โรนัลโด้ น้อยลง…โปรตุเกสมากขึ้น

อะไรมันจะเป๊ะขนาดนั้นเรื่องของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ด้วยเพราะสื่อกีฬาโปรตุเกส ออกมาเรียกร้องให้ โค้ชทีมชาติ แฟร์นานโด ซานโตส “ดร็อป” โรนัลโด้ เป็นตัวสำรอง ในจังหวะประกาศตัวทีมชาติชุดบอลโลก2022 

จริงๆคอลัมนิสต์รุ่นเก๋าโปรตุกีสหลายคนเขียนวิจารณ์เรื่องนี้มาสักพักละ… 

เพียงแต่ก็เป็นประเด็นที่ไม่ถูกขยายผลมากเท่ากับการให้สัมภาษณ์ล่าสุดที่โยนระเบิดเวลาใส่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ผมเองเขียนเรื่องโรนัลโด้และทีมชาติโปรตุเกสไปเมื่อ 12 พ.ย. ในสตาร์ซ็อคเกอร์แล้ว นี้เห็นเข้าสถานการณ์เป็นอีกมุมหนึ่งที่พัวพันกับ “โด้” พอดี

โดยเฉพาะความพิเศษของเขาในทีมชาติ

สำนักบีบีซี ไปสัมภาษณ์ สื่อโปรตุเกสเอามาลงเมื่อ11

พ.ย. เนื้อความทั้งหมดคือการสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นในทีมชาติของพวกเขา

บังเอิญ2-3 วันให้หลัง โรนัลโด้ กลายเป็นข่าวใหญ่จากการให้สัมภาษณอย่างไม่เกรงใจใครทั้งนั้น

มันโป๊ะเชะ ต่างเวลาแต่เรื่องเดียวกัน 

นี่ผมเลยเอาบทความบางส่วนของผมในแทบลอยด์มาให้อ่าน อย่าคิดว่า “ขยี้” เลยครับ มันคือ fact ในอีกมุมหนึ่งเท่านั้นเอง

ลองอ่านกันดูครับ

โรนัลโด้ เป็นชาวเกาะ มาเดร่า ที่นั่นเขาได้รับการยกย่องว่า   'bigger than the Catholic church' ยิ่งใหญ่กว่าโบสถ์คาทอลิกซะอีก เช่นกันครับการมีชื่อติดทีมชาติโปรตุเกสในครั้งนี้ ยืนยันสถานะภาพของการ "แตะต้องอะไรไม่ได้เลย" หรือ untouchable ได้ดี

อย่างที่จั่วหัวไป...สื่อกีฬาโปรตุกีสรายใหญ่อย่าง อา โบลา เรียกร้องให้ แฟร์นานโด ซานโตส มองเห็นความสำคัญของทีมชาติโปรตุเกสมากกว่าที่จะให้ความสำคัญกับ โรนัลโด้

การพาดหัว 'Less Ronaldo, more Portugal'.

โรนัลโด้ น้อยลง โปรตุเกสมากขึ้น คือเสียงสะท้อนจากสื่อกีฬา

ติอาโก้ แฟร์นานดส์ อดีตโค้ชทีมสปอร์ติง ซึ่งปัจจุบันวิเคราะห์เกมฟุตบอลทางทีวี ถึงขั้นชี้ว่า โรนัลโด้ ต่างหากมีบทบาทสำคัญในการกำหนดจำนวนนาทีที่ลงสนามของเขาเลยด้วยซ้ำ 

ไม่ใช่โค้ช ซานโต๊ส

โอเค...ถ้าเมื่อก่อนพอได้สมัยเขาพร้อมและฟิต หนุ่มแน่นกว่านี้ (ย้อนไป 7-10 ปี)

วันนี้เขา 37 ปีแล้ว ถ้าลงเล่นตัวจริงก็สามารถโดนเปลี่ยนได้หากเกมไม่เป็นใจ หรืออาจลงสนามทีหลังในฐานะตัวสำรองเพื่อเป็นหมากแก้เกม เพื่อไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำในทีมจากความเป็นอภิสิทธิ์ใหญ่ในทีมของเขา

ทุกคนในโปรตุกีสต่างรับรู้ในความ "ใหญ่" ของเขา

1 พักร้อนก่อนเพื่อนร่วมทีม

2 ขว้างปลอกแขนกัปตันทีมลงพื้นมากกว่าหนึ่งช่วงยูโร 2020

3  งดออกสื่อสัมภาษณ์หลังล้มเหลวในยูโร

การกระทำหลายอย่างถูกมองว่าใช้ไม่ได้แล้วตอนนี้ อีกทั้งสื่อโปรตุกีสพากันวิเคราะห์ว่านี่คือครั้งแรกที่โรนัลโด้ ไปฟุตบอลโลกได้ด้วย "ชื่อเสียงเก่าๆ" หาใช่ฝีเท้าและความสามารถแต่อย่างไรไม่

นักวิเคราะห์ฟุตบอลชื่อดังของโปรตุเกสอย่าง อันโตนีโอ ตาเดยา ที่ทำงานให้  RTP  ตั้งแต่บอลยูโร 1992 สัมภาษณ์กับบีบีซี สปอร์ต ว่า "สหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกสไม่เคยยอมรับว่าพวกเขาปฏิบัติกับโรนัลโด้อย่างเป็นพิเศษมานาน แม้พวกเราจะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหน้างานว่าออกมาแบบนั้น ส่วนตัวของผมมองว่านี่คือเรื่องที่ไม่ปกติเท่าไหร่นัก"

ตาเดยา ยังบอกอีกว่า....

"Obviously, I'm not defending that, and you've got stuff in the daily work that even the biggest stars have to do like the other players. But it would be a bit silly to think that a 39-year-old like Pepe or a 37-year-old like Cristiano will train the same way a 20-year-old does because that wouldn't be normal.

ชัดเจนอย่างยิ่ง ผมไม่ได้มายืนยันเหตุผลที่วิจารณ์นะครับ คุณลองดูว่างานแต่ละวันนั้นกระทั่งซุปเปอร์สตาร์จะต้องทำอะไรเหมือนนักเตะคนอื่นๆ มันคงงี่เง่ามากเลยที่เราไปคิดว่า เปเป อายุ 39 และ โรนัลโด้ อายุ 37 ปี จะไปวิ่งซ้อมเหมือนนักเตะอายุ 20 ปี คงเป็นเรื่องไม่ปกติละครับ"

สื่อโปรตุกีสมองว่า.... ซานโต๊ส มีโรนัลโด้ ในทีมเพื่อเป็นไม้กันหมา หลังจากเขาโดนวิจารณ์ว่าล้มเหลวและสมควรโดนปลดออกจากตำแหน่ง เหมือน โด้ มาช่วยบังเพศภัยให้เขาในการทำงานอะไรประมาณนี้

มีการยืนยันเป็นตัวเลข 9 เกมล่าสุดของโปรตุเกสก่อนฟุตบอลโลก โรนัลโด้ ยิงไม่ได้ 8 เกม แต่ตำแหน่งตัวจริงของเขายังได้รับการการันตีว่างลงสนาม อันนี้แตกต่างจาก รุย ปาทริซิโอ ประตูและ เชา มูตินโญ กองกลางตัวคุมเกม ที่พร้อมโดนปลดออกจากตัวจริงได้ถ้าเล่นแย่

ส่วนโรนัลโด้ ยังคงยืนหนึ่งต่อไปในสนาม

บางทีคนโปรตุกีสและ แฟร์นานโด ซานโตส คงหลับตาข้างหนึ่งยอมลดหลักการลงบ้าง ด้วยเพราะแม้ โปรตุเกสคือชาติที่ผลิตนักเตะระดับโลกมาไม่ขาดสาย เล่นทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปโดยเฉพาะห้าลีกดัง ทีมระดับแสนล้าน ได้ความสำเร็จระดับสโมสรแบบไม่ต้องเอ่ยชื่อว่าใครบ้าง

