อีกหนึ่งค่ำคืนที่ทีมชาติไทย เก็บ 3 แต้มได้ตามเป้า แต่เกมชนะสิงคโปร์ 3-0 คือแบบทดสอบชั้นดีว่า ช้างศึกยังมีอะไรต้องขัดเกลาและอะไรที่เริ่มเข้ารูปเข้ารอยก่อนภารกิจล่าเหรียญทองกำลังจะมาถึง!!
[ 1 ] ชุดผสมครึ่งแรก = ขาดความลื่นไหลอย่างเห็นได้ชัด
เกมนี้ ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล เลือกทดลองทีมอีกครั้ง ด้วยการส่งผู้เล่นชุดผสม ซึ่งทำให้จังหวะต่อบอลและการประสานงานขาดๆ เกินๆ โดยเฉพาะฟูลแบ็กฝั่งขวาที่ใช้ วีชั่น อินอร่าม ลงสนาม ทั้งที่เจ้าตัวเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟธรรมชาติ
ด้วยรูปร่าง 1.86 เมตร เมื่อถูกดันออกด้านข้าง เขายังดูไม่คล่อง ไม่มั่นใจตามสไตล์ผู้เล่นเกมรับตัวกลาง แม้จะมีจังหวะเติมสูงให้เห็นบ้าง แต่ชัดเจนว่ายังต้องการเวลาในการพัฒนา
ครึ่งแรกจึงออกมาดูเนือยๆ จังหวะเข้าทำไม่มีความต่อเนื่องนัก แม้จะครองบอลเหนือกว่า แต่ยังขาดความดุดันในพื้นที่สุดท้าย
[ 2 ] ต้องชมสิงคโปร์ - แท็กติกตัดเกม+สกัดหนักทำไทย เล่นไม่ออกช่วงหนึ่ง
สิงคโปร์ วางหมากมาดีอย่างคาดไม่ถึง เล่นเกมรับแบบเข้าถึงตัวเร็ว เก็บฟาวล์จังหวะสำคัญ และพยายามทำลายจังหวะเกมรุกไทย ตลอดทั้งครึ่งแรก
รูปแบบนี้ทำให้แข้งช้างศึกหลายคนดูอึดอัดและลังเล เกรงว่าจะโดนเข้าสกัดหนักจนต้องเล่นเซฟเกินไป บทเรียนจากครึ่งแรกคือไทย ต้องรับมือให้ได้กับวิธีเล่นที่ไม่เปิดพื้นที่มากนักแบบนี้ เพราะในรอบรองชนะเลิศหรือรอบชิงเหรียญทองจะเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่ารอบแบ่งกลุ่มแน่นอน
[ 3 ] ครึ่งหลังเปลี่ยนหน้า เปลี่ยนจังหวะ - ตัวหลักลงมาพลิกเกม
ทุกอย่างเปลี่ยนไปทันทีหลังพักครึ่ง เมื่อ 'โค้ชวัง' ส่ง พิชิตชัย เศียรกระโทก และ ชานนท์ ทำมา ลงสนาม เพราะสองรายนี้คือแข้งหลักที่เขามีในใจอยู่แล้ว
เกมรุกกลับมามีชีวิตทันที ทั้งสปีด, การเคลื่อนที่และการเชื่อมบอลเข้าไปสร้างความกดดันในฝั่งคู่แข่งอันตรายขึ้นชนิดพลิกหน้ามือ
ประตูนำ 1-0 ในนาที 49 ของ สิรภพ วันดี กลายเป็น 'จุดปลดล็อก' ที่ยุติความตึงเครียดทั้งหมด
อีกทั้งทีมชาติไทย ยังฉกฉวยใน 5 นาทีแรกกับ 5 นาทีสุดท้าย ของแต่ละครึ่ง ซึ่งถือเป็นช่วงสำคัญที่ทีมระดับแชมป์ควรฉวยโอกาสให้ได้ และวันนี้ทัพช้างศึกทำได้ครบถ้วน
[ 4 ] ยศกร-เสกสรรค์-ธนกฤต - สามแข้งที่สะท้อนมาตรฐานของทีม
ยศกร บูรพา หายไปทั้งครึ่งแรก แต่กลับมาแผลงฤทธิ์ในครึ่งหลังด้วยสองประตูสุดสวย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพที่แท้จริงของเขา
ถ้ารักษามาตรฐานแบบนี้ เขาคือหนึ่งใน 'เพชรเม็ดงาม' ของฟุตบอลไทย ในอนาคตแน่นอน
ขณะที่ ธนกฤต โชติเมืองปัก - ความสามารถเฉพาะตัวสูง แต่ยังขาดความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย มีโอกาสเหน่งๆ ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง ถ้าเปลี่ยนเป็นประตูได้มากกว่านี้ จะยกระดับตัวเองไปอีกขั้นทันที
ด้าน เสกสรรค์ ราตรี วันนี้โดดเด่นมากขึ้นจากการลดการเล่นท่ายากและเลือกจ่ายง่าย แต่ได้ผลลัพธ์สูง
พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มจากจังหวัดราชบุรี ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาเริ่มฉายแสงความเก่งกาจเพิ่มแบบหลายเท่าตัว เพราะเข้าใจฟุตบอลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
[ 5 ] ชนะ 3-0 - คะแนนเต็ม แต่ยังมีจุดต้องขัดเกลาเพื่อภารกิจล่าเหรียญทอง
แม้สกอร์ดูเหนือกว่าแบบไม่ต้องลุ้น แต่เกมนี้ยังเปิดเผยหลายจุดที่ไทย ต้องเร่งปรับปรุง ทั้งเรื่องความต่อเนื่องเมื่อเปลี่ยนผู้เล่นหลายตำแหน่ง, การป้องกันพื้นที่ว่างและความนิ่งเฉียบคมในพื้นที่สุดท้าย
ในครึ่งแรกที่เกือบเสียประตูจากเกมรับที่ปล่อยให้สิงคโปร์ ได้ส่องไกลจากนอกกรอบ ดีที่บอลไปจูบคานเต็มๆ ไม่เช่นนั้นรูปเกมอาจจะพลิกไปอีกอย่างก็เป็นได้
สิ่งสำคัญคือ 'โค้ชวัง' น่าจะได้เห็นภาพชัดเจนแล้วว่านักเตะคนใดคือคือขุนพลชุดที่ดีที่สุดสำหรับรอบรองชนะเลิศ หลังหมุนเวียนผู้เล่นมาถึงสองนัดเต็ม
ศึกสำคัญจากนี้ห้ามพลาด เพราะมันคือเส้นทางไปสู่เหรียญทองที่รอคอยมาตั้งแต่ปี 2017