จากคนที่เคยเดินไม่ไหว สู่การเป็นแชมป์มาราธอนรุ่นอาวุโส 14 ปีต่อเนื่อง “ชินจิ โอกุจิ” วัย 89 ปี คือนิยามของคำว่าไม่ยอมแพ้และแรงบันดาลใจที่แท้จริงสำหรับนักวิ่งทั่วโลก
จากผลตรวจสุขภาพสู่ชีวิตที่เปลี่ยนไป
ชินจิ โอกุจิ ปู่วัย 89 ปี จากจังหวัดนากาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งตัวเองจะกลายเป็นตำนานของวงการวิ่งมาราธอน
เมื่อ 29 ปีก่อน เขาเพียงแค่ไปตรวจสุขภาพแล้วพบว่า ระดับไตรกลีเซอไรด์สูง แพทย์แนะนำให้ทานยา แต่โอกุจิเลือกที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตแทน นั่นคือจุดเริ่มต้นของ "การเดิน" และ "การวิ่ง" ในชีวิตประจำวัน
แต่เส้นทางนี้ไม่ง่ายเลย—ช่วงแรกเขาเหนื่อยจนแทบจะ “คลาน” กลับบ้านหลังวิ่งจบในแต่ละวัน ทว่าโอกุจิไม่ยอมแพ้ เขาซ้อมจนร่างกายเริ่มปรับตัว และจากการวิ่งเพื่อสุขภาพ กลายเป็นความรัก และในที่สุดก็กลายเป็นนักวิ่งอาชีพ
มาราธอนแรกในวัย 63 ปี พร้อมลูกชายร่วมลงแข่ง
นากาโนะ มาราธอน 1999 คือสนามแข่งขันใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของโอกุจิ ที่ตัดสินใจลงวิ่งพร้อมกับลูกชาย ผลคือเขาวิ่งจบด้วยเวลา 4 ชั่วโมง 42 นาที 13 วินาที จากกำหนดเวลา 5 ชั่วโมง และตั้งแต่นั้นมาก็เข้าร่วมทุกปี ยกเว้นสองครั้งในช่วงโควิด-19
ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 25 ที่คุณปู่โอกุจิได้เข้าร่วมมาราธอนรายการนี้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งไม่ใช่แค่เข้าร่วม แต่เขายังคว้า อันดับหนึ่งในการจัดอันดับรุ่นอาวุโสของญี่ปุ่นได้ถึง 14 ปีติดต่อกัน
ซ้อมตี 4 ครึ่ง ทุกสัปดาห์ไม่เคยขาด
วิธีฝึกซ้อมของโอกุจิน่าทึ่งไม่แพ้ผลลัพธ์
เขาวิ่งตี 4:30 ทุกเช้า สัปดาห์ละ 3 ครั้ง
เส้นทางหลักคือรอบทะเลสาบซูวะ ระยะทางราว 16 กม.
ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 6.5 นาที/กิโลเมตร และหากวันไหนรู้สึกอ่อนล้า ก็จะลดลงเหลือ 10 นาที/กิโลเมตร
นอกจากนั้นยังวิ่งเบา ๆ อีก 5–10 กม. ในวันอื่น
ก่อนแข่ง 3 เดือน เขาจะเพิ่มระยะวิ่งเป็น 24–32 กม. หรือเดิน 5 ชั่วโมงทุก 2 สัปดาห์
โค้ชส่วนตัวของเขาก็ไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือ ฮิเดยะ ลูกชายของเขา ที่เข้ามาช่วยแนะนำการซ้อมอย่างจริงจังตลอด 15 ปีที่ผ่านมา
ไม่หยุดแค่ชัยชนะ: เป้าหมายใหม่ในวัยใกล้เลข 9
ในขณะที่หลายคนเลือกพักผ่อนในช่วงบั้นปลายชีวิต โอกุจิกลับตั้งเป้าหมายใหม่อย่างชัดเจน เขาเคยทำลายสถิติระดับประเทศมาแล้วทั้งในรุ่นอายุ 80–84 ปี (3:30:18) และรุ่น 85–89 ปี (4:07:56)
เป้าหมายต่อไปของเขาคือการจบมาราธอนภายใน 4 ชั่วโมงอีกครั้งในปีหน้า พร้อมกับการลุ้นทำลาย สถิติโลกนักวิ่งรุ่นอายุ 90–94 ปี ที่ปัจจุบันอยู่ที่ 6:46:34
คำพูดสุดท้ายของคุณปู่ ที่อยากฝากถึงนักวิ่งทุกคน
“ถ้าผมยอมแพ้ตั้งแต่ต้น คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ ผมก็จะไม่มีวันก้าวหน้า…แต่เพราะผมเชื่อว่าทำได้ นั่นแหละที่พาผมมายืนถึงตรงนี้”
“ชินจิ โอกุจิ” คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไร เมื่อใจยังไม่หยุดวิ่ง ชีวิตก็ไม่มีวันหมดแรงบันดาลใจ