5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเอเชียนยูธเกมส์ มหกรรมกีฬาที่หายไปนานถึง 12 ปี

เมื่อเอ่ยถึงเอเชียนยูธเกมส์ หรือเอเชียนเกมส์สำหรับเยาวชน เชื่อว่าแฟนกีฬาจำนวนไม่น้อย คงลืมมหกรรมกีฬารายการนี้ไปแล้ว เนื่องจากห่างหายไปนานถึง 12 ปีเลยทีเดียว จนหลายคนมองว่าสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย(OCA) คงจะไม่นำมาจัดการแข่งขันอีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม การที่เอเชียนยูธเกมส์ ถูกนำมาปัดฝุ่นจัดการชิงชัยอีกคำรบ นับเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากจะเป็นทัวร์นาเมนต์สำคัญ ที่ให้นักกีฬาเยาวชนจากทั้ง 45 ชาติในทวีปเอเชีย ได้มีเวทีร่วมประลองฝีมือ

อีกทั้งเพื่อให้นักกีฬาเยาวชนเอเชียทั้งหลาย ได้เตรียมความพร้อม ก่อนจะลงทำศึกกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 4  ในปีหน้า ที่กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัลต่อไป

สำหรับวันนี้ ทีมงานสยามสปอร์ตจะนำเกร็ดน่ารู้ 5 ข้อ เกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาเอเชียนยูธเกมส์ มาให้แฟนกีฬาได้ติดตามกัน

1. จุดเริ่มต้น จุดเริ่มต้นของมหกรรมกีฬาเอเชียนยูธเกมส์

ต้องย้อนกลับไปในระหว่างการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากล(IOC)ครั้งที่ 119 ที่กรุงกัวเตมาลาซิตี้ ประเทศกัวเตมาลา เมื่อปี 2007 ซึ่งการประชุมในครั้งนั้น คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้มีมติให้จัดการแข่งขันโอลิมปิกสำหรับเยาวชนหรือยูธโอลิมปิกขึ้นมา โดยสิงคโปร์เป็นเจ้าภาพครั้งแรกในปี 2010

ด้วยเหตุนี้ ทำให้สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย(OCA) ได้จัดตั้งมหกรรมกีฬาเอเชียนยูธเกมส์ หรือเอเชียนเกมส์สำหรับเยาวชนขึ้นมาด้วย โดยจะจัดแข่งขัน 1 ปีก่อนยูธโอลิมปิก เพื่อให้นักกีฬาเยาวชนจากทุกชาติในเอเชีย ได้ลงแข่งขันรายการนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนลุยศึกยูธโอลิมปิกเกมส์ในปีถัดไป

นอกจากนี้ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชียยังมีมติให้สิงคโปร์ เป็นเจ้าภาพครั้งแรกในปี 2009 ด้วย เพื่อให้ดินแดนเมอร์ไลออน ได้เตรียมความพร้อมก่อนจัดยูธโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 1 ในปีถัดไปด้วยเช่นกัน

เช่นเดียวกันกับเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 2 ที่โอซีเอได้มีมติให้เมืองหนานจิง ประเทศจีน เป็นเจ้าภาพในปี 2013 เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเป็นเจ้าภาพยูธโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่ 2 ในปี 2014

2. เป็นทัวร์นาเมนต์เดียวที่ “เทนนิส” พาณิภัค ไม่เคยได้เหรียญทอง

เป็นที่ทราบกันดีว่า “เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ตำนานนักเทควันโดทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัย คือนักกีฬาไทยที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในวงการกีฬาแห่งแดนสยาม เพราะทุกรายการสำคัญบนโลกใบนี้ เธอคว้าเหรียญทองมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโอลิมปิก, เอเชียนเกมส์, ซีเกมส์, ชิงแชมป์โลก, ชิงแชมป์เอเชีย, เยาวชนโลก, เยาวชนเอเชีย, ยูธโอลิมปิกเกมส์, กีฬามหาวิทยาลัยโลก และอื่นๆอีกมากมาย

แต่มีอยู่รายการเดียว ที่จอมเตะสาวผู้ยิ่งใหญ่ ไปไม่ถึงเหรียญทอง นั่นก็คือศึกเอเชียนยูธเกมส์นั่นเอง โดยในปี 2013 พาณิภัค ในวัย 16 ปี เป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขันเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 2 ที่เมืองหนานจิง ประเทศจีน โดยเธอได้เพียงเหรียญเงินเท่านั้น ในรุ่น 47 กก.หญิง หลังรอบชิงชนะเลิศพ่ายให้กับ ฟู่ หยู จากจีน

