"ทาคุมะ อาซาโนะ" เมด อิน เจแปน แดนดินยอดนักสู้!

โทษฐานที่ ทาคุมะ อาซาโนะ สร้างชื่อระบือนามกับการเป็นผู้ยิงประตูชัยให้ญี่ปุ่น พลิกล็อกชนะเยอรมัน แบบช็อกโลก ว่าแล้ว 'SIAMSPORT' จึงขอนำคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับแนวรุกวัย 28 ปี คนนี้ให้มากกว่าเดิม!!

   ทาคุมะ อาซาโนะ ชื่อนี้คงจะเป็นที่รู้จักสำหรับแฟนฟุตบอลชาวไทย ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะตอนที่ย้ายจาก ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ ไปเล่นกับ อาร์เซน่อล เมื่อปี 2016 

    อะไรต่อมิอะไรดูเหมือนจะไปได้สวย แต่กลับผิดคาด เมื่อเขาไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งในทีมปืนใหญ่ได้สำเร็จ จนต้องระเห็จไปเยอรมัน ที่ สตุทการ์ท ตามด้วย ฮันโนเวอร์ ในรูปแบบของการยืมตัว

    สุดท้ายกลายเป็นว่าแนวรุกคนนี้ไม่ได้ลงสนามในนามนักเตะ อาร์เซน่อล เลยสักเกม

    ทว่าเมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 23 พฤศจิกายาน ชื่อของ อาซาโนะ ถูกกล่าวถึงในวงกว้างกับการเป็น 'ฮีโร่' ยิงประตูชัยให้ญี่ปุ่น พลิกล็อกเอาชนะเยอรมัน ได้สำเร็จ 2-1 

    เด็กหนุ่มจากโคมาโนะ เมืองในจังหวัดมิเอะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของดินแดนแห่งซามูไร เขาเริ่มเล่นฟุตบอลโดยมี 'พี่ชาย' เป็นแรงบันดาลใจ ก่อนจะไปเข้าศึกษาที่โรงเรียนในท้องถิ่น

    ด้วยพรสวรรค์ที่เฉิดฉายแบบแวววับ - คุณครูประจำชั้นของ อาซาโนะ ได้แนะนำให้คุณพ่อและคุณแม่ของเขาสนับสนุนลูกชายคนนี้อย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าวันใดวันหนึ่งข้างหน้า หนูน้อยคนนี้จะไปไกลบนเส้นทางลูกหนัง

    และเหตุนี้ ในวัย 14 ขวบ เขาจึงได้ไปศึกษาต่อที่มัธยมเทคนิค โยคาอิชิ ชุโอะ ซึ่งเป็นสถาบันที่โดดเด่นในเรื่องกีฬา และก็เริ่มสร้างชื่อในฟุตบอลระดับนักเรียนจนถูกรับเลือกให้เป็น 'ผู้เล่นยอดเยี่ยม' 2 ปี ซ้อน

    ฟอร์มระดับนี้มีหรือจะรอดพ้นสายตา 'แมวมอง' ของ เจลีก โดยมี 2 สโมสร ที่ล็อกเป้าแบบจริงจังคือ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิมะ กับ โยโกฮามะ มะรินอส ที่ยื่นข้อเสนอให้พิจารณา

    หลังจากไตร่ตรองอยู่นานพอควร อาซาโนะ เลือกไปอยู่กับ ซานเฟรซเซ่ และก็ได้เซ็นสัญญาครั้งแรกตอนอายุ 18 ปี เท่านั้น

    พอก้าวสู่การเป็นนักเตะอาชีพอย่างเต็มตัว เขาก็ประเดิมสนามทันทีฤดูกาล 2013 แม้จะได้ลงเล่นแค่เกมเดียว แต่นั่นถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้แนวรุกคนนี้เดินหน้าอย่างมั่นคง

    การได้อยู่กับทีมใหญ่อย่าง ซานเฟรซเซ่ ทำให้พัฒนาการด้านฝีเท้าของ อาซาโนะ พัฒนาอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นทำให้เขาค่อยๆ กลายเป็นผู้เล่นหลักของสโมสรในซีซั่น 2015 และ 2016

