ทีมขี่ม้าโปโลไทยนำโดยสองพี่น้อง "ศรีวัฒนประภา" อัยยวัฒน์-อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา โชว์ฟอร์มดุถล่มฟิลิปปินส์ 11-1.5 ในรอบรองฯ ซีเกมส์ 33 ที่สนามวีเอส สปอร์ต คลับ บางบ่อ ลิ่วเข้าชิงชนะเลิศ พบผู้ชนะระหว่างมาเลเซียกับบรูไน วันที่ 10 ธ.ค. เวลา 18.00 น.
การแข่งขันขี่ม้าโปโล ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ณ สนามวีเอส สปอร์ต คลับ บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 68 เป็นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ประเภท 2-4 โกล ระหว่างทีมรองแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ไทย ที่นำทัพโดยสองพี่น้อง "ศรีวัฒนประภา" อัยยวัฒน์-อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา พร้อมด้วย ณัฐพงษ์ ประทุมลี และ ธนาศิลป์ เชื้อวังคำ ลงสนามตัดเชือกกับทีมฟิลิปปินส์ อีกครั้ง หลังจากที่ ไทยเอาชนะฟิลิปปินส์ มาได้จากการแข่งขันรอบแรกด้วยสกอร์ 4-2.5 คะแนน ส่งผลให้ไทยเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเป็นอันดับ 2 หลังจากที่มีคะแนนเท่ากับมาเลเซีย แต่ลูกได้เสียเป็นรองมาเลเซีย
ในขณะที่ ฟิลิปปินส์ แข่ง 2 นัด ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนนเท่ากับบรูไน แต่แต้มได้เสียดีกว่าจึงเข้ามาเป็นอันดับ 3 มาเจอกับไทยอีกครั้ง เกมนัดนี้ ฟิลิปปินส์ ได้แต้มต่อจากไทย 0.5 คะแนน เนื่องจากแฮนดิแคปรวมทีมของไทยมากกว่า 1 โกล
สำหรับการแข่งขันแข่งทั้งหมด 4 ชักก้า ชักก้าละ 7 นาที เริ่มเกมชักก้าแรกไทยได้ฟาวล์ตั้งแต่นาทีแรก และเป็น อัยยวัฒน์ เข้าไปยิงลูกโทษ 30 หลาทำประตูขึ้นนำ 1-0.5 คะแนน ทำให้ ฟิลิปปินส์ ต้องเปิดเกมเร็วเพื่อทำแต้มไล่ แต่จังหวะการเข้าบอลของ ฟิลิปปินส์ ไม่ดีเสียฟาวล์ให้ไทยอีกครั้ง แต่เป็นการเปิดบอลจากกลางสนามโดย ณัฐพงษ์ ที่เลี้ยงบอลส่งให้ อัยยวัฒน์ แต่โดนฟิลิปปินส์เข้าไปเบียด ก่อนที่ ณัฐพงษ์ เข้าไปแย่งบอลและนำขึ้นไปยิงนำ 2-0.5 คะแนน
ฟิลิปปินส์ยังโต้เร็ว โดยโรเบิร์ต แต่กลับเสียฟาวล์ให้ไทยอีกครั้งโดยเปิดบอลจากกลางสนามในขณะที่ฟิลิปปินส์ ไม่เปิดให้ไทยยิงทำประตูเพิ่ม ขึ้นมาสกัดเปลี่ยนเกม จนมาถึง 30 วินาทีสุดท้าย อัยยวัฒน์ ที่เบียดแย่งบอลมาจากฟิลิปปินส์และพาขึ้นมายิงทำคะแนนเพิ่มให้ไทย 3-0.5 คะแนน ก่อนหมดเวลาในชักก้าแรก

