เบื้องหลังม่านเจ้าภาพ: เมื่อ "ความวุ่นวาย" กลบ "ความสง่างาม"

เบื้องหลังม่านเจ้าภาพ: เมื่อ "ความวุ่นวาย" กลบ "ความสง่างาม"
"เงียบกริบ"...นี่คือคำเดียวที่อาจจะนิยามบรรยากาศก่อนการประเดิมสนามของ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยรับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพได้!

ท่ามกลางความเงียบงันระดับ "ไม่ได้ยินเสียงเข็มตก" นี้เอง ที่หลายคนอาจยังไม่ทันรู้ด้วยซ้ำว่า... ค่ำคืนนี้! วันพุธที่ 3 ธันวาคม เวลา 19.00 น. ณ สนามเหย้าอันศักดิ์สิทธิ์ ราชมังคลากีฬาสถาน ลูกหลานไทยของเรากำลังจะลงทำศึกแรก

นี่คือการเริ่มต้นภารกิจทวงคืนศักดิ์ศรีที่ห่างหายไปนานถึง 8 ปีเต็ม! ใช่ครับ, คุณอ่านไม่ผิด... 8 ปี!

นับตั้งแต่ที่เราได้นั่งบัลลังก์เหรียญทองหนล่าสุดเมื่อปี 2017 ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพ หลังจากนั้นเราก็พลาดเป้าไปถึง 3 ครั้งติดต่อกัน สำหรับชาติที่เคยเป็นเจ้าลูกหนังแห่งอาเซียนมาตลอด นี่คือสถิติที่ยอมรับไม่ได้ และครั้งนี้ที่บ้านของเราเอง "ต้องได้!" คือเป้าหมายเดียวที่อยู่ในหัวใจของทุกคน

แม้ว่าใจเราจะพร้อมเชียร์เต็มร้อย แต่ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า การเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียนครั้งนี้ มีรอยด่างพร้อยที่ต้องรีบแก้ไข

ปัญหาต่างๆ ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ตั้งแต่ โปรแกรมกีฬาที่คลอดช้ากว่ากำหนด, สนามแข่งขันที่ต้องโยกย้ายจนสื่อและนักกีฬาต้องปวดหัว, ไปจนถึงเรื่องพื้นฐานอย่าง ID Card ของสื่อมวลชนที่ยังไม่ตกถึงมือ!

แต่ที่น่าเสียดายและทำให้ภาพลักษณ์เจ้าภาพของเราดูไม่ "สง่างาม" เอาเสียเลย คือเสียงตำหนิจากชาติเพื่อนบ้านอย่าง ทีมชาติเวียดนาม การเดินทางไปฝึกซ้อมของพวกเขาต้องเจอ "มหากาพย์" ปัญหารถติดกรุงเทพฯ ชนิดที่ว่า "ติดนรกแตก" จนสุดท้ายได้ซ้อมจริงจังเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้น

นี่คือเรื่องที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน (ซึ่งไม่เกี่ยวกับสมาคมฟุตบอลโดยตรง) ต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่!

รู้ทั้งรู้ว่า "กรุงเทพฯ" กับ "รถติด" คือเพื่อนซี้คู่บุญกันมานาน แต่ทำไมถึงไม่วางแผนจัดการเส้นทางการจราจร หรือการรับส่งให้เป็นระบบระเบียบ ตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม?

การที่ทีมชาติอื่นซ้อมได้น้อยลง หมายถึง แท็กติกและการเตรียมความพร้อมของพวกเขาก็ถูกบั่นทอนลงไปด้วย 

ซีเกมส์ยังไม่ทันเปิดฉากอย่างเป็นทางการ แต่ปัญหาของกีฬาฟุตบอลก็เริ่มส่งเสียงดังครืนๆ แล้ว นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของการจัดงาน แต่เป็นเรื่องของ "ชื่อเสียง" และ "ความน่าเชื่อถือ" ของประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพด้วย

แต่เอาล่ะครับ! อย่าให้เรื่องวุ่นวายภายนอกเหล่านี้มาบั่นทอนกำลังใจของเรา! สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการรวมพลัง "เชียร์" และส่งเสียงกึกก้องไปถึงนักเตะในสนาม

"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมฯ คนเก่ง ได้ออกมาตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นว่า เธอ "มั่นใจ" ในศักยภาพของทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ที่นำทัพโดย "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล และนักเตะทุกคน!

"เราไม่ได้แชมป์มา 8 ปีแล้ว และครั้งนี้เราเล่นที่บ้านเราเอง ด้วยศักดิ์ศรีความเป็นเจ้าภาพ ทีมชาติไทยต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และไม่ประมาททุกทีมที่เจอ เราหวังอย่างยิ่งว่าจะทวงแชมป์ซีเกมส์กลับมาให้คนไทยได้มีความสุข! ฝากแฟนบอลทุกคนเป็นกำลังใจให้นักเตะทุกคนด้วยนะคะ"

สอดคล้องกับ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล กุนซือมากฝีมือ ที่เชื้อเชิญแฟนบอลให้ออกมาร่วมสร้างประวัติศาสตร์ด้วยกัน

"เราไม่ได้เป็นเจ้าภาพมานาน และไม่ได้แชมป์มาหลายครั้ง ผมอยากเชิญชวนแฟนบอลชาวไทยทุกคน มาเชียร์! มาเป็นกำลังใจ! ในสนามให้เยอะที่สุด! หรือติดตามทุกช่องทางข่าวสารก็ได้ครับ! ผมในฐานะเฮดโค้ช จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้แฟนบอลไทยทุกคน มีความสุข กับผลงานของทีมชาติไทยชุดนี้ครับ!"

นี่คือคำมั่นสัญญาที่แลกมาด้วยความมุ่งมั่นและแรงกดดันมหาศาล!

ค่ำคืนนี้คือการเริ่มต้น! เสียงนกหวีดที่ดังขึ้น... ไม่ใช่แค่เสียงสัญญาณเริ่มเกมฟุตบอล แต่คือเสียงสัญญาณของการ "ปลุกพลัง" ความเป็นเจ้าแห่งอาเซียนให้กลับมาคำรามอีกครั้ง!

อย่าปล่อยให้ความเงียบงัน...มากลืนกินความหวัง! ออกไปเชียร์ให้สนามราชมังฯ สะเทือน! หรือหากใครไม่สะดวก ก็มาร่วมส่งแรงใจผ่านหน้าจอ ONE HD 31 หรือ True Vision NOW ให้ทะลุจอไปถึงนักเตะทุกคน!

เพราะการทวงบัลลังก์ทองซีเกมส์ เริ่มต้นที่ก้าวแรก! และก้าวแรกนี้ พวกเขาต้องการเสียงเชียร์จากคนไทยทุกคนครับ!

#กอล์ฟ เบนเทเก้



ที่มาของภาพ : -
BY : Quarterback
"กอล์ฟ เบนเทเก้" ปิยะพงษ์ โพธินาค
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport