การวิ่งมอบประโยชน์ให้ผู้หญิงสูงอายุมากกว่าการออกกำลังกายทั่วไป เพราะช่วยเสริมสุขภาพหัวใจ, ปกป้องข้อต่อ, ลดความเสี่ยงโรคต่างๆ และยังช่วยให้มีอายุยืนขึ้น
สำหรับการวิ่งเป็นตัวเลือกที่ดีต่ออิสตรีเมื่ออายุมากขึ้นหรือไม่? งานวิจัยล่าสุดชี้ว่ามันเป็นตัวเลือกที่ดีจริงๆ
จากงานวิจัยโดยมหาวิทยาลัยฮัมโบลดต์ ประเทศเยอรมนี ได้ศึกษาผู้ใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 65 ปี โดยแบ่งผู้เข้าร่วมวิจัยออกเป็นสองกลุ่ม: กลุ่มหนึ่งวิ่งสัปดาห์ละสามครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 30 นาที ส่วนอีกกลุ่มเดินด้วยความถี่และระยะเวลาเท่ากัน
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้ที่เดินพบว่ามีการเสื่อมสภาพร่างกายตามวัยมากกว่าผู้ที่วิ่ง ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการวิ่งจ๊อกกิ้งอาจช่วยรักษาความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของร่างกายได้
หนึ่งในข้อดีของการวิ่งคือความง่ายในการเข้าถึง สำหรับผู้หญิงสูงอายุ สิ่งที่ต้องมีจริงๆ ก็คือรองเท้าวิ่งที่ดีสักคู่ และสปอร์ตบราคุณภาพดีเพื่อซัพพอร์ตร่างกาย ก็สามารถเริ่มวิ่งได้แล้ว
ประโยชน์ต่อสุขภาพของการวิ่งสำหรับผู้หญิงสูงอายุ
1. เผาผลาญแคลอรี่และสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง
การวิ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการเผาผลาญแคลอรี่ โดยงานวิจัยจากวิทยาลัยแพทย์วิสคอนซินและศูนย์การแพทย์ทหารผ่านศึก พบว่าผู้หญิงสามารถเผาผลาญได้ระหว่าง 705-865 แคลอรี่ต่อชั่วโมงบนลู่วิ่ง ซึ่งมากกว่าการออกกำลังกายรูปแบบอื่นๆ เช่น การปั่นจักรยาน การขึ้นบันได หรือเครื่องเล่นสกี
นอกจากการเผาผลาญแคลอรี่แล้ว การวิ่งยังเป็นการออกกำลังกายหัวใจและหลอดเลือดที่แข็งแรง ช่วยให้เลือดไหลไปยังหัวใจอย่างรวดเร็ว ทำให้หัวใจแข็งแรงและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อวิ่งอย่างสม่ำเสมอ
2. ช่วยปกป้องจากโรคข้อเสื่อม
โรคข้อเสื่อมเกิดขึ้นเมื่อกระดูกอ่อนสึกหรอ และความอ้วน สิ่งเหล่านี้จะเพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก การวิ่งเป็นประจำช่วยให้ผู้หญิงรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ลดโอกาสในการเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมเมื่อเวลาผ่านไป
3. ส่งเสริมสุขภาพโดยรวม
การวิ่งช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหลายๆ อย่าง ผู้หญิงที่วิ่งเป็นประจำมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดโรค เช่น เบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคหลอดเลือดสมอง และแม้แต่มะเร็งบางชนิด
งานวิจัยหลายชิ้น รวมถึงงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน วารสารมะเร็งอังกฤษ (British Journal of Cancer) พบว่าการเดินเร็วสัปดาห์ละ 5-6 ชั่วโมงสามารถลดความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ และเป็นไปได้ว่าการวิ่งก็ให้ประโยชน์ที่เท่ากันหรือมากกว่านั้น
นอกจากนี้ การวิ่งยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดความดันโลหิต เพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี รวมทั้งลดความเสี่ยงของโรคตา เช่น จอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจก เป็นต้น
4. มีชีวิตที่ยืนยาวยิ่งขึ้น
จากการศึกษาวิจัยระยะยาวโดยคณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งติดตามผู้วิ่ง 538 คน และผู้ที่ไม่วิ่ง 423 คน อายุ 50 ปีขึ้นไป ตั้งแต่ปี 1984-2005 ด้วยการใช้แบบสอบถามเกี่ยวกับความบกพร่องทางร่ายการประจำปี
ผลการวิจัยระบุว่าผู้วิ่งยังคงมีความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างเป็นอิสระมากกว่า และเมื่อสิ้นสุดการศึกษา พบว่าผู้วิ่งร้อยละ 85 ยังคงมีชีวิตอยู่ ขณะที่ผู้ที่ไม่วิ่งมีเพียงร้อยละ 66 เท่านั้น นั่นเป็นตัวบ่งชี้ว่าการวิ่งเป็นประจำเกี่ยวข้องกับชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี
5. การวิ่งเป็นมากกว่าการออกกำลังกาย
สำหรับผู้หญิงสูงอายุ การวิ่งไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่เป็นวิธีรักษาสุขภาพ, ความเป็นอิสระ และชีวิตที่ยืนยาวไปจนถึงวัยชรา ซึ่งเป็นการมอบประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง
ตั้งแต่การเผาผลาญแคลอรี่และเสริมความแข็งแรงให้หัวใจ ไปจนถึงการปกป้องข้อต่อ, ลดความเสี่ยงโรคต่างๆ และส่งเสริมความยืนยาวของชีวิต การวิ่งจึงพิสูจน์แล้วว่าเป็นการออกกำลังกายที่เข้าถึงง่ายและมีประสิทธิภาพสูง
แม้ว่าจะเป็นการวิ่งจ๊อกเบาๆ ก็ตาม แต่เมื่อทำอย่างสม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยให้ผู้หญิงสูงอายุรักษาความเป็นอิสระในการใช้ชีวิต และยกระดับคุณภาพชีวิต ที่สำคัญทำให้พวกท่านไม่เป็นภาระลูกหลานด้วย
สรุปแล้ว การเพิ่มการวิ่งเข้าไปในกิจวัตรประจำสัปดาห์สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญไปจนถึงผู้หญิงวัยชรา และผู้คนทุกเพศทุกวัยได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญลงทุนน้อย ถ้าไม่เน้นอุปกรณ์เสริม (Accessory ) มากนัก !!!