ภารกิจไม่หมู! แบดมินตันไทยตั้งเป้า 2 เหรียญทองซีเกมส์

ภารกิจไม่หมู! แบดมินตันไทยตั้งเป้า 2 เหรียญทองซีเกมส์
ประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เตรียมเปิดฉากต้อนรับการแข่งขันแบดมินตันระหว่างวันที่ 7-14 ธันวาคมนี้ ณ ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ท่ามกลางภารกิจอันหนักอึ้งและท้าทายที่ทัพนักตบลูกขนไก่ไทยต้องแบกรับ นั่นคือการคว้า "2 เหรียญทอง" ตามเป้าหมายที่สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ ได้วางไว้

ความหวังของแฟนกีฬาชาวไทยพุ่งตรงไปที่ซูเปอร์สตาร์หลักของทีม ซึ่งได้รวมตัวฝึกซ้อมอย่างพร้อมเพรียงเป็นครั้งแรก เมื่อพิจารณาจากรายชื่อนักกีฬาและความพร้อมในปัจจุบัน นี่คือการวิเคราะห์สถานการณ์ของขุมกำลังสำคัญที่ถูกคาดหวังให้เป็นผู้สร้างความแตกต่างในซีเกมส์ครั้งนี้

1. "เมย์" รัชนก อินทนนท์: ภารกิจส่งท้ายที่ต้องคว้าเหรียญทองเท่านั้น

ซีเกมส์ 2025 ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันกีฬาธรรมดาสำหรับ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยวมือ 8 ของโลก แต่เป็นการยืนยันครั้งสุดท้ายของเธอในการลงเล่นมหกรรมนี้ การประกาศว่านี่คือ "ซีเกมส์ครั้งสุดท้าย" ยิ่งเพิ่มแรงจูงใจให้เธอต้องทำผลงานให้ดีที่สุดทั้งในประเภททีมและประเภทบุคคล

ความมั่นใจกลับมา: ฟอร์มล่าสุดของเมย์อยู่ในช่วงที่ยอดเยี่ยม หลังจากที่เธอเพิ่งคว้าแชมป์รายการที่ญี่ปุ่นมาได้ ทำให้เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและฟอร์มการเล่นที่เข้าที่เข้าทาง

บทบาทผู้นำ: รัชนกถือเป็น หัวใจสำคัญ และเป็นผู้นำด้านจิตวิญญาณที่จะช่วยประคองและให้กำลังใจทีมน้อง ๆ ในประเภท ทีมหญิง ให้สามารถทำผลงานได้ตามเป้า

คู่แข่งที่ต้องระวัง: แม้จะได้เปรียบในการเล่นในบ้าน แต่ในประเภทบุคคล เมย์ต้องเผชิญหน้ากับคู่ปรับสำคัญอย่าง เกรกอเลีย มาริสก้า ตุนจุง หญิงเดี่ยวจากอินโดนีเซีย ซึ่งพร้อมจะเป็นก้างขวางคอสำคัญ

2. "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์: การเสียสละเชิงกลยุทธ์

การตัดสินใจของ "วิว" กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ชายเดี่ยวมือ 3 ของโลก ถือเป็น กลยุทธ์ที่เน้นความรอบคอบ โดยเขาเปิดเผยว่าสภาพร่างกายอยู่ในช่วงฟื้นตัวราว 80% หลังเข้ารับการผ่าตัดฟันคุด

เน้นประเภททีม: วิวจึงตัดสินใจลงแข่งขัน เฉพาะประเภททีมชายเท่านั้น เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของร่างกาย

เหตุผลที่สำคัญกว่า: การตัดสินใจนี้เป็นการเตรียมพร้อมก่อนการแข่งขันรายการใหญ่ส่งท้ายปีอย่าง เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2025 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน (17-21 ธ.ค. 68) ซึ่งเป็นรายการที่มีความสำคัญและมีคะแนนสะสมสูงกว่า

กำลังใจของทีม: ถึงแม้จะลงแข่งเพียงประเภททีม แต่การมี "วิว" อยู่ในทีมก็ถือเป็น ขวัญและกำลังใจสำคัญ ที่จะช่วยยกระดับทีมชายให้มีโอกาสสูงในการคว้าเหรียญรางวัลจากประเภททีม

3. "บาส-เฟม": ความหวังเหรียญทองที่แน่นอนที่สุด

หากพูดถึงความหวังเหรียญทองที่ค่อนข้างแน่นอนที่สุดของทัพไทย ชื่อของคู่ผสมอย่าง "บาส" เดชาพล พัววรานุเคราะห์ และ "เฟม" ศุภิสรา เพียวสามพราน คือคำตอบ ทั้งคู่ถือเป็นคู่มือระดับโลกที่ทำผลงานได้อย่างคงที่ในระดับนานาชาติ

หัวใจหลักสู่เป้าหมาย: คู่ผสมคือ ภารกิจหลัก ในการคว้าเหรียญทองแรกเพื่อบรรลุเป้าหมาย 2 เหรียญทองที่สมาคมฯ ตั้งไว้

ความท้าทายคงที่: แม้จะถูกจัดเป็นตัวเต็ง แต่การแข่งขันในอาเซียนยังมีคู่แข่งจาก มาเลเซีย และ อินโดนีเซีย ที่แข็งแกร่ง การรักษา ฟอร์มการเล่นให้คงที่ในทุกรอบ และการจัดการกับแรงกดดันในการเล่นในบ้านจึงเป็นกุญแจสำคัญที่สุดที่ทั้งคู่ต้องทำ

ทัพแบดมินตันไทยกำลังเผชิญหน้ากับภารกิจที่ท้าทายในการคว้า 2 เหรียญทอง ท่ามกลางการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ของชาติคู่แข่งอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซีย ซึ่งถือเป็นคู่แข่งตลอดกาลในภูมิภาคนี้ การมีซูเปอร์สตาร์อย่าง รัชนก อินทนนท์ และคู่ของ เดชาพล/ศุภิสรา ถือเป็น หัวใจสำคัญ ที่จะช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยคาดการณ์ว่าเหรียญทองจะมาจากประเภทบุคคลหญิงเดี่ยว หรือคู่ผสม และอีกเหรียญอาจมาจากประเภททีมหญิงหรือคู่ผสม

โจทย์ยากแค่ไหน หัวใจก็เกินร้อย! นักกีฬาไทยในประเภท ทีมชาย, ชายเดี่ยว, ชายคู่ และ หญิงคู่ พร้อมระเบิดฟอร์มสู้เต็มที่ ไม่ว่าคู่แข่งจะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาจะทำผลงานอย่างเต็มที่เพื่อสมกับที่ได้เล่นในบ้าน

แฟน ๆ แบดมินตันไทยสามารถติดตามเชียร์และส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาได้ผ่านการถ่ายทอดสดทางช่อง PPTV 36, ไทยรัฐทีวี 32, ONE 31, T Sports 7, NBT และ TrueVisions NOW หรือร่วมให้กำลังใจติดขอบสนามได้ที่ ยิมเนเซียม 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตลอดช่วงการแข่งขัน 




ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport