เปิดฉากซีเกมส์แบบไม่เปิดเกม! ปัญหาถล่มยับตั้งแต่วันแรก?

ยังไม่ทันได้มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ แต่เรื่องราวเบื้องหลังที่ถาโถมเข้ามานั้น กลับ "เปิดตัว" แรงยิ่งกว่านัดฟาดแข้งนัดแรกของฟุตบอลชายทีมชาติไทยเสียอีก

แม้ทัพช้างศึกจะประเดิมสนามได้อย่างสวยหรู ด้วยการถล่มติมอร์ เลสเต ไป 6-1 คว้า 3 แต้มได้ตามเป้า แต่เบื้องหลังความวุ่นวายที่รอการแก้ไข กลับกลายเป็น "สกอร์" ที่เจ้าภาพต้องแบกรับอย่างหนักอึ้ง

เปิดฉากเจ้าภาพด้วย "ปัญหามหานคร" การเริ่มต้นเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ของไทยต้องบอกว่า ไม่มีอะไรที่ง่ายดายเลยแม้แต่น้อย ภาพรวมของปัญหาไม่ได้เพิ่งมาปะทุ แต่ส่งสัญญาณอันตรายมาตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่ว่าจะเป็น

สนามแข่งขันที่ไร้มาตรฐาน ความพร้อมของสังเวียนที่ควรจะเป็นหน้าเป็นตา กลับกลายเป็นข้อกังขาตั้งแต่ไก่โห่

เบี้ยเลี้ยงซ้อมที่ล่าช้า การบริหารจัดการที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อขวัญและกำลังใจของนักกีฬา

และเมื่อการแข่งขันกีฬาบางชนิดเริ่มขึ้นก่อนกำหนด "มรสุมปัญหา" ก็พัดกระหน่ำเข้าอย่างจัง ชนิดที่เรียกได้ว่า "สกัดดาวรุ่ง" ความน่าเชื่อถือของเจ้าภาพแบบไม่ทันตั้งตัว

ผมเชื่อว่าหลายคนแค่โฟกัสไปที่ "กีฬาฟุตบอล" เพียงอย่างเดียว ก็หนักอึ้งจนแทบหายใจไม่ออก!

รถติด...วิกฤตซ้อมวิญญาณ? เมื่อวันก่อนทีมชาติเวียดนามต้องออกมาโวยวายอย่างหนัก เนื่องจากปัญหารถติดในกรุงเทพฯ ทำให้พวกเขามีเวลาในการฝึกซ้อมในสนามจริงเพียงแค่ 40 นาที

นี่คือการต้อนรับที่ไม่ได้ทำให้คู่แข่งประทับใจ แต่กลับทำให้คำถามถึงการบริหารจัดการการเดินทางดังขึ้น!

ไฟฟันหลอ ส่องความมืดมัว! ในวันที่ 3 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันเริ่มการแข่งขันฟุตบอล ปัญหาสุดคลาสสิกของสนามกีฬาก็กลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง ไฟส่องสนามราชมังคลากีฬาสถาน กลายเป็น "แผงฟันหลอ" ที่มีทั้งส่วนที่สว่างจ้าและส่วนที่มืดมิด ต้องเร่งรุดไปยืมไฟจากจังหวัดนครราชสีมามาซ่อมแซมแบบฉุกละหุก

ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า งบประมาณมหาศาลที่ถูกอ้างอิงถึงการปรับปรุง...หายไปไหน?

แถมฟุตบอลชายคู่เปิดสนามระหว่าง เวียดนาม พบ สปป.ลาว ได้สร้าง "ตำนานบทใหม่" ที่น่าอับอายที่สุด!

เมื่อเสียงเพลงชาติของทั้งสองประเทศกลับ เงียบกริบ ทำให้เหล่านักกีฬาและแฟนบอลต้อง "ร่วมกันร้องสดๆ" ท่ามกลางสายตาของสื่อและผู้ชมทั่วอาเซียน นี่ไม่ใช่แค่ความผิดพลาดทางเทคนิค แต่เป็นความบกพร่องที่ทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีการระดับนานาชาติ!

เรื่องราวของ "งบประมาณ" ในการปรับปรุงราชมังคลากีฬาสถาน ยิ่งทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ! มีการพูดถึงงบประมาณร้อยกว่าล้านบาทสำหรับการซ่อมแซมและเอื้ออำนวยความสะดวกอื่นๆ

แต่เมื่อเจาะลึกเข้าไป งบประมาณถึง 40 ล้านบาท กลับถูกใช้ไปกับการ ปรับปรุงห้องน้ำ!

แน่นอนว่าห้องน้ำที่ดีเป็นสิ่งจำเป็น แต่เมื่อเทียบกับปัญหาเร่งด่วนที่ส่งผลโดยตรงต่อการแข่งขัน เช่น ไฟสนามฟันหลอ (ที่ใช้งบซ่อมแซมได้เพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับงบรวม) มันจึงดูเหมือนว่า "จุดโฟกัส" ของผู้บริหารจัดการงบประมาณนั้น "ผิดเพี้ยน" ไปอย่างน่ากังขา! โอว...สุดยอดมาก กับการจัดลำดับความสำคัญครั้งนี้!

นอกจากปัญหาในสนามแล้ว ภาพลักษณ์ของเจ้าภาพก็ถูกบ่อนทำลายจากเรื่องนอกสนามด้วย การปรากฏตัวของ "กลุ่มเชียร์" ที่ชูผ้าพันคอ แฝงโฆษณาเว็บพนัน อย่างโจ่งแจ้งในขณะถ่ายทอดสดออกทีวี ก็เป็นอีกหนึ่ง "บาดแผล" ที่ไทยต้องรับผิดชอบ

การปล่อยปละละเลยให้ภาพลักษณ์ของมหกรรมกีฬาถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ผิดกฎหมายและศีลธรรมเช่นนี้ โดยที่ไม่มีการห้ามปราบ ก็ยิ่งตอกย้ำถึงความ "หละหลวม" ในการควบคุมดูแลความเรียบร้อย

นี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เรื่องราววุ่นวายใดจะปรากฏขึ้นอีก? ปัญหาเหล่านี้จะถูกแก้ไข หรือจะยิ่งลุกลามใหญ่โตจนกลายเป็น "มหากาพย์" ที่ทำให้การเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ถูกจารึกไว้ในฐานะ "ซีเกมส์ที่เต็มไปด้วยดราม่าที่สุด"?

การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์คือโอกาสสำคัญในการ "โชว์ศักยภาพ" ของประเทศ แต่ดูเหมือนว่าไทยกำลัง "สรรค์หาคอนเทนต์" ให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ

การได้มาซึ่งเหรียญทองนั้นยากยิ่ง แต่การกอบกู้หน้าและสร้างความเชื่อมั่นในฐานะเจ้าภาพ อาจจะยากยิ่งกว่า!

#กอล์ฟ เบนเทเก้