สื่อตีข่าวมาเลเซียหนักใจ แข้งซีเกมส์ชุดนี้มีตัวลีกสูงสุดแค่ 6 ราย

สื่อกีฬาจากประเทศมาเลเซีย รายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของทัพ "เสือเหลือง" ทีมชาติมาเลเซีย ชุดเตรียมสู้ศึก ฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ โดย มาเลเซีย ถูกจับสลากให้อยู่ในสายบี ร่วมกับ ทีมชาติเวียดนาม และ สปป.ลาว

รายงานระบุว่า ทีมฟุตบอลชายทีมชาติมาเลเซีย ได้มีการเรียกนักเตะเข้าแคมป์ฝึกซ้อมจำนวน 25 ราย ในชุดรุ่นอายุไม่เกิน 22 ปี (U22) แต่สิ่งที่น่ากังวลคือมีผู้เล่นเพียง 6 รายเท่านั้นที่มีชื่ออยู่กับสโมสรใน มาเลเซีย ซูเปอร์ลีก (MSL) หรือลีกสูงสุดของประเทศ

เมื่อไล่เรียงสถิติการลงสนามของทั้ง 6 คน พบว่า เฟอร์กัส เทียร์นีย์ ดาวยิงเชื้อสายสกอตแลนด์ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์สูงสุด โดยลงเล่นไป 13 นัด (934 นาที), ตามด้วย อูไบดุลลาห์ ซัมซุล (586 นาที), ฮาซิก คุตตี อับบา (489 นาที), อลิฟ อิซวาน (400 นาที) และ ฮากิมี่ อาซิม (21 นาที) ขณะที่ ซยามี่ อาดิ๊บ ผู้รักษาประตู ยังไม่เคยได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาในลีกสูงสุดเลยแม้แต่นาทีเดียว

สำหรับผู้เล่นอีก 19 รายที่เหลือนั้น ส่วนใหญ่มาจาก เอวัน เซมิโปรลีก (A1 Semi-Pro League) หรือ ลีกดิวิชั่น 2 นำโดย แซคคารี่ ซาฮิดาดิล อดีตแข้งเยาวชนตรังกานู ยู-20, นักเตะจากทีมสำรองของ ยะโฮร์ ดารุล ทาซิม (JDT II) จำนวน 9 ราย และจากทีมสำรองของ สลังงอร์ (Selangor II) อีก 7 ราย

ทางด้าน นาฟูซี ซาอิน หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติมาเลเซียชุดซีเกมส์ เปิดเผยว่า รายชื่อนักเตะชุดนี้ถือเป็นขุมกำลัง ยู-22 ที่ดีที่สุดเท่าที่มาเลเซียมีในขณะนี้ พร้อมยอมรับว่าการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้เป็นภารกิจที่ยากลำบาก เนื่องจากคู่แข่งร่วมสายอย่าง เวียดนาม จัดเป็นทีมระดับท็อปของอาเซียน ในขณะที่ สปป.ลาว ผู้เล่นส่วนใหญ่ผ่านเวทีระดับทีมชาติชุดใหญ่ในศึก เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก มาแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนและลูกทีมจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของ ทีมชาติมาเลเซีย ในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 มีดังนี้

• วันที่ 7 ธันวาคม: พบกับ สปป.ลาว

• วันที่ 11 ธันวาคม: พบกับ เวียดนาม

ทั้งนี้ รูปแบบการแข่งขันซีเกมส์ในครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่มีการแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม โดยจะคัดเลือกแชมป์ของทั้ง 3 กลุ่ม และอันดับ 2 ที่ดีที่สุดเพียง 1 ทีม ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ โดยผลงานล่าสุดของ ทีมชาติมาเลเซีย เคยคว้าเหรียญทองฟุตบอลชายซีเกมส์ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2011 หรือกว่า 14 ปีที่แล้ว