ผ่านเพียงครึ่งทางของศึกเอเชียนยูธเกมส์ 2025 ที่บาห์เรน ทัพนักกีฬาเยาวชนไทยโชว์ผลงานยอดเยี่ยมกวาด 13 เหรียญทอง 12 เหรียญเงิน 6 เหรียญทองแดง สร้างสถิติใหม่คว้าทองมากที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน
การแข่งขันเอเชียนยูธเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน ผ่านมาราวๆครึ่งทางเท่านั้น ทว่าทัพนักกีฬาไทยต่างทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนคว้าไปแล้ว 13 เหรียญทอง 12 เหรียญเงิน และ 6 เหรียญทองแดง
จากผลงานดังกล่าว ส่งผลให้ทัพนักกีฬาเยาวชนไทย สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการคว้าเหรียญทองมากที่สุด ในการแข่งขันเอเชียนยูธเกมส์ 1 ครั้ง
หลังจากในศึกเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 1 ที่ประเทศสิงคโปร์เมื่อปี 2009 ทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้ 11 เหรียญทอง 7 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 3 ของตารางสรุปเหรียญรางวัล เป็นรองเพียงจีน(25 ทอง 16 เงิน 11 ทองแดง และ เกาหลีใต้(20 ทอง 17 เงิน และ 17 ทองแดง)
ส่วนในเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 2 ณ เมืองนานจิง ประเทศจีน เมื่อปี 2013 ทัพนักกีฬาไทยในตอนนั้นคว้ามาได้ 6 เหรียญทอง, 15 เหรียญเงิน และ 16 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 4 ของตารางสรุปเหรียญรางวัล เป็นรองจีน(46 ทอง 23 เงิน และ 24 ทองแดง), เกาหลีใต้(25 ทอง 13 เงิน และ 14 ทองแดง) และญี่ปุ่น(7 ทอง 5 เงิน และ 6 ทองแดง)
อย่างไรก็ตาม ในศึกเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 3 มีอีเวนต์และชนิดกีฬาชิงชัยมากกว่าครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 หลายเหรียญ โดยเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 1 ชิง 90 เหรียญทองจาก 9 ชนิดกีฬา ส่วนเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 2 ชิง 122 เหรียญทองจาก 16 ชนิดกีฬา ส่วนเอเชียนยูธเกมส์หนนี้ชิง 272 เหรียญทองจาก 26 ชนิดกีฬา
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า 2 ชาติมหาอำนาจด้านกีฬาแห่งทวีปเอเชียอย่างญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ คว้าไปได้เพียงชาติละ 1 เหรียญทองเท่านั้น หลังการแข่งขันผ่านมา 5 วัน(นับจากวันที่ 22 ต.ค.68 ที่มีพิธีเปิดการแข่งขัน)
โดยเกาหลีใต้ทำผลงานได้เพียง 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงินและ 3 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 18 ส่วนญี่ปุ่น 1 เหรียญทอง 2 เหรียญเงินและ 2 เหรียญทองแดง รั้งอันดบ 19 ของตารางสรุปเหรียญรางวัล