สหพันธ์รักบี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลงนาม MOU กับญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฮ่องกง และกวม ร่วมพัฒนากีฬารักบี้ในภูมิภาค ยกระดับมาตรฐานสู่การแข่งขันระดับโลก
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ที่ โรงแรมรอยัลการ์เดน กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สหพันธ์กีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งอาเซียน (SEARF) นำโดย พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ ประธานสหพันธ์ ร่วมกับผู้แทนจากชาติสมาชิกอาเซียน ได้แก่ ซันนี่ เซ ประธานสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลสิงคโปร์, เอด้า มิลบี้ ประธานสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลฟิลิปปินส์, ฟาห์มี จาลิล เลขาธิการสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลมาเลเซีย, ยุดา รามอน ผู้แทนสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลอินโดนีเซีย, ชูชัย ปัญญานุวงศ์ กรรมการสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลลาว และ เคน ผู้แทนสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลบรูไน ร่วมลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ 5 ประเทศเอเชียตะวันออก ได้แก่ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฮ่องกง และกวม
ตัวแทนจากฝั่งเอเชียตะวันออกประกอบด้วย มาซาโตะ ซึชิดะ ประธานสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลญี่ปุ่น, ซอง วอน ซารา พาร์ค รองประธานสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลเกาหลีใต้, เจฟฟรีย์ ชาง ประธานสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลไต้หวัน, คริสโตเฟอร์ บรู๊ค ประธานสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลฮ่องกง-จีน และ สตีฟ แกรนแธม เหรัญญิกสหพันธ์รักบี้ฟุตบอลกวม พร้อมด้วยตัวแทนจาก เวิลด์รักบี้ ได้แก่ เดวิด คาริกี้ Chief of International Federation World Rugby, แคร์ บาเรล และ ริดซัล ซาอัด เป็นสักขีพยาน
พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เปิดเผยว่า การลงนามครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากีฬารักบี้ในภูมิภาคเอเชีย โดยอาเซียนและเอเชียตะวันออกจะร่วมแลกเปลี่ยนจุดเด่นด้านการฝึกสอน, การสร้างทีมเยาวชน, การพัฒนาทีมหญิง และระบบการแข่งขันระดับมืออาชีพ เพื่อยกระดับมาตรฐานรักบี้สู่ระดับเอเชียและเวทีโลก
ทั้งนี้ ไทยมีทีมหญิงที่เข้มแข็งสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ให้ประเทศสมาชิกอื่นๆ ขณะที่ ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และเกาหลีใต้ มีระบบฝึกสอนและการแข่งขันที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เช่น อะคาเดมี่ของญี่ปุ่น และระบบลีกของฮ่องกง-สิงคโปร์ ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำมาแลกเปลี่ยนและพัฒนาร่วมกัน
นอกจากนี้ มีแนวคิดจัดลีกของชาติสมาชิกทั้งแบบ 15 คน และ 7 คน โดยอาจยื่นขอการรับรองจาก เวิลด์รักบี้ เพื่อสร้างแพลตฟอร์มการแข่งขันและเพิ่มโอกาสให้นักกีฬาฝึกซ้อมจริงในสภาพแวดล้อมแข่งขันมาตรฐานสากล
พ.ต.ท.กุลธน กล่าวสรุปว่า “การจับมือครั้งนี้สะท้อนถึงความสามัคคีระหว่างอาเซียนและเอเชียตะวันออก พร้อมเป็นจุดเริ่มต้นของการแลกเปลี่ยนความรู้และพัฒนากีฬารักบี้ในภูมิภาคให้แข็งแกร่งร่วมกัน”