ใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว! นิค นิวเวลล์ นักสู้ MMA แขนเดียว พลิกข้อจำกัดสู่ตำนานสังเวียน

หนุ่มนิค ไม่ปล่อยให้ความบกพร่องทางร่างกายเป็นอุปสรรคในการก้าวขึ้นมาครองสังเวียนศิลปะการต่อสู้แบบผสมที่แสนโหด ซึ่งนี่คือกีฬาที่แขนทั้งสองมีความสำคัญอย่างมาก และสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้ได้เลย 

แล้ว นิค นิวเวลล์ เป็นใคร ? เขาสามารถประสบความสำเร็จในวงการกีฬาที่ได้ชื่อว่าโหด และต้องอาศัยความแข็งแกร่งกายภาพ ได้ยังไง ? แล้วเขาได้รับแรงบันดาลใจจากไหนถึงสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดทางร่างกายได้ ? มาดูกันเลย  

- นิค นิวเวลล์ คือใคร ?

เรื่องราวของ นิค นิวเวลล์ ถือว่าน่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง เขาเกิดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 1986 ที่เมืองมิลฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเขาลืมตาดูโลกมาพร้อมกับแขนซ้ายที่หยุดเจริญเติบโตเพียงใต้ข้อศอกเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นิวเวลล์ ไม่ปล่อยให้อุปสรรคทางกายภาพเป็นสิ่งกีดขวางในการสร้างความฝันของตัวเอง โดยเขาปรับตัวกับการที่มีร่างกายไม่สมบูรณ์ตั้งแต่เด็กๆ พร้อมกับเรียนรู้ที่จะใช้แขนท่อนสั้นของตนเองได้อย่างคล่องแคล่วและทรงพลังเกินคาด

นิวเวลล์ ถูกเลี้ยงดูด้วยแนวคิดที่ยอดเยี่ยมว่า "อย่ามัวแต่คิดถึงแขนของตัวเอง" โดยครอบครัว และคนรอบข้างพยายามผลักดันให้เขาใช้ชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป รวมทั้งกระโดดเข้าสู่วงการกีฬา ด้วยความรู้สึกมั่นใจ และไม่หวั่นเกรงกับการที่ร่างกายไม่สมบูรณ์

- จุดเริ่มต้นจากการเล่นมวยปล้ำ

กระทั่งเมื่ออายุ 13 ปี นิวเวลล์ ได้เข้าร่วมทีมมวยปล้ำของโรงเรียนมัธยมโจนาธาน ลอว์ (Jonathan Law High School) แม้จะเริ่มต้นอย่างยากลำบาก แพ้ติดต่อกันถึง 17 แมตช์แรก แต่เขาไม่ยอมถอย เขาซ้อมอย่างหนักและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นจากผู้ที่ไม่มีใครคาดหวัง กลายเป็นกัปตันทีมมวยปล้ำในช่วงมหาวิทยาลัยในที่สุด

ก่อนหน้านั้น นิวเลล์ เคยรู้สึกท้อแท้และถอดใจกับกีฬามวยปล้ำตั้งแต่วันแรกที่เข้าไปเรียน แต่สิ่งที่ทำให้เขายังคงมุ่งมั่นต่อไปนั่นก็คือคุณแม่ที่ไม่อนุญาตให้ทำแบบนั้น ซึ่งนั่นทำให้เจ้าตัวต้องจำใจฝึกอย่างหนักด้วยตนเองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา 

วันหนึ่งชีวิตของ นิวเวลล์ ต้องเปลี่ยนไปหลังจากดูมวยปล้ำ WWE Raw ซึ่งพอจบแล้ว จะต่อด้วยโปรแกรม The Ultimate Fighter เป็นรายการเรียลลิตี้ โชว์ ที่มีนักสู้เอ็มเอ็มเอ (MMA) หลายชีวิตนอนห้องเดียวกัน และก็ซัดกัน แพ้ตกรอบอาทิตย์ละคนสองคน จนกระทั่งค้นหาแชมป์ตัวจริงไปเซ็นสัญญากับทาง "ยูเอสซี" (UFC) และนี่คือจุดที่ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจเป็นนักสู้มวยกรง

- จากข้อจำกัดสู่เกียรติยศในสังเวียนเอ็มเอ็มเอ (MMA)

สิ่งที่ทำให้ นิวเวลล์ กลายเป็นตำนานอย่างแท้จริงคือศิลปะการต่อสู้แบบผสม (MMA) เขาเข้าฝึกซ้อมที่ไฟติ้ง อาร์ตส์ อะคาเดมี่ (Fighting Arts Academy) เมืองมิลฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต และได้ทำลายกำแพงที่ไม่มีใครกล้าลองมาก่อน โค้ชและเพื่อนนักสู้มองข้ามความแตกต่างทางร่างกายของเขา พวกเขาเห็นถึงความมุ่งมั่น, ความสามารถ และหัวใจนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้

นิวเวลล์ พิสูจน์ตัวเองด้วยการก้าวข้ามความสงสัยในช่วงแรก จนสร้างสถิติระดับอาชีพที่น่าทึ่ง ชนะ 14 ครั้ง แพ้เพียง 1 ไฟต์เท่านั้น โดยการต่อสู้ของเขาถูกเผยแพร่และกลายเป็นไวรัลไปทั่วโลก นี่ไม่ใช่แค่การลงแข่งขัน แต่คือการเขียนเรื่องราวใหม่ให้กับโลกของการต่อสู้

สำหรับโลกของวงการเอ็มเอ็มเอ ไม่เคยง่าย แม้กระทั่งสำหรับนักกีฬาที่มีร่างกายสมบูรณ์ แต่ นิวเวลล์ กลับเปลี่ยนสิ่งที่หลายคนมองว่าเป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นชัยชนะที่น่าจดจำ เขาคว้าชัยชนะหลายไฟต์ด้วยการทำให้คู่แข่งยอมแพ้และน็อกเอาต์ จนสร้างชื่อให้กับตัวเองในเวทีระดับโลก

- เปลี่ยนความสงสัยให้เป็นชัยชนะ

 แม้ในตอนแรก ดาน่า ไวท์ ประธานยูเอฟซี จะสงสัยถึงโอกาสของนักสู้ที่มีแขนเพียงข้างเดียว แต่สุดท้ายก็ยกย่องในทักษะและความมุ่งมั่นของนิวเวลล์ พร้อมบรรยายเส้นทางชีวิตของเขาว่าเป็นแรงบันดาลใจอย่างลึกซึ้ง ความฝันในการเข้าสู่ยูเอฟซี ของนิวเวลล์เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่ไฟแห่งความมุ่งมั่นของเขาไม่เคยมอดดับ

- เส้นทางอาชีพที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

เส้นทางอาชีพของ นิวเวลล์ ไม่ได้ราบรื่นไร้อุปสรรค เขาต้องเจอกับอาการบาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า รวมถึงเหตุการณ์หัวเข่าหลุดเพียงไม่กี่นาทีก่อนขึ้นชก แต่เขาก็ยังฝืนสู้ท่ามกลางความเจ็บปวดและความกดดัน 

หลังจากประกาศอำลาสังเวียนชั่วคราวเมื่อปี 2015 นิวเวลล์กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม พร้อมมีสมาธิมากขึ้น และได้เซ็นสัญญากับ Bellator MMA เพื่อตอกย้ำว่าความสงสัยของผู้คนที่เคยมีต่อตัวเขานั้นผิดมหันต์

เรื่องราวชีวิตของ นิวเวลล์ ยังถูกถ่ายทอดสู่จอเงินผ่านภาพยนตร์ของค่าย Lionsgate เรื่อง "Notorious Nick" ซึ่งถ่ายทอดหัวใจนักสู้และความพยายามไม่ยอมแพ้ของชายที่ไม่ยอมให้สิ่งใดมากำหนดขีดจำกัดของตัวเอง

เหนือกว่าชัยชนะและสถิติบนสังเวียน สิ่งที่ นิวเวลล์ มอบให้โลกคือ แรงบันดาลใจ เขาคือสัญลักษณ์ของความกล้าหาญ, การไม่ยอมแพ้ และพรสวรรค์ที่หลอมรวมกันอย่างลงตัว จนทำให้เขากลายเป็นซูเปอร์สตาร์ตัวจริงของวงการเอ็มเอ็มเอ

TOMMY TEE.