เปิดเงื่อนไขทำยังไง แชมป์โลก 4 สมัย เยอรมนี จะเอาตัวรอดผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์?

สภาพของ เยอรมนี ในเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับคนป่วยอาการโคม่านอนพะงาบๆ อยู่ในห้องฉุกเฉิน หลังจากทำได้เพียงแค่เสมอ สเปน 1-1 ในเกมนัด 2 กลุ่ม อี ศึกฟุตบอลโลก 2022 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

 ทัพ "อินทรีเหล็ก" เดินทางมาประเทศกาตาร์ในฐานะหนึ่งในชาติที่มีโอกาสคว้าโทรฟี่เวิลด์ คัพ แต่สถานการณ์กลับตาลปัตรเมื่อพวกเขาประเดิมทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยการพ่ายให้กับ ญี่ปุ่น 1-2 ทั้งๆ ที่ขึ้นนำไปก่อนในช่วงครึ่งแรก แต่โดนทัพ "ซามูไรบลู" ยิงคืนสองลูกรวดในครึ่งหลัง

 จากนั้นพวกเขาต้องพบกับศึกหนักเมื่อต้องปะทะกับ สเปน และทำได้แค่การไล่ตีเสมอ ส่งผลให้ตอนนี้ทีมของกุนซือฮันซี่ ฟลิค สภาพร่อแร่เหลือเกิน เพราะรั้งอันดับบ๊วยกลุ่มมีแค่แต้มเดียวเท่านั้น 

 สำหรับตอนนี้ สเปน รั้งจ่าฝูงกลุ่ม อี จากการชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 คะแนน (+ 7 ประตู) ตามด้วย ญี่ปุ่น ที่ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 แต้ม (+ 0 ประตู), คอสตาริกา รั้งอันดับ 3 มี 3 คะแนน (- 6 ประตู) แต่ผลต่างประตูได้เสียเป็นรองแข้งปลาดิบ ตบท้ายด้วยแชมป์โลก 4 สมัยที่มีเพียง 1 แต้ม (-1 ประตู) เท่านั้น

 แม้ว่าในเวลานี้ เยอรมนี ยังมีลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย แต่อาการของพวกเขาก็ร่อแร่เหลือเกิน สำหรับเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มทัพเบียร์ต้องพบกับ คอสตาริกา โดยพวกเขามีเงื่อนไขอะไรที่จะทำให้รอดจากสถานการณ์นี้ และได้ต่อลมหายใจลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 5 !!





- เยอรมนี ต้องชนะ คอสตาริกา และลุ้นให้ สเปน ทุบ ญี่ปุ่น 

- หาก ญี่ปุ่น ชนะ สเปน งานนี้ เยอรมนี ต้องชนะ คอสตาริกา ให้มากที่สุดเพื่อลุ้นผลต่างประตูได้เสียซึ่งค่อนข้างยากเนื่องจากทัพ "กระทิงดุ" มีผลต่างประตูได้เสีย +7 เลยทีเดียว 

- กรณีที่ สเปน เสมอ ญี่ปุ่น จะทำให้ "ซามูไรบลู" มี 4 คะแนน โดยผลต่างประตูได้เสียจะมีศูนย์ (0) เท่าเดิม งานนี้ เยอรมนี ต้องคว่ำ คอสตาริกา ให้ได้ 2 ประตูหรือมากกว่านั้น ถึงจะเข้าไปเล่นรอบน็อกเอาต์

- แต่ในกรณีที่ ญี่ปุ่น เสมอ สเปน 0-0  ขณะที่ เยอรมนี ชนะแค่ 1-0  กรณีนี้ทัพบูชิโดจะได้เข้ารอบเนื่องจากเฮด-ทู-เฮดดีกว่า (ญี่ปุ่นชนะ เยอรมนี 2-1)

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : gettyimages.ae
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport