แทบรากเลือด! สิ่งที่อยากบอกหลัง บราซิล เชือด สวิตเซอร์แลนด์

บราซิล ที่ผู้ชมทางบ้านอย่างผมเห็นเมื่อคืน

1. กว่าจะเอาชนะคู่แข่งก็แทบรากเลือดเหมือนกัน เพราะ สวิตเซอร์แลนด์ เล่นเกมรับได้เหนียวแน่นจริงๆ ไม่เปิดโอกาสให้ทีมแซมบ้าหาจังหวะจบง่ายๆ ตลอดทั้งเกมมีโอกาสทำประตูไม่ถึง 10 ครั้ง ผิดกับเกมอัด เซอร์เบีย ที่มีโอกาสมากกว่า 20 ครั้ง

2. จังหวะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ หลุดไปยิงอย่างเยือกเย็นและเหนือชั้นจัดเป็นการเปลี่ยนจังหวะมาจู่โจมที่เจ๋งมากของ บราซิล น่าเสียดายที่ ริชาร์ลิสัน วิ่งกลับมาจากจังหวะล้ำหน้า 





3. กระนั้นที่เจ๋งกว่าคือการตะบันประตูชัยของ กาเซมิโร่

เมื่อบอลกระเด้งมาหา 'พี่เกษม' ตัดสินใจสับเปรี้ยงเดียวด้วยอีขวาทันทีในรูปแบบของการ 'ฮาล์ฟวอลเล่ย์' แถมยิงแบบเฉือนๆ ลูกพุ่งเข้าประตูทะลุหน้าต่างจนผู้ชมทางบ้านต้องอุทานเป็นภาษาโปรตุเกสว่า...

เจ๊ตเข้ !!!

4. วินิซิอุส จูเนียร์ ถูกวิจารณ์อย่างหนัก โทษฐานที่กระชากลากเลี้ยงแบบติดๆ ขัดๆ จนน่าหงุดหงิด (สำหรับท่านต่อศักดิ์)

แต่หากดูเกมอย่างละเอียด คุณจะพบว่านักเตะผู้นี้แหละที่มีส่วนกับการเข้าทำของ บราซิล เกือบทุกจังหวะ รวมถึงประตูชัยด้วย...นะจ๊ะ

5. พลพรรคเซเลเซาชุดนี้ถูกบ่นว่าเล่นตามแผน ตามกลยุทธ์ของผู้เป็นโค้ช แถมยังแอบเล่นแบบเน้นผลการแข่งขันมากกว่าความบันเทิงของท่านผู้ชม

นอกจากนี้ยังเอาความเป็นศาสตร์มาเจือปนกับความเป็นศิลปะมากเกินไปจนสูญเสียเอกลักษณ์ และความเป็นตัวตน

แต่จริงๆ บราซิล ก็ปรับตัวตามความทันสมัยของโลกลูกหนังมาตลอดนั่นแหละ สงสัยจะลืมกันไปแล้วว่าตอนคว้าแชมป์โลกในปี 1994 พวกเขาก็ไม่ได้เล่นแบบบุกแหลก และให้ความสำคัญกับเกมรับมากขึ้น

เช่นเดียวกับตอนคว้าแชมป์โลกในปี 2002 ที่ใช้ระบบ 'หลังสาม'

พูดง่ายๆ ว่าถ้าอยากจะประสบความสำเร็จ มึงจะเป็นตัวของตัวเองเพียงอย่างเดียวไม่ได้

บอ.บู๋


ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : บอ.บู๋
บูรณิจฉ์ รัตนวิเชียร
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport