ย้อนกลับไปเมื่อปี 2022 เพียงไม่กี่วันก่อนถึงวันเกิดอายุครบ 18 ปี นักสโนว์บอร์ดชาวจีน ซู อี้หมิง ก็ได้ยืนอยู่บนโพเดียมโอลิมปิก โดยมีเหรียญทองห้อยอยู่รอบคอของเขา
ในเวลานั้น หนุ่มน้อยชาวจีน สร้างความยิ่งใหญ่ในรุ่น "บิ๊กแอร์" ศึกโอลิมปิก ฤดูหนาว ที่ปักกิ่ง โดยช่วงเวลานั้นได้เปลี่ยนชีวิตของเขาไปอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
ความจริงแล้ว ซู อี้หมิง เป็นที่รู้จักในประเทศจีนพอสมควร เนื่องจากเขาเป็นนักแสดงเด็กที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ และเคยมีผลงานในวงการภาพยนตร์หลายเรื่อง ก่อนจะหันเหชีวิตมาให้ความสนใจกับการเป็นนักกีฬาสโนว์บอร์ดอาชีพเมื่อปี 2018
"หนุ่มซู" มีผู้ติดตามมากกว่า 300,000 คนบนอินสตาแกรม และมากกว่า 2,000,000 คนบนโซเชียลมีเดียจีนอย่างเว่ยป๋อ (Weibo) ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ผู้คนรู้จักมากที่สุดก่อนศึกโอลิมปิก ฤดูหนาว 2026 ที่ประเทศอิตาลี
ปัจจุบัน ซู อี้หมิง อายุ 21 ปีแล้ว ซึ่งกำลังอยู่ในแค้มป์ฝึกซ้อมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ กลายเป็นหนึ่งในไอดอลของเด็กรุ่นใหม่จำนวนมากทั้งเรื่องกีฬาสโนว์บอร์ด และชีวิตส่วนตัว รวมทั้งความมุ่งมั่นที่จะไล่ตามความฝัน เหมือนอย่างที่เขาแสดงให้เห็นมาตลอด
เส้นทางชีวิตของ ซู อี้หมิง เป็นอย่างไรกว่าจะก้าวขึ้นมาสู่การเป็นสตาร์ในวงการกีฬาสโนว์บอร์ด
ก้าวแรกสู่เส้นทางโอลิมปิก
การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกของ ซู อี้หมิง ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ
ทั้งพ่อและแม่ของเขาต่างก็เป็นนักสโนว์บอร์ด และเขาจำได้ดีว่าเริ่มเล่นอยู่บนลานหิมะตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ ตอนที่พ่อแม่ไม่สามารถหาคนมาดูแลเขาได้
ตอนแรก เขาใช้สโนว์บอร์ดที่ใหญ่กว่าตัวเขาเสียอีกและต้องใช้เวลานานเกือบห้าปีกว่าจะเติบโตพอที่จะใช้มันได้อย่างเหมาะสม.
ในช่วงเวลานั้น ลานสโนว์บอร์ดทางตอนเหนือของจีนก็กลายเป็นบ้านหลังที่สองของเขา มันเป็นสถานที่ที่ ซู อี้หมิง รู้สึกคุ้นเคยที่สุด ในโลกยุคเร่งรีบเช่นทุกวันนี้ ที่เขาต้องเดินทางไปยังเมืองใหญ่หลายแห่ง หนุ่มวัย 21 ปีคนนี้ก็ยังคงโหยหาการใช้เวลาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งสิ่งเดียวที่สำคัญคือการสนุกสนานกับการเล่นบอร์ดของเขา
ชีวิตในฐานะนักแสดงเด็กดาวรุ่ง
ก่อนหน้าที่จะก้าวขึ้นมาเป็นไอดอลในวงการกีฬานั้น ซู อี้หมิง เป็นที่รู้จักในวงการในฐานะนักแสดงเด็กดาวรุ่ง
ในเวลานั้นโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เรื่องใหม่กำลังมองหาเด็กที่ชำนาญบนหิมะ เจ้าหนูซู ก็สลับจากการเล่นสโนว์บอร์ดมาเป็นเล่นสกีเพื่อรับบท "จื้อซวน" ในภาพยนตร์ยอดนิยมเรื่อง "ยุทธการยึดผาพยัคฆ์" (The Taking of Tiger Mountain)
ภาพยนตร์เรื่องนี้และบทบาทของเขาส่งผลสะเทือนใจต่อผู้ชมชาวจีนอย่างมาก ทำให้ ซู อี้หมิง ได้เห็นเส้นทางอาชีพนักแสดงของเขาเติบโต และเขายังได้ปรากฏตัวในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์เรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง เช่น "A Splendid Life in Beijing" และ "Tracks in the Snowy Forest" เป็นต้น
เส้นทางสู่การเป็นแชมป์
ไม่ว่าเขาจะทำผลงานได้ดีหรือไม่ดีในการแข่งขัน หนุ่มน้อยคนนี้ก็ยังคงฝันที่จะไปแข่งกีฬาโอลิมปิก และทุ่มเทชีวิตทั้งชีวิตของเขาเพื่อพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
ความมุ่งมั่นไม่เคยทำร้ายใคร โดยหลังจากปีที่ยอดเยี่ยมก่อนการแข่งขันโอลิมปิก ซู อี้หมิง ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนประเทศจีน และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เจ้าตัวจะคาดหวังเอาไว้ด้วยซ้ำ
เขาคว้าเหรียญสองเหรียญ โดยเหรียญแรกคือเหรียญเงิน และต่อมาคือเหรียญทอง นั่นคือช่วงเวลาแห่งความทรงจำในชีวิตวัยรุ่นของเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ ซู อี้หมิง คว้าเหรียญทองโอลิมปิกฤดูหนาวตามที่ฝันเอาไว้ได้ เจ้าตัวก็รู้สึกสูญเสียงความทะเยอทะยาน และหมดแรงกระตุ้นไปดื้อๆ โดยเขาให้เหตุผลว่า "ผมเสียความมุ่งมั่นในการแข่งขันไปเลย แม้ผมยังรักกีฬาสโนว์บอร์ด แต่ผมตัดสินใจพักปีครึ่งเพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนบ้าง"
"ทุกเช้าที่ผมตื่นขึ้นมา ผมจะมีความฝัน มีเป้าหมายบางอย่างที่อยากไล่ตาม นั่นแหละคือเหตุผลที่ผมทุ่มเทเต็มร้อยและทำงานหนักมาก แต่ทันทีหลังจากที่ผมคว้าเหรียญทองได้ เช้าวันต่อมาที่ตื่นขึ้นมา ผมกลับรู้สึกว่าไม่มีอะไรที่อยากได้อีกแล้ว มันรู้สึกว่างเปล่าจริงๆ ในตอนนั้น"
ซู อี้หมิง ใช้เวลาหลายเดือนหลังจากนั้นในการชาร์จพลัง เขาเพลิดเพลินกับการพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนฝูง ดื่มด่ำกับธรรมชาติ และตามล่าความสนใจอื่นๆ ของเขา เช่น แฟชั่น เป็นต้น
หลังจากการพักฟื้นร่างกายและจิตใจแล้ว ตอนนี้ ซู อี้หมิง ากลับเข้าสู่การแข่งขันสโนว์บอร์ดอีกครั้งพร้อมความมุ่งมั่นใหม่ คือการป้องกันตำแหน่งแชมป์โอลิมปิกของเขาที่อิตาลี
ชีวิตของเจ้าตัวในตอนนี้ดูแตกต่างออกไปอย่างมากเมื่อต้องเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิก ฤดูหนาว ครั้งที่สอง และ หนุ่มซู ก็รู้ดีว่าเขามีเป้าหมายสำคัญสำหรับการแข่งขันในปีหน้า และนั่นทำให้เกิดความกระหายที่จะประสบความสำเร็จอีกครั้ง
เล่นพูล, ตกปลา และการเล่นเซิร์ฟ
ชื่อเสียงที่โด่งดังทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสดีๆ มากมาย นอกจากนี้ ซู อี้หมิง ยังหันไปทำธุรกิจหลายด้าน และนั่นยิ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วโลกมากยิ่งขึ้น
แม้จะมีงานหลายด้านก็ตาม แต่ ซู อี้หมิง พร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อให้งานทั้งหมดออกมาดีที่สุด แต่ถึงจะเหนื่อยล้ามากแค่ไหน เขาก็ยังคงรักษาตารางการฝึกซ้อมได้เป็นอย่างดี
การรักษาความสมดุลทั้งเรื่องงาน และการฝึกซ้อมช่วยให้เขาสนุกกับชีวิตและอาชีพที่แสนวุ่นวายอยู่เสมอ แม้ว่าชื่อเสียงจะดังเป็นพลุแตกก็ตาม แต่ หนุ่มน้อยอัจฉริยะคนนี้ ยังคงถ่อมตัว และติดดินเหมือนเดิม
"เวลาอยู่บ้าน ผมก็ไปเล่นพูลกับเพื่อนๆ ไปตกปลาและเล่นเซิร์ฟ ผมไม่ใช่คนที่อยากนั่งอยู่บ้านแล้วเล่นโทรศัพท์หรือดูหนัง ผมพยายามใกล้ชิดกับธรรมชาติ และทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเชื่อมโยงกับธรรมชาติ" ซู อี้หมิง กล่าว
โลกแห่งสโนว์บอร์ดของ ซู อี้หมิง จะกลับมาอีกครั้งในการแข่งขันโอลิมปิก ฤดูกาลหนาว ในเดือนกุมภาพันธ์ 2026 และนั่นจะเป็นช่วงเวลาที่เขาจะได้แสดงศักยภาพในด้านกีฬาที่เขารักให้โลกได้เห็นอีกครั้ง
✍️ 𝐓𝐎𝐌𝐌𝐘 𝐓𝐄𝐄