ ยังยืนปิดมุมได้ดีปัดทิ้งออกหลัง 

นาที 38 โปแลนด์ เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ พิโอเตอร์ ซิลินสกี้ ได้ซัดโล่งๆหน้าเขตโทษไปตรงตัว อูโก้ โยริส ที่ปัดมาเข้าทางแล้วตามซ้ำอีกรอบก็ยังติดบล็อก 

อย่างไรก็ตามเกมทำท่าว่าจะจบด้วยการเสมอกันอยู่แล้ว จนกระทั่งนาทีที่ 44 ฝรั่งเศส ปลดล็อกขึ้นนำ 1-0 คีลียัน เอ็มบั๊ปเป้ แทงทะลุช่องให้ ชิรูด์ หลุดมาพลิกตัวยิงด้วยซ้ายในเขตโทษส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไป และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้ 

ครึ่งหลัง ฝรั่งเศส ยังเดินหน้าบุกใส่และเกือบได้ลูกสองในนาที 57 คีลียัน เอ็มบั๊เป้ พยายามปั่นด้วยขวาหน้ากรอบบอลไปแฉลบแนวรับ โปแลนด์ พุ่งหลุดเสาไกลออกไป 

หลังจากนั้นนาทีที่ 75 ฝรั่งเศส ทิ้งห่างเป็น 2-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว อุสมาน เดมเบเล่ จ่ายบอลมาให้ เอ็มบั๊ปเป้ ตั้งป้อมกดด้วยขวาในเขตโทษส่งบอลเสียบเสาแรกเข้าไปแบบงามหยด 

เท่านั้นไม่พอ นาที  ฝรั่งเศส ทิ้งห่างเป็น 3-0 เมื่อ มาร์คัส ตูราม จ่ายบอลให้ เอ็มบั๊ปเป้ ในเขตโทษ ก่อนตั้งป้อมกดด้วยขวาส่งบอลเสียบเสาไกลเข้าไปแบบสุดสวย 

ช่วงทดเวลา นาที 90+7 ผู้ตัดสินได้รับสัญญาณ VAR ก่อนจะกลับมาเป่าจุดโทษให้กับ โปแลนด์ แล้วเป็น โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ที่ยิงไปติดเซฟ อูโก้ โยริส แต่นายด่าน ฝรั่งเศส ถูกจับฟาวล์เนื่องจากขยับขาออกมาจากเส้นก่อน และได้ยิงครั้งที่สองเข้าไปให้ โปแลนด์ ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ฝรั่งเศส เอาชนะ โปแลนด์ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปรอพบผู้ชนะระหว่าง อังกฤษ หรือ เซเนเกัล ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้  




รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ฝรั่งเศส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาแอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ - ออเรเลียง ชูอาเมนี่ (ยุสซุฟ โฟฟาน่า น.66), อาเดรียง ราบิโอต์ - อุสมาน เดมเบเล่ (คิงส์ลีย์ โกมัน น.76), อองตวน กรีซมันน์, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ - โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ (มาร์คัส ตูราม น.76)

โปแลนด์ (4-5-1) : วอยเชียค เชสนี่ - แม็ตตี้ แคช, คามิล กลิค, ยาคุบ คิวิออร์ (ยาน เบ็ดนาเร็ก น.87), บาร์ตอสซ์ เบเรสซินสกี้ - พิโอเตอร์ ซิลินสกี้, คริสเตียน บีลิค, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวียค (คริสเตียน เบียลิค น.71), เพอร์เซมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้, เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (อาร์คาดิอุสท์ มิลิค น.64) -โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ 



ที่มาของภาพ : Getty
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport