สร้างทายาท "เทนนิส พาณิภัค" ภารกิจอันท้าทายของทัพเทควันโดไทย

ความพ่ายแพ้ดังกล่าวถือว่าน่าเห็นใจอย่างยิ่ง เพราะในยกที่สอง กมลชนกมีโอกาสทำแต้มจากการเตะเข้าศีรษะคู่แข่ง แต่ผู้ตัดสินในสนามไม่เห็น และเมื่อทีมไทยขอชาลเลนจ์ดูวิดีโอ กลับเกิดความผิดพลาดเนื่องจากผู้ควบคุมวิดีโอตรวจสอบผิดช็อต ทำให้การทักท้วงไม่เป็นผล ส่งผลให้จอมเตะสาวไทยต้องจอดป้ายอย่างน่าเสียดาย

หลังจบการแข่งขัน กมลชนกถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะรู้ดีว่าต้องเผชิญแรงกดดันมหาศาลในฐานะผู้ถูกคาดหวังให้ก้าวขึ้นมาทำหน้าที่แทน "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ จอมเตะหญิงผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย ที่ประกาศอำลาสังเวียนหลังจบ โอลิมปิก 2024 ปารีสเกมส์

ด้วยมาตรฐานอันสูงส่งที่ พาณิภัค สร้างไว้ ทั้งการครองบัลลังก์มือ 1 ของโลกในรุ่น 49 กก.หญิงยาวนาน และการกวาดแชมป์แทบทุกเวทีระดับนานาชาติ รวมถึงเคยคว้ารางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมของ สหพันธ์เทควันโดโลก (WTF) จึงทำให้ "กีตาร์" ต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

การก้าวขึ้นมาแทนที่นักกีฬาระดับตำนานเช่นนี้ ถือเป็นบททดสอบสำคัญของ สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และคณะผู้ฝึกสอนที่นำโดย "โค้ชเช" ชัชชัย เช ในการสร้างจอมเตะเลือดใหม่ให้พร้อมสำหรับมหกรรมกีฬา โอลิมปิก 2028 ลอสแอนเจลิสเกมส์ ที่สหรัฐอเมริกา

ที่ผ่านมา รุ่น ฟลายเวต 49 กก.หญิง ถือเป็นรุ่นทองของทีมเทควันโดไทย โดยกวาดมาแล้วถึง 6 จาก 7 เหรียญโอลิมปิกที่ชาติไทยทำได้ ได้แก่ เยาวภา บุรพลชัย เหรียญเงิน โอลิมปิก 2004 เอเธนส์

บุตรี เผือดผ่อง เหรียญเงิน โอลิมปิก 2008 ปักกิ่ง

ชนาธิป ซ้อนขำ เหรียญทองแดง โอลิมปิก 2012 ลอนดอน

พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เหรียญทองแดง 2016 ริโอฯ, เหรียญทอง 2020 โตเกียว และ 2024 ปารีส

ความสำเร็จต่อเนื่องนี้ทำให้รุ่น 49 กก.หญิง กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความแข็งแกร่งของเทควันโดไทย และเป็นโจทย์ใหญ่ที่สมาคมฯ ต้องหาคนสืบทอดเจตนารมณ์ของ “เทนนิส” ให้ได้โดยเร็ว

การสร้างนักสู้รุ่นใหม่ให้ยืนหยัดในเวทีโลกไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยทั้งพรสวรรค์ การฝึกซ้อมที่เข้มข้น การถ่ายทอดประสบการณ์จากโค้ช และการต่อสู้กับคู่แข่งระดับโลกจากหลายชาติ

นี่คือภารกิจสุดท้าทายของเทควันโดไทย -การสร้าง "ทายาท พาณิภัค" ให้ทันเวลาก่อนที่เวที โอลิมปิก แอลเอ 2028 จะมาถึงในอีก 3 ปีข้างหน้า.