    โดยเฉพาะในปี 2015 ที่ซัดไปในลีก 9 ประตู พาทีมคว้าแชมป์ เจลีก ได้สำเร็จ ส่วนตนเองก็ได้รับเลือกให้เป็น 'ดาวรุ่งยอดเยี่ยม' ในฤดูกาลนั้นเอง

    ห้วงเวลาที่โลดแล่นกับ ซานเฟรซเซ่ เขาถูกนักข่าวประจำสโมสรเขียนเรื่องราวในอดีต และได้นำไปเปรียบเทียบกับ 'เสือจากัวร์' ซึ่งมีที่มาจากการที่เป็นนักเตะที่มีสปีดต้นจัดจ้าน บวกกับมีความกระหายในกรอบเขตโทษ และนั่นเองจึงเป็นที่มาของฉายาที่สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน

    ด้วยผลงานการเล่นที่กระฉูดแตก แถมอายุยังน้อย และการที่ในเวลานั้น อาร์เซน่อล มี อาแซน เวนเกอร์ ซึ่งมีความสัมพันธ์อันดีกับลีกญี่ปุ่น เป็นกุนซือ ทำให้ อาซาโนะ ลัดฟ้าสู่นครลอนดอน ประเทศอังกฤษ พร้อมกับความคาดหวังว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์ของ เดอะ บลู ซามูไร ในอนาคต

    ทุกอย่างกำลังไปได้สวย การย้ายไป พรีเมียร์ลีก ในวัยเพียง 21 ปี ทำให้สปอตไลต์สาดส่องมาที่แนวรุกคนนี้ไม่เว้นแต่ละวัน

    ทว่าการที่เป็นผู้เล่นนอกอียู อีกทั้งยังเพิ่งมีสถิติรับใช้ทีมชาติเพียง 10 เกม ทำให้ อาซาโนะ ไม่ได้เวิร์กเพอร์มิตหรือใบอนุญาตทำงานที่อังกฤษ ซึ่งนั่นส่งผลให้เขาต้องย้ายไปลีกเยอรมัน ในรูปแบบของการยืมตัว

    แต่ 'เพชร' อยู่ที่ใดก็ย่อมเป็น 'เพขร' - ผลงานการนำ สตุ๊ทการ์ท เลื่อนชั้นกลับมา บุนเดสลีกา ในฤดูกาล 2017-18 ก็เป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญในชีวิตของตัวรุกชาวญี่ปุ่น 

    ซีซั่น 2018-19 เขาถูกปล่อยยืมตัวไปที่ ฮันโนเวอร์ และก็หมดสัญญากับ อาร์เซน่อล หลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้เอง




    การไม่ได้ไปต่อกับ ฮันโนเวอร์ ลดทอนความมั่นใจของ อาซาโนะ ไปพอสมควร ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากเรื่องปัญหาบาดเจ็บรุมเร้าเป็นระยะ รวมไปถึงสภาพจิตใจที่ต้องหลุดทีมชาติชุดฟุตบอลโลก 2018

    กระทั่งการได้สโมสรใหม่อย่าง ปาร์ติซาน เบลเกรด ในลีกเซอร์เบีย นั้นทำให้เขากลับมามีชีวิตชีวาอีกหน ก่อนจะได้หวนคืนสู่ลีกเยอรมัน กับ โบคุ่ม ในฤดูกาล 2021-22

    ที่ โบคุ่ม เขาได้เสื้อหมายเลข 10 ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่ต้นสังกัดมีให้ในตัว อาซาโนะ และมันทำให้ความมั่นใจของเขาเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนกลับมาเป็นตัวหลักของทีมชาติญี่ปุ่น ในที่สุด

    เกมออกสตาร์ต เวิร์ล คัพ 2022 เขาอาจจะไม่ได้ลงสนามเป็นตัวจริง แต่การเป็น 'ฮีโร่' กับประตูชัยดับเยอรมัน ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาเก่งกาจเพียงใด

    เสียงเฮลั่นของแฟนฟุตบอลในสนาม บวกกับความยินดีของชาวไทย กับความภูมิใจที่ อาซาโนะ แสดงให้โลกเห็นว่าชาติจากเอเชีย ได้ก้าวข้ามคำว่า 'ทีมรองบ่อน' ไปแล้ว

    ผลิตผลจาก เจลีก ในวันนั้น ถูกรังสรรค์สู่โลกกว้างในวันนี้

    ทาคุมะ อาซาโนะ


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport