ดร.ก้องศักด ยอดมณี ยืนยันความพร้อมไทยเป็นเจ้าภาพอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่นครราชสีมา การจัดการเดินหน้าตามแผน ขณะนักกีฬาพาราไทย 19 ชนิดกีฬา ซ้อมเข้มหวังครองเจ้าเหรียญทอง
ประเทศไทยมีความพร้อมเต็มที่ในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20–26 มกราคม 2569 ที่จังหวัด นครราชสีมา โดยการเตรียมการในทุกด้านเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ขณะที่ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทยกำลังเร่งฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น เพื่อเป้าหมายคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทอง
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันได้ดำเนินงานอย่างต่อเนื่องควบคู่กับการเป็นเจ้าภาพ กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไป โดยขณะนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 25 วัน ทุกฝ่ายกำลังดำเนินการอย่างเป็นระบบและเป็นไปตามแผนที่กำหนด
ผู้ว่าการ กกท. ระบุเพิ่มเติมว่า การจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการมีรายละเอียดมากกว่ากีฬาทั่วไป ทั้งในเรื่องการตรวจคลาสนักกีฬา การแยกประเภทความพิการ รวมถึงระบบขนส่ง การเดินทาง ที่พัก สนามแข่งขัน สนามฝึกซ้อม อุปกรณ์ทางเทคนิค บุคลากร และการบริหารจัดการโดยรวม อย่างไรก็ตาม บุคลากรที่เกี่ยวข้องมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ จึงได้กำชับให้ติดตามงานอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น
ในส่วนของความพร้อมด้านนักกีฬา ทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย ทั้ง 19 ชนิดกีฬา กำลังมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนัก โดย กกท. ได้นำองค์ความรู้ด้าน วิทยาศาสตร์การกีฬา และ โภชนาการ มาใช้สนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้นักกีฬามีความพร้อมสูงสุดก่อนลงแข่งขัน
สำหรับเป้าหมายในมหกรรมครั้งนี้ ได้มีการประเมินร่วมกับสมาคมกีฬาคนพิการทุกประเภท ซึ่งเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะคว้าตำแหน่ง เจ้าเหรียญทอง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องไม่ประมาทคู่แข่งสำคัญ โดยเฉพาะ อินโดนีเซีย ที่มีการพัฒนาทีมอย่างต่อเนื่องและน่าจับตามอง
ทั้งนี้ กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 บรรจุการแข่งขันรวม 19 ชนิดกีฬา ได้แก่ กรีฑา, ยิงธนู, แบดมินตัน, ฟุตบอล 5 คน, บอคเซีย, หมากรุกสากล, จักรยาน, ฟุตบอล 7 คน, โกลบอล, ยูโด, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, วอลเลย์บอลนั่ง, ยิงปืน, วีลแชร์บาสเกตบอล, วีลแชร์ฟันดาบ, วีลแชร์เทนนิส และโบว์ลิ่ง ชิงชัยรวมทั้งสิ้น 493 เหรียญทอง

