รักบี้ทีมชาติไทยสร้างประวัติศาสตร์คว้า 2 เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ทั้งทีมหญิงและทีมชายเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี โดยทีมหญิงถล่มมาเลเซียขาดลอย ส่วนทีมชายเฉือนสิงคโปร์สุดมันต่อหน้าแฟนไทย
การแข่งขันกีฬารักบี้ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่สนามกีฬากองทัพอากาศ (ธูปะเตมีย์) เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2568 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยได้รับความสนใจจากแฟนกีฬาจำนวนมาก
ภายในสนามมี พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ ประธานสหพันธ์กีฬารักบี้แห่งอาเซียน และนายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมคณะกรรมการบริหารสมาคม ตัวแทนชาติสมาชิกอาเซียนและเอเชีย รวมถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เข้าร่วมชมการแข่งขันอย่างพร้อมเพรียง
เริ่มจากรอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมหญิง ทีมรักบี้สาวไทย แชมป์เก่า 4 สมัย ลงสนามพบกับ มาเลเซีย ซึ่งผลการแข่งขันเป็นไปตามความคาดหมาย เมื่อทีมชาติไทยโชว์ฟอร์มเหนือชั้น ไล่ถล่มไปแบบขาดลอย 37-0 คะแนน ป้องกันแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกัน และยังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ด้วยการเป็นทีมรักบี้หญิงไทยชุดแรกที่ไม่เสียแต้มให้คู่แข่งเลยตลอดการแข่งขันซีเกมส์
ขณะที่ ประเภททีมชาย ทีมชาติไทยซึ่งตั้งเป้าคว้าแชมป์ในบ้าน พบกับ สิงคโปร์ โดยในรอบแรกไทยเคยเอาชนะมาได้ขาดลอย 22-0 คะแนน เกมรอบชิงชนะเลิศเริ่มต้นอย่างอึดอัด ทั้งสองทีมเล่นอย่างรัดกุม ก่อนที่ในช่วงท้ายครึ่งแรก พีระพล ชูควร จะเตะลูกแล้ววิ่งเข้าไปวางทรัย ส่งให้ไทยขึ้นนำ 5-0 คะแนน
เข้าสู่ครึ่งหลัง นพสิทธิ์ กลัดกระยาง มาวางทรัยเพิ่ม ทำให้ไทยนำห่างเป็น 10-0 คะแนน ก่อนที่ช่วงใกล้หมดเวลา สิงคโปร์จะไล่มาเป็น 5-10 คะแนน แต่สุดท้ายไม่ทัน ส่งผลให้ทีมชาติไทยเฉือนชนะ 10-5 คะแนน คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ นับเป็นแชมป์ซีเกมส์ประเภททีมชายครั้งแรกในรอบ 18 ปี ต่อจากครั้งล่าสุดเมื่อปี 2007 ที่จังหวัดนครราชสีมา
หลังจบการแข่งขัน พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เปิดเผยด้วยความปลาบปลื้มว่า รู้สึกดีใจอย่างมากจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ที่ทีมรักบี้ไทยสามารถกลับมาคว้า 2 เหรียญทองซีเกมส์ได้พร้อมกันอีกครั้ง หลังจากรอคอยมานาน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะต้องคว้า 2 เหรียญทองในบ้านของเราเอง พร้อมขอบคุณแฟนกีฬาทุกคนที่เข้ามาเชียร์ในสนามและส่งกำลังใจจากทางบ้าน รวมถึงระบุว่าทีมหญิงยังต้องเตรียมทีมต่อเนื่องเพื่อแข่งขันเวิลด์ชาเลนจ์ซีรีส์ในเดือนหน้า
ด้าน พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง อุปนายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งของรักบี้ไทย หลังจากไม่ได้ 2 เหรียญทองพร้อมกันมาตั้งแต่ปี 2007 และเป็นผลจากความทุ่มเทของนักกีฬาทุกคน รวมถึงการทำงานของสมาคมและทีมงานอย่างเป็นระบบ
ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวเสริมว่า อบจ.ปทุมธานีมีส่วนร่วมสนับสนุนการปรับปรุงสนามแข่งขันให้มีความพร้อมและสวยงามสมศักดิ์ศรีซีเกมส์ พร้อมแสดงความยินดีกับสมาคมกีฬารักบี้ไทย ที่สามารถสร้างผลงานคว้า 2 เหรียญทองในบ้านได้อย่างยิ่งใหญ่ และจารึกเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการรักบี้ไทย