ปัจจุบันนักกีฬาไม่ใช่แค่เก่งด้านกีฬาเท่านั้น แต่ยังมีสมองที่ฉลาดปราดเปรื่อง อย่างเช่น ดร.แม็คเคนซี่ ลิตเติ้ล ที่สามารถผสมผสานบทบาทแพทย์เต็มเวลา และนักกีฬาระดับอาชีพได้อย่างลงตัว
คุณหมอแม็คเคนซี่ ได้รับรางวัลตอบแทนความทุ่มเทด้วยการคว้าเหรียญทองแดงจากการแข่งขันกีฬาพุ่งแหลนในศึกกรีฑาชิงแชมป์โลก 2025 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา
แพทย์สาวจากซิดนี่ย์ ทำสถิติการขว้างที่ดีที่สุดของเธอได้ที่ 63.58 เมตรตั้งแต่ครั้งแรก ขณะที่ จูเลซี่ อังกูโล่ จากเอกวาดอร์ ทำผลงานเหนือกว่าด้วยระยะ 65.12 เมตรในรอบที่สอง ขณะที่ อเนเต้ ซิเอตินา จากลัตเวีย (64.64 เมตร) ขยับขึ้นมาอยู่อันดับสองด้วยการขว้างครั้งสุดท้ายของเธอ
นอกจากการเล่นกีฬาเพื่อประเทศออสเตรเลียแล้ว สำหรับชีวิตปกติของ ดร.แม็คเคนซี่ ก็คือการทำงานเต็มเวลาที่โรงพยาบาลรอยัล นอร์ท ชอร์ ในเมืองซิดนีย์ แม้จะมีงานยุ่งที่โรงหมอ แต่เธอยังหาเวลาเดินทางไปแข่งขันกรีฑาในศึกไดมอนด์ ลีก ตามประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้อย่างสุดยอด
เรื่องที่น่าสนใจก็คือเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก คุณหมอแม็คเคนซี่ ยังคงทำงานหนักในแผนกฉุกเฉินซึ่งเธอได้ช่วยชีวิตชายคนหนึ่งที่กำลังหัวใจวาย ก่อนจะเดินทางไปร่วมกับทีมชาติออสเตรเลีย เพื่อลุยดินแดนปลาดิบ
"มันอาจดูง่ายที่จะบอกว่าฉันมีชีวิตที่สมดุลและทุกอย่างลงตัว โดยเฉพาะเมื่อมีเหรียญสวยๆ ห้อยอยู่ที่คอ" คุณหมอแม็คเคนซี่ กล่าว "แต่ถึงแม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันก็ยังยืนยันเสมอว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉัน ฉันทำผลงานได้ดีที่สุดเมื่อฉันมีความสุข และรู้สึกเต็มที่กับชีวิต ส่วนงานก็เติมเต็มให้กับชีวิตฉันเช่นกัน"
การได้ขึ้นบนโพเดียมเพื่อรับเหรียญรางวัลคล้องคอเป็นการปลดปล่อยความรู้สึก หลังเธอเคยผิดหวังกับการจบรอบชิงในอันดับสุดท้าย สำหรับการแข่งขันกรีฑาในศึกโอลิมปิก เกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
"ถ้าคุณบอกฉันเมื่อสองวันก่อนว่าฉันจะได้เหรียญรางวัลฉันคงตื่นเต้นสุดๆ นี่ถือเป็นรางวัลสำหรับตัวฉันเอง หลังจากทำงานหนักอย่างมาก และต้องทำงานเพียงลำพังในซีซั่นนี้ ฉันคิดว่านี่คือการชดเชยจากโอลิมปิก และเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความสามารถที่แท้จริงของฉันมากขึ้น ฉันตื่นเต้นที่สุด" คุณหมอแม็คเคนซี่ ระบุ
นี่เป็นการขึ้นโพเดียมติดต่อกันเป็นครั้งที่สองของแพทย์สาวคนสวยชาวออสซี่ในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลก หลังจากที่เธอเคยคว้าเหรียญทองแดงที่กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี เมื่อปี 2023