ชักก้าที่ 2 ไทยเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องในขณะที่ ฟิลิปปินส์ ยังไม่ลดละที่จะรุกทำแต้มเพิ่ม แต่โดนเกมรับที่เหนียวแน่นของไทย พร้อมกันสวนกลับเร็วทำให้ไทยได้ยิงประตูเพิ่มอีก 2 ประตูจาก ณัฐพงษ์ ประทุมลี และ อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา นำ 5-0.5 คะแนน เกมเข้าสู่ช่วงท้ายของการแข่งขัน ไทยที่เปลี่ยนเกมมาเร็ว ฟิลิปปินส์ ที่เข้ามาแย่งบอล ทำฟาวล์ ไทยได้จุดโทษยิงโดย ธนาศิลป์ เชื้อวังคำ นำ 6-0.5 คะแนน จากนั้น ฟิลิปปินส์ เอาบอลไปเล่นเร็วแต่โดนไทยเปลี่ยนกลับมาโดย อัยยวัฒน์ และพยายามเลี้ยงไปยิงประตู แต่เสียบอลกลางสนาม ณัฐพงษ์ จึงเข้ามาล้วงเอาบอลและตัดสินใจยิงไกลจากครึ่งสนามเข้าประตูไปอย่างสวยงามพาทีมไทยนำ 7-0.5 คะแนน
ชักก้าที่ 3 เปิดเกมมาฟิลิปปินส์ ยังเล่นเร็วหวังจะทำสกอร์ให้ทีม แต่โดนไทยเข้าไปสกัด และเปลี่ยนเกมกลับมาเป็นของตัวเอง อัยยวัฒน์ ยิงทำประตูที่ 8 นำ 8-0.5 คะแนน และเพียงแค่นาทีเดียว ไทยได้แต้มเพิ่มจาก อภิเชษฐ์ ที่สกัดบอลจากฟิลิปปินส์ ควบม้าพาบอลเข้าไปยิงนำ 9-0.5 คะแนน และก่อนพักเปลี่ยนม้าระหว่างชักก้า ณัฐพงษ์ ยิงไกลให้ไทยนำห่าง 10-0.5 คะแนน เกมยังเป็นของไทยที่กลับมาเล่นเกมรับสกัดการรุกของฟิลิปปินส์ หมดเวลาชักก้าที่ 3 ไทยนำห่าง 10-0.5 คะแนน
ชักก้าที่ 4 เป็นการแข่งขันในชักก้าสุดท้าย ฟิลิปปินส์ยังไม่ลดความพยายามที่จะรุกทำแต้มให้กับทีมตัวเอง จึงเปิดเกมรุกตั้งแต่นาทีแรก แต่กลับเสียฟาวล์ให้กับไทย ได้ยิงลูกโทษ โดย ธนาศิลป์ ยิงเข้าไปอย่างสวยงามพาไทยนำ 11-0.5 คะแนน
ด้านนักขี่ม้าโปโลจาก "ตากาล็อก" ยังไม่ละความพยายามที่จะทำแต้มให้กับทีม แต่เกมรับของไทยนั้นเล่นได้เหนียวแน่นไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งได้บอลขึ้นไปยิง แต่จังหวะกำลังจะแย่งบอล ฟิลิปปินส์แกะเพรสออกมาได้ พร้อมกับเลี้ยงหนีเดี่ยวขึ้นไปยิงประตูแรกให้กับทีมไล่มา 1.5-11 คะแนน เข้าสู่ช่วงเกมท้ายชักก้าเกมเริ่มเดือด และจังหวะที่แย่งบอลกัน อัยยวัฒน์ ที่เข้าไปสกัดบอล แต่เสียจังหวะ ฟิลิปปินส์หวดพลาดไปโดนมือ อัยยวัฒน์ ต้องเบรกเกมเพื่อให้แพทย์ดูอาการ โชคดีที่ไม่มีอาการบาดเจ็บ สามารถลงทำการแข่งขันต่อได้ในช่วงท้ายของการแข่งขัน แต่ทั้งสองทีมไม่มีสกอร์เพิ่มหมดเวลาแข่งขัน ไทยย้ำแค้นฟิลิปปินส์ เอาชนะไปด้วยสกอร์ 11-1.5 คะแนน ทะยานเข้าชิงชนะเลิศ โดยจะพบกับผู้ชนะระหว่าง แชมป์ซีเกมส์ 29 มาเลเซีย กับ บรูไน ในวันที่ 10 ธ.ค. เวลา 18.00 น.