ทว่า...โปรตุเกสเองกลับไม่เคยคว้าแชมป์อะไรได้เลย

ดีสุดของฟุตบอลโลกคือที่ 3 ยุค ยูเซบิโอ (ก็ไม่ใช่เลือดโปรตุเกสแท้) ถ้าเป็นบอลยูโรก็ 2004 ซึ่งพวกเขาโดนมองว่านอนมาแน่ๆ เป็นเจ้าภาพด้วย และตัวเต็มด้วย โรนัลโด้ ก็อยู่ชุดนั้น สุดท้าย...ไม่ได้

แค่รองแชมป์...

จนกระทั่งยูโร 2016  (รวม เนชั่นส์ ลีก 2019)โรนัลโด้ มีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ยูโร และเป็นเกียรติยศแรกของทีมชาติโปรตุเกสในเกมฟุตบอล มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เขายังคงเล่นและเป็นเสาหลักของทีมชาติ

ความสำเร็จคือการตอกย้ำคุณภาพนักเตะและทีมโปรตุเกสอย่างสมบูรณ์แบบ โดยมี โรนัลโด้ นำขบวน

มันไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปในการที่โปรตุเกสจะคว้าแชมป์ระดับชาติ มันเกิดขึ้นด้วยความเป็นจริง และมันเกิดขึ้นภายใต้ยุคของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 

ดังนั้นนี่คือจุดที่เขาได้รับ "อภิสิทธิ์การ์ด" ไปตลอดกาล

ในนามของนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของโปรตุเกส คงทำให้ ซานโตส ยากที่จะรับมือกับเรื่องนี้ หากเขาไม่ให้ลงสนามแล้ว โด้ เกิดก่อหวอดขึ้นมา เหมือนที่ เอริก เทน ฮาก เผชิญหน้าอยู่

แน่นอน...แฟนบอลโปรตุเกสยังคงเชื่อมั่นในตัวโรนัลโด้ ว่าคือนักเตะที่ดีสุดในโลก จนนำมาซึ่งเรื่องราวที่ว่าใครกล้าตั้งคำถามถึงสถานะภาพของเขาในทีมชาติ มีใครอีกมั้ยที่จะทำเช่นนั้น (นอกจากสื่อ)

ในการลงสนาม...ทุกคนเห็นแล้วว่า โรนัลโด้ เล่นบอลตามแทกติกตัวเอง

อยากออกนอกเขตโทษ ก็ออกมา อยากวิ่งไปด้านข้างก็วิ่งไป หากเล่นตัวจริงก็ต้องได้เล่น ถ้าหากต้องการพัก ก็นั่งที่ม้านั่งสำรอง หากยังคงอยากเล่นในสนามก็อย่าเปลี่ยนเขาออกมา

ทุกอย่างดูเหมือนว่า โรนัลโด้ เป็นโค้ชซะเอง โดย แฟร์นานโด ซานโตส คือผู้ช่วยซะมากกว่า 

ตาเดยา ทิ้งท้ายว่า...

"I still think Cristiano can be very useful, but it would be important to find some balance on how to use him because he no longer has the same physical condition. The point here is whether he would be capable of understanding it."

ผมยังคิดว่าโรนัลโด้มีประโยชน์กับทีมมาก แต่คงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรักษาสมดุลในการใช้โรนัลโด้ ด้วยเพราะเขาไม่ได้มีสภาพพร้อมด้านร่างกายเหมือนก่อนอีกแล้ว"

"ประเด็นคือว่า แล้ว โรนัลโด้ พร้อมที่จะเข้าใจเรื่องนี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง"

JACKIE


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport