สหพันธ์เพาะกายโลกไฟเขียวอินโดนีเซียจัดศึกอาเซียนชดเชยซีเกมส์ไม่จัดชิงชัย
สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) มีมติเห็นชอบให้สหพันธ์กีฬาเพาะกายประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพจัดศึกเพาะกายชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 17 หลังตรวจเยี่ยมความพร้อมของสถานที่จัดการแข่งขัน ที่เมืองบาตัม ในประเทศอินโดนีเซีย เพื่อทดแทนการแข่งขันกีฬาเพาะกายในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชาไม่พร้อมจัดแข่ง
ตามที่สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) มอบหมายให้ประเทศสิงคโปร์เป็นผู้จัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 17 เพื่อทดแทนการแข่งขันกีฬาเพาะกายในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชาไม่พร้อมที่จะจัดการแข่งขันในเดือนพ.ค.นี้ ตามที่มีรายงานข่าวไปก่อนหน้านั้น
ล่าสุด นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย ในฐานะเลขาธิการร่วมของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) เปิดเผยว่า สหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศอินโดนีเซียได้ขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเพาะกายรายการชิงแชมป์อาเซียน ครั้งที่ 17 โดยได้เชิญประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) ดาโต๊ะพอล ชัว ไปตรวจเยี่ยมความพร้อมของสถานที่จัดการแข่งขัน ที่เมืองบาตัม ในประเทศอินโดนีเซีย
ภายหลังจากการตรวจเยี่ยมความพร้อมการเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพของประเทศอินโดนีเซีย คณะกรรมการบริหารของสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสโลก (WBPF) ได้มีมติเห็นชอบให้สหพันธ์กีฬาเพาะกายประเทศอินโดนีเซียได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ โดยกำหนดจัดการแข่งขันในวันที่ 8-12 มิ.ย.66 และขณะนี้ได้มีการแจ้งไปยังประเทศสมาชิกในภูมิภาคอาเซียนให้ทราบถึงกำหนดการแข่งขันในครั้งนี้ด้วยแล้ว
นายศุกรีย์ เผยอีกว่า ในส่วนของประเทศไทย สมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทยเตรียมส่งนักกีฬาชุดเตรียมซีเกมส์ที่ได้มีการเก็บตัวฝึกซ้อมเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้แล้ว โดยขณะนี้สมาคมได้ทำหนังสือถึงการกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อผ่านไปยังคณะกรรมการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการส่งนักกีฬาเพาะกายของไทยเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งนี้เพื่อเป็นการต่อยอดพัฒนานักกีฬาเพาะกายของไทยให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นการเตรียมนักกีฬาของไทยสำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี พ.ศ. 2568 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพอีกด้วย