ทัพพาราเยาวชนไทย ปิดฉาก เอเชียน ยูธ พาราเกมส์ ครั้งที่ 5 ที่ ยูเออี ด้วยผลงาน 33 เหรียญทอง จบอันดับ 4 เอเชีย สูงกว่าเป้าหมาย พร้อมรักษาตำแหน่งเบอร์ 1 อาเซียน
ทัพนักกีฬาพาราเยาวชนทีมชาติไทย สร้างผลงานกระหึ่มเอเชีย หลังเสร็จสิ้นภารกิจในการแข่งขันมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ พาราเกมส์ ครั้งที่ 5 ณ เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งชิงชัยระหว่างวันที่ 7-14 ธันวาคม 2568 โดยทัพนักกีฬาไทยสามารถทำผลงานรวมได้ 33 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน และ 29 เหรียญทองแดง ส่งผลให้จบอันดับที่ 4 ของตารางเหรียญรางวัล
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ในทัวร์นาเมนต์นี้ กกท. ได้ร่วมมือกับ คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการต่างๆ ส่งนักกีฬาเข้าร่วมทั้งหมด 126 คน ใน 11 ชนิดกีฬา ประกอบด้วย ยิงธนู, ยกน้ำหนัก, กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, โกลบอล, งัดข้อ, ว่ายน้ำ, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด และวีลแชร์บาสเกตบอล โดยผลงาน 33 เหรียญทองที่ทำได้ ถือว่าทะลุเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 30 เหรียญทอง
สำหรับตารางสรุปเหรียญรางวัล ทีมชาติไทย รั้งอันดับ 4 ของเอเชีย เป็นรองเพียง อุซเบกิสถาน (99 เหรียญทอง), อิหร่าน (62 เหรียญทอง) และ ญี่ปุ่น (40 เหรียญทอง) เท่านั้น ขณะเดียวกันยังถือเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งสะท้อนถึงความสำเร็จในการพัฒนานักกีฬาพาราเยาวชนอย่างต่อเนื่อง
ดร.ก้องศักด กล่าวเพิ่มเติมว่า ภารกิจต่อไปของ กกท. คือการเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุดในการเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้น ณ จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 20-26 มกราคม 2569 โดยจะนำวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาสนับสนุนนักกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรักษามาตรฐานความสำเร็จในระดับภูมิภาคต่อไป
ทั้งนี้ การแข่งขันเอเชียน ยูธ พาราเกมส์ จัดขึ้นมาแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง โดยเริ่มครั้งแรกในปี 2009 ที่ ประเทศญี่ปุ่น, ครั้งที่ 2 ปี 2013 ที่ ประเทศมาเลเซีย, ครั้งที่ 3 ปี 2017 ที่ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และครั้งที่ 4 ปี 2021 ที่ ประเทศบาห์เรน

