ดราม่ารอบชิง! ซินเนอร์ป่วยถอนตัว ส่ง "อัลคาราซ" คว้าแชมป์เทนนิส ซินซินเนติ 2025

ดราม่ารอบชิง! ซินเนอร์ป่วยถอนตัว ส่ง "อัลคาราซ" คว้าแชมป์เทนนิส ซินซินเนติ 2025
ศึกชิงดำเทนนิส เอทีพี มาสเตอร์ส 1000 ซินซินเนติ จบแบบช็อกแฟนกีฬา เมื่อ ยานนิค ซินเนอร์ มือ 1 โลกต้องถอนตัวเพราะป่วย ขณะตามหลัง คาร์ลอส อัลคาราซ 0-5 เซตแรก ส่งให้อัลคาราซผงาดซิวแชมป์ พร้อมโชว์สปิริตเขียนข้อความขอโทษคู่แข่งลงบนกล้อง

การแข่งขันเทนนิส เอทีพี มาสเตอร์ส 1000 รายการ ซินซินเนติ โอเพ่น 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 9,193,540 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 298,790,050 ที่เมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงดึกวันจันทร์ที่ 18 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในรอบชิงชนะเลิศ

ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ ยานนิค ซินเนอร์ มืออันดับ 1 ของโลก จากอิตาลี และแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว  พบกับ คาร์ลอส อัลคาราซ มือวางอันดับ 2 ของรายการ มืออันดับ 2 ของโลกจากสเปน ซึ่งสถิติการพบกันมาทั้งหมด 14 ครั้ง เป็นคาร์ลอส อัลคาราซ เอาชนะไปถึง 9 ครั้ง

เกมนี้ การแข่งขันดำเนินไปเพียงแค่ 23 นาที เท่านั้น ในเซตแรก ขณะที่ อัลคาราซ ขึ้นนำ ซินเนอร์ อยู่ที่สกอร์ 5-0 ซินเนอร์ ซึ่งเป็นแชมป์เก่าเมื่อปีที่แล้ว ได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากการแข่งขัน เนื่องจากมีอาการป่วย ทำให้ขอถอตัวออกจากการแข่งขันทันที

ทำให้ คาร์ลอส อัลคาราซ คว้าแชมป์เทนนิสรายการ ซินซินเนติ โอเพ่น ไปครองได้สำเร็จ ซึ่งเป็นแชมป์ระดับเอทีพี มาสเตอร์ส 1000 รายการที่ 8 พร้อมรับเงินรางวัลไปทั้งสิ้น 1,124,380 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ  36,542,350 ส่วน ยานนิค ซินเนอร์ รองแชมป์รับเงินรางวัลไป 597,890 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 19,431,425 บาท  อย่างไรก็ตาม อัลคาราซก็แสดงสปิริตนักกีฬาด้วยการเขียนข้อความว่า "Sorry Jannik" บนเลนส์กล้องหลังจบการแข่งขัน แสดงความเห็นใจต่อคู่แข่งคนสำคัญของเขา

ด้าน ยานนิค ซินเนอร์ ได้กล่าวขอโทษแฟนๆที่เข้ามาชมเกมในสนามนี้ ว่า "ผมรู้สึกไม่สบายมาตั้งแต่เมื่อคืนก่อน และคิดว่าอาการจะดีขึ้น แต่เมื่อลงสนามแล้วกลับแย่ลงจนไม่สามารถเล่นต่อได้"

สำหรับรายการต่อไปจะเป็นการแข่งขันในศึกแกรนด์สแลมสุดท้ายของปี ยูเอส โอเพ่น 2025 ชิงเงินรางวัลรวม 90,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,925,000,000 บาท ระหว่างวันที่ 24 ส.ค. - 7 ก.ย.68 ที่ฟลัชชิ่ง เมโดวส์ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา แฟนๆเทนนิสสามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง SPOTV (689) และ SPOTV 2 (690)

ที่มาของภาพ : Reuters
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport