กกท. เปิดวิสัยทัศน์ปี 2569 คาดกีฬาสร้างรายได้ 4.4 หมื่นล้าน ซีเกมส์สะพัด 5 พันล้าน

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่ คอนเวนชั่น ฮอลล์ พาวิลเลียน เอ โรงแรมเดอะแกรนด์โฟร์วิงส์ กรุงเทพฯ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดงานแถลงนโยบายด้านการกีฬา ภายใต้ชื่อ “Thailand Vision through Sports & Soft Power 2026” โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า ปี 2569 ไทยตั้งเป้าหมุนเวียนเงินผ่านการจัดกิจกรรมกีฬาตลอดปีประมาณ 44,700 ล้านบาท โดยเฉพาะมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เพียงแมตช์เดียว คาดว่าจะสร้างความคึกคักและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท

ผู้ว่าการ กกท. เน้นย้ำถึงความสำคัญของ การพัฒนานักกีฬาไทย ผ่านโครงการ Sports For All เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงกีฬาอย่างเท่าเทียม พร้อมยกระดับนักกีฬาไทยด้วยการพัฒนาทักษะทั้งพื้นฐานและขั้นสูง สู่การเป็นตัวแทนทีมชาติ ภายใต้ศูนย์ฝึก National Training Center (NTC) ที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพร่างกายและจิตใจ พร้อมนำ วิทยาศาสตร์การกีฬา มาบูรณาการอย่างครบวงจร

นอกจากนี้ กกท. ยังเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬา เช่น การปรับปรุง ราชมังคลากีฬาสถาน, อินดอร์ สเตเดี้ยม, และการก่อสร้าง สปอร์ตคอมเพล็กซ์แห่งใหม่ ที่ชลบุรีและหมวกเหล็ก รวมถึงการจัดตั้ง สำนักงานตรวจสารต้องห้ามอิสระ, การพัฒนากีฬาอาชีพ, การส่งเสริมกีฬามวยไทย และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการจัดแข่งขันกีฬาระดับโลก

ดร.ก้องศักด ระบุว่า การจัด เวิลด์ สปอร์ต อีเวนต์ และ สปอร์ตทัวริซึ่ม จะสร้าง Sport Eco System ที่สมบูรณ์และยั่งยืน พร้อมสร้างโอกาสแก่นักกีฬาไทย และรายได้สู่ประเทศ โดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพมหกรรม ซีเกมส์ และ อาเซียนพาราเกมส์ ไทยแลนด์ 2025

สำหรับมหกรรมกีฬาเหล่านี้ ไทยต้องสร้างมาตรฐานการแข่งขันให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งความโปร่งใส ยุติธรรม และจัดอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด “กรีนซีเกมส์” ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัยสำคัญ และสร้างรายได้สะพัดไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านบาท