“โค้ชอ๊อต” ชี้ทีมสาวไทยพร้อมลุยศึก VNL สนาม 2 เจอทีมใหญ่คือโอกาสล้ำค่า

“โค้ชอ๊อต” ชี้ทีมสาวไทยพร้อมลุยศึก VNL สนาม 2 เจอทีมใหญ่คือโอกาสล้ำค่า
“โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร เผยความพร้อมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยก่อนลุยศึก VNL 2025 สนาม 2 ที่ฮ่องกง ชี้แม้ต้องเจอทีมแกร่งอย่างญี่ปุ่นและอิตาลี แต่ถือเป็นโอกาสสำคัญพัฒนาเกม ขณะ “เพียว” อัจฉราพร หวังเก็บชัย 2 แมตช์

“โค้ชอ๊อต” เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เปิดเผยถึงความพร้อมของทัพนักตบลูกยางสาวก่อนลงแข่งขัน วอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ ลีก 2025 (VNL 2025) สนามที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18–22 มิถุนายน ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ว่าทีมมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและแท็กติก

“ตอนนี้นักกีฬาทุกคนมีสภาพร่างกายสมบูรณ์ ไม่มีใครบาดเจ็บรุนแรง เราแก้ไขข้อผิดพลาดจากสัปดาห์แรกได้ดีขึ้น ทั้งในเรื่องการรับเสิร์ฟ รับตบ และการโต้กลับ ส่วนสภาพร่างกายก็แข็งแกร่งขึ้น คล่องตัวขึ้น” โค้ชอ๊อตกล่าว

พร้อมเสริมว่า ทีมพยายามบริหารตำแหน่งผู้เล่นให้มีความหลากหลายและสมดุล โดยมีการวางแผนระยะยาวไปจนถึงศึกชิงแชมป์โลก

สำหรับสนามนี้ ทีมไทยต้องเจอกับคู่แข่งที่แข็งแกร่งอย่าง ญี่ปุ่น, อิตาลี, เช็กเกีย และ บัลแกเรีย ซึ่งโค้ชอ๊อตมองว่าเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับทีม

“ญี่ปุ่นเป็นทีมที่แข็งแกร่ง ยังไม่เสียเซตให้ใคร มีความแน่นอนสูง และรูปร่างคล้ายกับทีมไทย ส่วนอิตาลีตอนนี้ก็เป็นทีมเบอร์ 1 ของโลก ทุกคะแนนที่เราทำได้ใน 2 แมตช์แรกจะมีคุณค่ามาก”

ด้าน “เพียว” อัจฉราพร คงยศ กัปตันทีมชาติไทย กล่าวเสริมว่า ทีมเน้นการแก้ไขข้อผิดพลาดจากสนามแรก และพัฒนาส่วนที่ทำได้ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น

“เราอยากเก็บชัยชนะให้ได้อย่างน้อย 2 แมตช์ เกมกับเช็กเกียเป็นโอกาสดี เพราะไม่เคยเจอกันมาก่อน ส่วนญี่ปุ่นปีนี้แม้จะมีผู้เล่นใหม่เยอะ แต่ก็ยังแข็งแกร่งมาก ถ้าจะชนะได้ต้องเล่นด้วยความละเอียดและดุดัน ส่วนอิตาลีก็เป็นอีกเกมที่หนัก ต้องสู้ให้เต็มที่” เพียวกล่าว

สำหรับโปรแกรมแข่งขันของทีมชาติไทยในศึก VNL 2025 สนามที่ 2 มีดังนี้

  • 18 มิ.ย. เวลา 16.00 น.: ไทย พบ ญี่ปุ่น
  • 19 มิ.ย. เวลา 16.00 น.: ไทย พบ อิตาลี
  • 21 มิ.ย. เวลา 15.30 น.: ไทย พบ เช็กเกีย
  • 22 มิ.ย. เวลา 12.00 น.: ไทย พบ บัลแกเรีย

แฟนวอลเลย์บอลสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางแอปพลิเคชัน VBTV ทั้งเว็บไซต์ tv.volleyballworld.com และแอปฯ บนระบบ iOS และ Android



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport