สรุป 10 ข่าวเด่นกีฬาปี 2568 ตอนที่ 2 อันดับ 5–1 ตั้งแต่ “เทพบิว” ภูริพล ทำลายกำแพง 10 วินาที, ดราม่า ROV โกงซีเกมส์, ฟุตบอลไทยชวดทองทั้งระบบ, ปลดอิชิอิ จนถึงปรากฏการณ์หมอนทองวิทยาเขย่าวงการบอลนักเรียน
10 ข่าวเด่นรอบปี 2568 ตอนที่ 2 (อันดับ 5-1)
ในตอนที่แล้ว ทีมงาน SIAMSPORT ได้นำเสนอ 10 ข่าวเด่นแห่งวงการกีฬาไทยประจำปี 2568 ในอันดับ 10-6 กันไปแล้ว มาดูกันต่อเลยดีกว่าว่าเหตุการณ์เด่นในวงการกีฬาบ้านเรา ประจำปี 2568 อันดับที่ 5 ถึงอันดับที่ 1 จะมีเรื่องใดกันบ้าง
อันดับที่ 5: “เทพบิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดประวัติศาสตร์ ทำลายกำแพง 10 วินาที

หากพูดถึงเรื่องราวที่น่าจดจำมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เชื่อว่าแฟนกีฬาจำนวนไม่น้อยคงเลือกโมเมนต์ที่ “เทพบิว” ภูริพล บุญสอน ลมกรดวัย 19 ปีทีมชาติไทย วิ่ง 100 เมตรในรอบคัดเลือก พร้อมกับเข้าเส้นชัยด้วยสถิติ 9.94 วินาที
สถิติดังกล่าวคือประวัติศาสตร์ที่วงการกรีฑาไทยรอคอยมานาน ส่งผลให้ “เทพบิว” กลายเป็นนักวิ่งไทยและนักวิ่งจากอาเซียนคนแรกที่วิ่ง 100 เมตรได้ต่ำกว่า 10 วินาที เท่านั้นยังไม่พอ ในซีเกมส์หนนี้ เขายังคว้าเหรียญทองจากอีเวนต์วิ่งระยะสั้นครบทั้ง 3 เหรียญ ได้แก่ วิ่ง 100 เมตร, 200 เมตร และวิ่งผลัด 4X100 เมตร แถมยังเป็นลมกรดคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทุบทั้งสถิติประเทศไทยและสถิติกีฬาซีเกมส์ได้ครบทั้ง 3 อีเวนต์จากการแข่งขันเพียงครั้งเดียว
อันดับ 4: บทเรียนสำคัญของอีสปอร์ตไทย จากเหตุการณ์ ROV หญิงในซีเกมส์

กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ไม่ได้มีเพียงเรื่องราวแห่งความสำเร็จเท่านั้น แต่ยังมีเหตุการณ์ที่กลายเป็นบทเรียนสำคัญของวงการอีสปอร์ตไทย เมื่อการแข่งขันเกม ROV ประเภททีมหญิง เกิดกรณีตรวจพบความผิดปกติจากนักกีฬาทีมชาติไทยอย่าง “tokyogurl” ณภัทร วราสินธ์ ซึ่งมีการใช้ซอฟต์แวร์ของบุคคลที่สามที่ไม่ได้รับอนุญาต ส่งผลให้ถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขันทันที
หลังเหตุการณ์ดังกล่าว คุณสันติ โหลทอง นายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย แสดงความรับผิดชอบด้วยการตัดสินใจถอนทีม ROV หญิงของไทยออกจากการแข่งขันทั้งทีม เพื่อรักษามาตรฐานการแข่งขันและภาพลักษณ์ของประเทศ แม้จะทำให้นักกีฬาอีก 4 คนต้องพลาดโอกาสลุ้นเหรียญรางวัลก็ตาม
สมาคมฯ ยืนยันภายหลังว่า จะดำเนินการตามกระบวนการอย่างรอบคอบและจริงจัง เพื่อให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำคัญในการยกระดับมาตรฐาน วินัย และความโปร่งใสของวงการอีสปอร์ตไทยในอนาคต
อันดับ 3: ลูกหนังไทยไร้ทองซีเกมส์