อย่างไรก็ตาม ทัพเทควันโดไทยยังมีเหรียญทองติดมือกลับบ้านจาก “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี ในรุ่น 53 กก.ชาย ผู้ซึ่งได้กลายเป็นคู่ชีวิตของ พาณิภัค ในเวลาต่อมานั่นเอง

3. สาเหตุที่หายไปนานถึง 12 ปี

หลังจากเอเชียนยูธเกมส์จัดมาได้ 2 ครั้ง ได้แก่ครั้งที่ 1 ที่สิงคโปร์เมื่อปี 2009 และครั้งที่ 2 ที่เมืองหนานจิง ประเทศจีนเมื่อปี 2013 จากนั้นครั้งที่ 3 เมื่อปี 2017 ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ ด้วยสาระพัดเหตุผลที่ถั่งโถมเข้ามา

เดิมทีนั้นเมืองฮัมบันโตตา ประเทศศรัลังกาจะต้องเป็นเจ้าภาพ ทว่ามีการแทรกแทรงทางการเมืองขึ้นภายในคณะกรรมการโอลิมปิกศรีลังกา ส่งผลให้สภาโอลิมปิกแห่งเอเชียได้คว่ำบาตร ด้วยการให้กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพแทน

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา อินโดนีเซียต้องมาเป็นเจ้าภาพเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 18 ในปี 2018 แทนเวียดนามที่ขอถอนตัว เนื่องจากเวียดนามมีงบประมาณไม่เพียงพอ ส่งผลให้อินโดนีเซียขอถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพเอเชียนยูธเกมส์ 2017 เพราะจัดมหกรรมกีฬารายการระดับเอเชีย 2 ปีติดต่อกันไม่ไหว และทำให้เอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 3 ต้องถูกยกเลิกไป

จากนั้นในปี 2021 ที่เดิมทีเมืองซานโถว หรือที่คนไทยมักจะเรียกว่า “ซัวเถา” ประเทศจีน จะเป็นเจ้าภาพเอเชียนยูธเกมส์ 2021 ก็ต้องถูกยกเลิกไปอีก ด้วยปัญหาโควิด-19 ระบาด จึงเป็นเหตุให้เอเชียนยูธเกมส์ห่างหายไปนานถึง 12 ปี ก่อนจะกลับมาอีกครั้งในปีนี้กับเอเชียนยูธเกมส์ 2025 ที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน เป็นเจ้าภาพ 

 4. 330 นักกีฬาเยาวชนไทยลุยเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 3

สำหรับเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 3 หรือ “บาห์เรน 2025” ที่จะกำลังอุบัติขึ้น ระหว่างวันที่ 22-31 ตุลาคม 68 มีการชิงชัย 259 เหรียญทองจาก 26 ชนิดกีฬา โดยประเทศไทยส่งนักกีฬาร่วมทำศึก 330 คนใน 24 ชนิดกีฬาได้แก่ ว่ายน้ำ, กรีฑา, แบดมินตัน, แฮนด์บอล, บาสเกตบอล 3X3, อีสปอร์ต, ยูโด, มวยปล้ำ(ทั้งในร่มและชายหาด), จักรยาน, กอล์ฟ, วอลเลย์บอล(ทั้งในร่มและชายหาด), เทควันโด, เทเบิลเทนนิส, ไตรกีฬา, มวยสากล, ยกน้ำหนัก, กาบัดดี้, เทคบอล, ศิลปะการต่อสู้แบบผสม(MMA), ยูยิตสู, ฟุตซอล, มวยไทยสมัครเล่น, ปันจักสีลัต และคูราช โดยมี “เล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ อดีตนักเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิก 2012 ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย

5. กัมพูชาเป็นเจ้าภาพครั้งต่อไป เอาไงดี

จากปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ยังไม่สงบในเวลานี้ และทำท่าจะลุกลามบานปลายไปอีกหลายปี จึงน่าเป็นกังวลอย่างยิ่งว่า หากความขัดแย้งยังไม่จบในอีก 4 ปีต่อจากนี้ จะมีผลต่อการส่งนักกีฬาเยาวชนไทย ที่จะเดินทางไปร่วมแข่งขันเอเชียนยูธเกมส์ครั้งที่ 4 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพในปี 2029 หรือไม่

แม้สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย(OCA) จะยึดหลักกฎบัตรโอลิมปิก ที่ให้แยกความขัดแย้งระหว่างประเทศกับกีฬาออกจากกัน ทว่าพ่อแม่ผู้ปกครองของนักกีฬาเยาวชนไทย คงอดเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยไม่ได้ และอาจไม่อนุญาติให้บุตรหลาน เดินทางไปร่วมแข่งขัน