ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและประธานบอร์ดกองทุนฯ อนุมัติเงินเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พร้อมสั่งการเร่งเบิกจ่ายถึงมือผู้แทนไทยทันที
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหาร กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ครั้งที่ 8/2568 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล
การประชุมมี นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นางสาวนัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เข้าร่วม
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบและอนุมัติเรื่องสำคัญดังนี้
เพิ่มกรอบวงเงินงบประมาณจากปี 2568 มาใช้ในปี 2569 สำหรับการเตรียมนักกีฬาระดับนานาชาติ ระหว่างวันที่ 1 ส.ค.–30 ก.ย. 2568 รวมถึงการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พร้อมบริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา จำนวน 201,597,769 บาท โดยสำนักงานกองทุนจะเร่งประสานงานกับกรมบัญชีกลางเพื่อให้เงินถึงมือนักกีฬาโดยเร็วที่สุด
อนุมัติการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (เก็บตัวฝึกซ้อม) ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.–6 ธ.ค. 2568 ในราชอาณาจักรไทย จำนวน 172,557,542 บาท
อนุมัติการแข่งขัน อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 (เก็บตัวฝึกซ้อม) ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2568–16 ม.ค. 2569 ในราชอาณาจักรไทย จำนวน 108,182,142 บาท
อนุมัติหลักการเบิกจ่ายเงินรางวัลแก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน และสมาคมกีฬา ผ่านระบบ KTB Corporate Online ภายใน 7 วันหลังการแข่งขัน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทย
รับทราบการนำส่งคืนงบประมาณให้กองทุนฯ จำนวน 705,508,074.80 บาท เพื่อนำไปสนับสนุนโครงการด้านกีฬาอื่น ๆ
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบโครงการสำคัญ เช่น
การแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก โมโตจีพี ประจำปี 2569
การแข่งขันวิ่งเทรลระดับนานาชาติ Chiang Mai Thailand by UTMB และ Amazean Jungle Thailand by UTMB
การพัฒนาเยาวชน (Youth Development) ในกีฬา ฟุตซอล
การแข่งขัน เอเชียนยูธพาราเกมส์ ครั้งที่ 5 ณ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์
การแข่งขัน เอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ณ ราชอาณาจักรบาห์เรน
การส่งนักกีฬาแข่งขันทั้งนักกีฬาปกติและนักกีฬาคนพิการ
ที่ประชุมยังอนุมัติปรับเพิ่มจำนวนทุนการศึกษาสำหรับนักกีฬาและบุคลากรกีฬา ประจำปีงบประมาณ 2569 จากจังหวัดละ 3 คน เป็น 5 คน เพื่อขยายโอกาสและสนับสนุนบุคลากรด้านกีฬา
ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวสรุปว่า โครงการทั้งหมดมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างภาพลักษณ์กีฬาไทยในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว พร้อมย้ำให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณให้เกิดประโยชน์ต่อวงการกีฬาอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะโครงการที่มุ่งพัฒนานักกีฬาและมาตรฐานการแข่งขัน พร้อมยืนยันว่าการบริหารจัดการงบประมาณต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยกระดับระบบกีฬาไทยสู่เวทีนานาชาติอย่างยั่งยืน