ซีเกมส์ครั้งที่ 33 กลายเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ท้าทายความรู้สึกของแฟนบอลไทยไม่น้อย เมื่อฟุตบอลและฟุตซอลทีมชาติไทยไม่สามารถคว้าเหรียญทองได้ แม้จะลงแข่งขันในฐานะเจ้าภาพก็ตาม
ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ต้องพลาดเหรียญทองอย่างน่าเสียดาย หลังโดน เวียดนาม แซงชนะ 3-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ทั้งที่ออกนำไปก่อน 2-0 คว้าได้เพียงเหรียญเงิน ขณะที่ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย พ่ายจุดโทษให้กับ ฟิลิปปินส์ ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะกลับมาชนะ อินโดนีเซีย 2-0 คว้าเหรียญทองแดงปลอบใจ
ด้านฟุตซอล ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในความหวังสูงสุดของทัพไทย ก็ต้องเผชิญบททดสอบสำคัญเช่นกัน ทีมชายพ่าย อินโดนีเซีย 1-6 ในนัดตัดสินแชมป์ ส่วนทีมหญิงพ่ายจุดโทษ อินโดนีเซีย ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะคว้าเหรียญทองแดงจากการชนะ ฟิลิปปินส์ 5-0
ผลการแข่งขันครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ไม่สามารถคว้าเหรียญทองจากซีเกมส์ได้ในทั้ง 4 ประเภท แต่ขณะเดียวกันก็สะท้อนภาพการแข่งขันในภูมิภาคที่เข้มข้นขึ้น และเป็นสัญญาณสำคัญให้วงการลูกหนังไทยได้ทบทวน วางรากฐาน และเดินหน้าพัฒนาอย่างจริงจังในระยะยาว
อันดับ 2: อิชิอิ แยกทางจากช้างศึก

วันที่ 21 ตุลาคม 2568 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ตัดสินใจแยกทางกับ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ ท่ามกลางความประหลาดใจของแฟนบอลทั่วประเทศ เนื่องจากก่อนหน้านั้น เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่นเพิ่งพาทีมทำผลงานน่าพอใจในศึกเอเชียนคัพ 2027 รอบคัดเลือก ด้วยการเอาชนะไต้หวันได้ทั้งสองนัด เหย้า–เยือน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ถูกมองว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ละเอียดอ่อน เพราะ อิชิอิ คือกุนซือมากประสบการณ์ เจ้าของผลงานพา คาชิม่า แอนท์เลอร์ส คว้าแชมป์เจลีก และรองแชมป์สโมสรโลก อีกทั้งกำลังอยู่ระหว่างการวางรากฐานและแนวทางระยะยาวให้กับทีมชาติไทย
ทันทีที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ กระแสความคิดเห็นจากแฟนบอลก็เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงเหตุผลและทิศทางของทีมในอนาคต จนกลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของวงการฟุตบอลไทยตลอดปี 2568
อันดับที่ 1: “หมอนทองฟีเวอร์” เขย่าวงการลูกหนังนักเรียน สนามแตกจุดไฟฝันทั้งประเทศ

ข่าวเด่นอันดับ 1 แห่งปี 2568 ต้องยกให้กับปรากฏการณ์ของ โรงเรียนหมอนทองวิทยา จากอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในศึกฟุตบอลนักเรียน แชมป์กีฬา 7HD ที่ไม่ได้เป็นเพียงการแข่งขันชิงถ้วยรางวัล แต่กลายเป็นเรื่องราวที่จุดไฟความฝันให้กับทั้งประเทศ
แม้หมอนทองวิทยาจะไม่ใช่โรงเรียนฟุตบอลชื่อดังหรือทีมยักษ์ใหญ่ แต่สิ่งที่ทำให้ทีมชุดนี้ครองหัวใจแฟนบอล คือเรื่องราวการเดินทางของเด็ก ๆ และ “รถขนฝัน” รถบรรทุก 6 ล้อเก่า ๆ ที่พาพวกเขาตระเวนสู้ทุกสนาม โดยมี อ.สกล เกลี้ยงประเสริฐ เป็นทั้งโค้ช ครู และคนขับรถ เส้นทางธรรมดา ๆ นี้กลับถูกเล่าออกมาอย่างทรงพลัง จนยอดวิวในโลกออนไลน์พุ่งถล่มทลาย และเกิดกระแส หมอนทองฟีเวอร์ ไปทั่วประเทศ
ไฮไลต์สำคัญเกิดขึ้นในรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งเกิดปรากฏการณ์ สนามแตก แฟนบอลหลั่งไหลเข้ามาให้กำลังใจแน่นอัฒจันทร์ จนฝ่ายจัดต้องเปิดพื้นที่ลู่วิ่งให้แฟน ๆ ได้นั่งชมเกม ถือเป็นภาพหาชมยากของฟุตบอลนักเรียนไทย
แม้บทสรุปในสนาม หมอนทองวิทยาจะพ่ายให้กับ โรงเรียน อบจ.ชัยนาท ไปอย่างสุดมัน 1-2 คว้าเพียงตำแหน่งรองแชมป์ แต่สิ่งที่ทีมจากบางน้ำเปรี้ยวได้รับกลับยิ่งใหญ่กว่านั้นหลายเท่า
พวกเขาได้สร้าง ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ให้ฟุตบอลนักเรียน
ได้พิสูจน์ว่า “ระบบ ความเชื่อ และหัวใจ” สามารถพาเด็กธรรมดาไปไกลได้จริง
และได้กลายเป็น แรงบันดาลใจระดับประเทศ ว่าฟุตบอลไม่ได้มีไว้แค่สำหรับโรงเรียนใหญ่หรือทีมดังเท่านั้น
ปี 2568 จึงไม่ใช่แค่ปีแห่งแชมป์
แต่คือปีที่ฟุตบอลนักเรียนไทย ได้ “เรื่องเล่า” ที่งดงามที่สุดเรื่องหนึ่ง