5 ประเด็นหลังเกมไทยอัดสิงคโปร์ 3-0 - เกมที่บอกทุกอย่างว่าพร้อมหรือยังสำหรับลุ้นทอง

 5 ประเด็นหลังเกมไทยอัดสิงคโปร์ 3-0 - เกมที่บอกทุกอย่างว่าพร้อมหรือยังสำหรับลุ้นทอง
อีกหนึ่งค่ำคืนที่ทีมชาติไทย เก็บ 3 แต้มได้ตามเป้า แต่เกมชนะสิงคโปร์ 3-0 คือแบบทดสอบชั้นดีว่า ช้างศึกยังมีอะไรต้องขัดเกลาและอะไรที่เริ่มเข้ารูปเข้ารอยก่อนภารกิจล่าเหรียญทองกำลังจะมาถึง!!

[ 1 ] ชุดผสมครึ่งแรก = ขาดความลื่นไหลอย่างเห็นได้ชัด

เกมนี้ ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล เลือกทดลองทีมอีกครั้ง ด้วยการส่งผู้เล่นชุดผสม ซึ่งทำให้จังหวะต่อบอลและการประสานงานขาดๆ เกินๆ โดยเฉพาะฟูลแบ็กฝั่งขวาที่ใช้ วีชั่น อินอร่าม ลงสนาม ทั้งที่เจ้าตัวเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟธรรมชาติ

ด้วยรูปร่าง 1.86 เมตร เมื่อถูกดันออกด้านข้าง เขายังดูไม่คล่อง ไม่มั่นใจตามสไตล์ผู้เล่นเกมรับตัวกลาง แม้จะมีจังหวะเติมสูงให้เห็นบ้าง แต่ชัดเจนว่ายังต้องการเวลาในการพัฒนา

ครึ่งแรกจึงออกมาดูเนือยๆ จังหวะเข้าทำไม่มีความต่อเนื่องนัก แม้จะครองบอลเหนือกว่า แต่ยังขาดความดุดันในพื้นที่สุดท้าย


[ 2 ] ต้องชมสิงคโปร์ - แท็กติกตัดเกม+สกัดหนักทำไทย เล่นไม่ออกช่วงหนึ่ง

สิงคโปร์ วางหมากมาดีอย่างคาดไม่ถึง เล่นเกมรับแบบเข้าถึงตัวเร็ว เก็บฟาวล์จังหวะสำคัญ และพยายามทำลายจังหวะเกมรุกไทย ตลอดทั้งครึ่งแรก

รูปแบบนี้ทำให้แข้งช้างศึกหลายคนดูอึดอัดและลังเล เกรงว่าจะโดนเข้าสกัดหนักจนต้องเล่นเซฟเกินไป บทเรียนจากครึ่งแรกคือไทย ต้องรับมือให้ได้กับวิธีเล่นที่ไม่เปิดพื้นที่มากนักแบบนี้ เพราะในรอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงเหรียญทองจะเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่ารอบแบ่งกลุ่มแน่นอน


[ 3 ] ครึ่งหลังเปลี่ยนหน้า เปลี่ยนจังหวะ - ตัวหลักลงมาพลิกเกม

ทุกอย่างเปลี่ยนไปทันทีหลังพักครึ่ง เมื่อ 'โค้ชวัง' ส่ง พิชิตชัย เศียรกระโทก และ ชานนท์ ทำมา ลงสนาม เพราะสองรายนี้คือแข้งหลักที่เขามีในใจอยู่แล้ว

เกมรุกกลับมามีชีวิตทันที ทั้งสปีด, การเคลื่อนที่และการเชื่อมบอลเข้าไปสร้างความกดดันในฝั่งคู่แข่งอันตรายขึ้นชนิดพลิกหน้ามือ

ประตูนำ 1-0 ในนาที 49 ของ สิรภพ วันดี กลายเป็น 'จุดปลดล็อก' ที่ยุติความตึงเครียดทั้งหมด

อีกทั้งทีมชาติไทย ยังฉกฉวยใน 5 นาทีแรกกับ 5 นาทีสุดท้าย ของแต่ละครึ่ง ซึ่งถือเป็นช่วงสำคัญที่ทีมระดับแชมป์ควรฉวยโอกาสให้ได้ และวันนี้ทัพช้างศึกทำได้ครบถ้วน


[ 4 ] ยศกร-เสกสรรค์-ธนกฤต - สามแข้งที่สะท้อนมาตรฐานของทีม

ยศกร บูรพา หายไปทั้งครึ่งแรก แต่กลับมาแผลงฤทธิ์ในครึ่งหลังด้วยสองประตูสุดสวย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพที่แท้จริงของเขา

ถ้ารักษามาตรฐานแบบนี้ เขาคือหนึ่งใน 'เพชรเม็ดงาม' ของฟุตบอลไทย ในอนาคตแน่นอน

ขณะที่ ธนกฤต โชติเมืองปัก - ความสามารถเฉพาะตัวสูง แต่ยังขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย มีโอกาสเหน่งๆ ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ถ้าเปลี่ยนเป็นประตูได้มากกว่านี้ จะยกระดับตัวเองไปอีกขั้นทันที

ด้าน เสกสรรค์ ราตรี วันนี้โดดเด่นมากขึ้นจากการลดการเล่นท่ายากและเลือกจ่ายง่าย แต่ได้ผลลัพธ์สูง

พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มจากจังหวัดราชบุรี ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาเริ่มฉายแสงความเก่งกาจเพิ่มแบบหลายเท่าตัว เพราะเข้าใจฟุตบอลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ


[ 5 ] ชนะ 3-0 - คะแนนเต็ม แต่ยังมีจุดต้องขัดเกลาเพื่อภารกิจล่าเหรียญทอง

แม้สกอร์ดูเหนือกว่าแบบไม่ต้องลุ้น แต่เกมนี้ยังเปิดเผยหลายจุดที่ไทย ต้องเร่งปรับปรุง ทั้งเรื่องความต่อเนื่องเมื่อเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง, การป้องกันพื้นที่ว่างและความนิ่งเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย

ในครึ่งแรกที่เกือบเสียประตูจากเกมรับที่ปล่อยให้สิงคโปร์ ได้ส่องไกลจากนอกกรอบ ดีที่บอลไปจูบคานเต็มๆ ไม่เช่นนั้นรูปเกมอาจจะพลิกไปอีกอย่างก็เป็นได้

สิ่งสำคัญคือ 'โค้ชวัง' น่าจะได้เห็นภาพชัดเจนแล้วว่านักเตะคนใดคือคือขุนพลชุดที่ดีที่สุดสำหรับรอบรองชนะเลิศ หลังหมุนเวียนผู้เล่นมาถึงสองนัดเต็ม 

ศึกสำคัญจากนี้ห้ามพลาด เพราะมันคือเส้นทางไปสู่เหรียญทองที่รอคอยมาตั้งแต่ปี 2017




ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport