วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ชนะ 2 นัดแรกมี 6 แต้ม นำเนเธอร์แลนด์ 1 คะแนน แต่หากนัดสุดท้ายแพ้ 2-3 เซ็ต จะทำให้มี 7 แต้มเท่ากัน โดยกฎ FIVB ใช้เซ็ตเรโช-แต้มเรโชชี้ขาด ก่อนเฮดทูเฮด
ศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ซึ่งแข่งกันที่ประเทศไทยนั้นจบโปรแกรมนัดที่ 2 ไปครบทุกกลุ่มแล้ว โดยวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เก็บชัยชนะในทั้ง 2 นัดแรกได้เช่นเดียวกับ เนเธอร์แลนด์ส กอดคอกันเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายแน่นอนแล้ว โดยที่ ไทย นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มมีแต้มมากว่า 1 คะแนน
ประเด็นก็คือทั้งแชมป์กับรองแชมป์ของกลุ่มนี้ต้องไปเจอกับตัวแทนจากกลุ่ม เอช ที่ตอนนี้ เซอร์เบีย กับ ญี่ปุ่น ต่างก็ตีตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์เช่นกัน ซึ่งถ้าสถานการณ์จบลงด้วยอันดับในตอนนี้ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย จะต้องเจอกับ ญี่ปุ่น หลังจากสาวจากแดนอาทิตย์อุทัยรั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม เอช อยู่ เพราะมีแต้มน้อยกว่า เซอร์เบีย 1 แต้ม แม้ว่าจะเก็บชัยได้ทั้ง 2 นัดเหมือนกับอีกฝ่ายก็ตาม
ในนัดสุดท้ายของกลุ่ม เอ กับ กลุ่ม เอช นั้น ทั้งอันดับ 1 กับอันดับ 2 ของ 2 กลุ่มนี้จะมาเจอกันเองจนทำให้ถือเป็นการตัดสินแชมป์กลุ่มไปเลย และทั้ง 2 กลุ่มนี้ก็ยังมีโอกาสที่ทั้ง 2 ทีมจะมี 7 คะแนนเท่ากันเมื่อจบรอบแบ่งกลุ่มด้วย โดยบางคนก็อาจจะสงสัยเรื่องกฎด้านคะแนนกับการจัดอันดับของกีฬาวอลเล่ย์บอลอยู่บ้าง
กฎข้อแรกในการจัดอันดับก็ง่ายๆ นั่นคือวัดตามจำนวนแมตช์ที่ชนะ ใครที่ชนะมากกว่าก็จะได้อันดับดีกว่าอีกฝ่าย แต่ในกรณีที่จำนวนนัดชนะเท่ากันมันก็จะมาดูที่แต้ม ซึ่งเจ้าแต้มที่ว่านี้จะขึ้นอยู่กับเรื่องที่ว่าชนะแบบไหน หากชนะ 3-0 หรือ 3-1 เซ็ต ทีมที่ชนะก็จะได้ 3 คะแนน ส่วนทีมแพ้ได้ 0 คะแนน แต่ถ้าเป็น 3-2 เซ็ต ทีมที่ชนะจะได้แค่ 2 คะแนน และทีมแพ้ได้ 1 คะแนน
สำหรับกรณีของกลุ่ม วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กับ เนเธอร์แลนด์ส นั้น ใน 2 แมตช์แรก วอลเลย์บอลหญิงไทย ชนะ อียิปต์ 3-1 เซ็ต กับ สวีเดน 3-0 เซ็ต จนทำให้มี 6 คะแนน ต่างกับ เนเธอร์แลนด์ส ที่ชนะ สวีเดน 3-2 เซ็ต และพิชิต อียิปต์ 3-0 เซ็ต จนทำให้พวกเธอมี 5 แต้ม
กลุ่ม เอช ก็เป็นกรณีเดียวกัน โดย เซอร์เบีย มี 6 คะแนนเพราะชนะ ยูเครน และ แคเมอรูน 3-0 เซ็ตทั้ง 2 แมตช์ ขณะที่ ญี่ปุ่น หลังจากชนะ แคเมอรูน 3-0 เซ็ตในแมตช์แรก พวกเธอก็มาเฉือน ยูเครน 3-2 เซ็ต จนทำให้มี 5 คะแนน
ที่จริงมันยังมีกรณีที่คู่แข่ง "ยอมแพ้ด้วย" โดยนอกจากผู้ชนะจะได้ 3 คะแนน และผู้แพ้ได้ 0 คะแนนเหมือนกับกรณี 3-0 เซ็ต กับ 3-1 เซ็ต แล้วนั้น สกอร์แต่ละเซ็ตสำหรับฝ่ายแพ้ก็จะถูกกำหนดให้เป็น 0–25, 0–25, 0–25 ด้วย
ด้วยเหตุนี้ หากมองตามสถานการณ์กับกฎแล้วนั้นมันก็แปลว่า วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย กับ เนเธอร์แลนด์ส จะมี 7 คะแนนเท่ากันในกรณีที่สาวไทยแพ้ 2-3 เซ็ตในแมตช์สุดท้ายที่คู่นี้เจอกันเอง ส่วนกรณีของ เซอร์เบีย หากพวกเธอแพ้ ญี่ปุ่น 2-3 เซ็ต มันก็จะทำให้ทั้ง 2 ทีมมี 7 แต้มทั้งคู่เช่นกัน
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วจะตัดสินอันดับกันยังไง ? โดยกฎของสหพันธ์วอลเล่ย์บอลนานาชาติ (เอฟไอวีบี) ระบุเงื่อนไขเอาไว้ดังนี้
ลำดับแรก จะดูที่ "ผลหาร" ของจำนวนเซ็ตที่ชนะกับแพ้ที่แต่ละทีมจากการลงเล่นทุกนัดในกลุ่มนั้นๆ ส่วนถ้ายังเท่ากันอีก มันก็จะมาดูยังลำดับที่ 2 นั่นคือ "ผลหาร" ของจำนวนแต้มที่ทำได้กับจำนวนแต้มที่เสียไปของแต่ละทีมในกลุ่มนั้นๆ
กรณีที่ยังเท่ากันอีกแล้วล่ะก็ หากมีเพียง 2 ทีมที่เท่ากันมันก็จะตัดสินอันดับด้วยผลงานจากแมตช์ที่เจอกันเองของทีมเหล่านั้น หรือที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในชื่อ "เฮดทูเฮด" ส่วนถ้ามี 3 ทีมหรือมากกว่านั้นที่เท่ากันก็จะตัดสินด้วยระบบแบบมินิลีก
กฎในเบื้องต้นยังจะนำไปใช้จัดอันดับหลังจบทัวร์นาเมนต์ด้วย เนื่องจากบางรอบจะมีทีมที่ตกรอบพร้อมกันจนทำให้ต้องมาจัดลำดับกันว่าในกลุ่มทีมที่ตกรอบพร้อมกันนั้นทีมไหนควรจะมีอันดับประจำทัวร์นาเมนต์ดีกว่านั่นเอง
สำหรับแฟนวอลเลย์บอลหญิงไทย นั้น แน่นอนว่าคงไม่อยากต้องมาวุ่นวายกับการจัดอันดับแบบนี้ และถ้าให้ดีก็คือให้ชนะ เนเธอร์แลนด์ส ไปเลย มาเอาใจช่วยนักตบลูกยางสาวไทยที่จะลงสนามในวันที่ 26 สิงหาคมนี้กันเยอะๆ นะครับ