สมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทยตั้งเป้า 2 เหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดย ภูริช โยเฮือง นักกีฬาจากโอลิมปิก 2024 นำทีม พร้อมจัดแมตช์เทสต์อีเวนต์ UIPM 2025 กระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยวเมืองพัทยา
สมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย ประกาศเป้าหมายคว้า 2 เหรียญทอง ในการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยมี ภูริช โยเฮือง นักกีฬาที่เคยผ่านเวที โอลิมปิก 2024 นำทีมชุดนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขัน
พลเรือเอก สุธีพงศ์ แก้วทับ อุปนายกสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมปัญจกีฬาสมัยใหม่ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า การแข่งขันปัญจกีฬาสมัยใหม่จะเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ซีเกมส์ หลังจากครั้งแรกที่ ฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2019 โดยครั้งนี้มีนักกีฬา 8 ชาติเข้าร่วม ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ติมอร์ เลสเต, เวียดนาม และไทย ขณะที่นักกีฬาไทยเข้าร่วม 12 คน แบ่งเป็นชาย 6 คน และหญิง 6 คน
“นักกีฬาชุดนี้เก็บตัวมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ภายใต้การฝึกสอนของ มร.เบอร์นาร์ด แอนเดียร์ เปโตรชินสกี (เปโดร) โค้ชชาวเยอรมัน และได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งด้านการเก็บตัว, วิทยาศาสตร์การกีฬา, โภชนาการ และจิตวิทยา ทำให้เห็นพัฒนาการของนักกีฬาอย่างต่อเนื่อง” พลเรือเอกสุธีพงศ์กล่าว พร้อมตั้งเป้าเหรียญทองในประเภท ไตรแอธเล บุคคลชาย ซึ่งมี ภูริช โยเฮือง นำทีม ขณะที่ประเภท เลเซอร์รัน และ ออปสตัคเคิล มีคู่แข่งสูสีจาก ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และเวียดนาม
การแข่งขันจะจัดขึ้นที่ หาดจอมเทียน จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 16-20 ธันวาคม 2568 ชิงชัย 6 เหรียญทอง ประกอบด้วย เลเซอร์รันชาย-หญิง, ออปสตัคเคิล เลเซอร์รัน, และไตรแอธเลชาย-หญิง โดยแต่ละประเภทมีการแข่งขันทั้งวิ่ง, ว่ายน้ำ และยิงปืนเลเซอร์แบบต่อเนื่อง
พลเรือเอกสุธีพงศ์กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 16-21 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ประเทศไทยเพิ่งเป็นเจ้าภาพ UIPM 2025 Southeast Asian Championships ที่หาดจอมเทียน พัทยา รายการนี้ช่วยสร้างกระแสซีเกมส์, กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมเป็นการทดสอบระบบการจัดการแข่งขันและสนามจริง นอกจากนี้ยังทำให้เห็นฟอร์มคู่แข่งจาก สิงคโปร์, มาเลเซีย, เวียดนาม และอินโดนีเซีย โดยการจัดแข่งขันในบรรยากาศชายหาดสวยงามยังดึงแฟนกีฬาจากหลายชาติเข้าชมและท่องเที่ยวเมืองพัทยาพร้อมกันอีกด้วย

