วงการเทนนิสช็อก! ราติกา ยาดาฟ อดีตนักหวดทีมชาติอินเดียวัย 25 ปี ถูกพ่อแท้ ๆ ยิงเสียชีวิตในบ้าน เหตุไม่พอใจที่ลูกสาวรายได้สูงกว่า โดนชาวบ้านเย้ยหยันจนทนไม่ไหว ตำรวจเผยเคยขอให้เลิกงานแต่ถูกปฏิเสธ
รติกา ยาดาฟ อดีตนักเทนนิสสาวสวยชาวอินเดีย วัย 25 ปี ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดในบ้านพักของตัวเอง โดยคนที่ลั่นไกสังหารคือพ่อบังเกิดเกล้าของเธอเอง โดยเหตุผลเพราะผู้ให้กำเนิดรับไม่ได้ที่ลูกสาวทำรายได้สูงกว่าตนเอง
เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองกูรูกรัม ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่า ราติกา ซึ่งเคยติดอันดับ 113 ของโลกในประเภทหญิงคู่ของ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) เสียชีวิตจากการถูกยิง โดยเมื่อโปลิศไปถึงก็ได้พบกับ คูดีฟ น้าชายของผู้ตายเท่านั้น
จากรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่า ราติกา ซึ่งเคยลงหวดแร็กเกตประเภทหญิงเดี่ยว 36 แมตช์ และประเภทคู่ 7 แมตช์ กำลังทำอาหารอยู่ในครัวเพื่อเตรียมให้กับคุณแม่ที่กำลังป่วย แต่เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ ดีปัก ยาดาฟ พ่อแท้ๆ ใช้ปืนลูกโม่ .32 ขึ้นมา ก่อนรัวยิง 4 นัดใส่ลูกในไส้ของตัวเองในระยะประชิด กระสุนพุ่งเข้ากลางแผ่นหลัง 3 นัด และโดนไหล่อีก 1 นัด
หลังจากนั้นไม่นาน คูดีฟ น้าชายของรติกาได้ยินเสียงปืน จึงวิ่งเข้ามาที่ครัว และเห็นหลานสาวนอนจมกองเลือด จึงรีบพาเธอไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทันการแล้ว รติกา ซึ่งตอนเป็นดาวรุ่งเคยทำอันดับติดท็อป 20 ของประเทศ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น
สำหรับสาเหตุที่ ดีปัก ตัดสินใจฆาตกรรม ราติกา เป็นเพราะเขาไม่พอใจที่ลูกสาวมีรายได้สูงกว่าตนเอง และทำให้โดนชาวบ้านเย้ยหยัน "เขา (ดีปัก) รู้สึกไม่พอใจมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะชาวบ้านเย้นหยันเขาเรื่องรายได้ของลูกสาว เขารู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดเหล่านั้น"
"นอกจากนี้พวกเขายังพูดว่าบ้านหลังนี้ใช้เงินของเธอ และเขาพึ่งพาเงินของลูกสาวมากเกินไป ก่อนหน้านี้เขาเคยขอให้เธอ (ราติกา) เลิกทำงานในศูนย์ฝึกเยาวชนมาแล้วหลายครั้ง แต่เธอปฏิเสธ เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป) แถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระบุ
ทั้งนี้ ราติกา ซึ่งมีปัญหาบาดเจ็บไหล่จนไม่สามารถก้าวไปสู่ระดับ ดับเบิ้ลยูทีเอ ทัวร์ ได้สำเร็จ สามารถหาเลี้ยงตัวเองได้ โดยไม่ต้องขอเงินจากครอบครัว และด้วยความที่มีใบหน้าสวยคมทำให้มีโอกาสได้ทำงานในวงการบันเทิง เช่น การเล่นบทนางเองในมิวสิควีดิโอ เป็นต้น
แม้ ราติกา จะไปไม่ถึงฝั่งฝันที่ตัวเองตั้งเป้าเอาไว้ในวงการเทนนิส แต่หันไปเป็นโค้ชเทนนิสเยาวชนที่บ้านเกิดในเมืองกูรูกรัม เพื่อใช้ประสบการณ์ที่เคยมีสอนบรรดานักเทนนิสรุ่นใหม่ แต่สุดท้ายเธอไม่ได้ทำหน้าที่นี้อีกแล้ว