โลกกีฬาสะเทือน! เอ็นฮานซ์ เกมส์ โอลิมปิกสเตียรอยด์ เปิดฉากแน่เดือนพ.ค. 2026

การแข่งขัน "เอ็นฮานซ์ เกมส์" (Enhanced Games) หรือมหกรรมกีฬาที่อนุญาตให้นักกีฬาใช้สารต้องห้ามหรือโด๊ปยาได้อย่างอิสระ เตรียมระเบิดศึกเป็นครั้งแรกระหว่างวันที่ 21-24 พฤษภาคม 2026 ในลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา  

หลายคนคงเคยตั้งคำถามว่านักกีฬาระดับท็อปจะเก่งมากแค่ไหนหากได้รับอนุญาตให้ใช้สารกระตุ้นเพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายในช่วงแข่งขัน ? ซึ่งคำตอบนี้ทุกคนจะได้รับรู้ในเดือนพ.ค.ปีหน้า เมื่อการแข่งขัน เอ็นฮานซ์ เกมส์ เปิดฉากขึ้น

สำหรับการการแข่งขัน "เอ็นฮานซ์ เกมส์" หรือ "โอลิมปิกในรูปแบบสเตียรอยด์" มีแนวคิดที่จะจัดตั้งแต่เมื่อปี 2023 โดยเป็นไอเดียของ อารอน ดิโซซ่า นักธุรกิจชาวออสเตรเลีย และตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะเป็นจริงในช่วงกลางปีหน้า 

ทัวร์นาเมนต์นี้จะมีการแข่งขันทั้งหมด 8 รายการ ได้แก่ ว่ายน้ำ (50 และ 100 เมตร ในท่าฟรีสไตล์และผีเสื้อ), กรีฑา (100 เมตรสปรินต์ และ 100/110 เมตรวิ่งข้ามรั้ว), และ ยกน้ำหนัก (ท่าสแนทช์  และคลีนแอนด์เจิร์ก)

ดิโซซ่า ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และเป็นประธานเอ็นฮานซ์ เกมส์  แสดงความเห็นระหว่างการนำเสนอทัวร์นาเมนต์สุดแปลกที่ลาส เวกัส สตริป "เรามาที่นี่เพื่อผลักดันมนุษยชาติให้ก้าวไปข้างหน้า กฎเก่าๆ ไม่ได้เพียงแต่จำกัดนักกีฬาเท่านั้น แต่ยังจำกัดความเป็นมนุษย์ด้วย" 

แน่นอนว่าการที่นักกีฬาที่มีพรสวรรค์จะเข้าร่วมการแข่งขันรายการนี้ พวกเขาต้องสละโอกาสในการไล่ล่าความสำเร็จระยะสั้นในรายการกีฬานานาชาติที่ได้รับการรับรอง แล้วมีอะไรที่จะทำให้พวกเขายอมทิ้งโอกาสและชื่อเสียงล่ะ ?

แน่นอนว่าแรงจูงใจที่จะดึงดูดให้นักกีฬาชั้นแนวหน้าให้อยากเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ก็คือเงินรางวัล เพราะผลประโยชน์ที่นักกีฬาจะได้รับมีจำนวนหลายแสนดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อการแข่งขันในแต่ละรายการ รวมถึงค่าตัวในการปรากฎตัว และโบนัสสำหรับการทำลายสถิติโลก 

ต้องยอมรับว่า โอลิมปิกในรูปแบบสเตียรอยด์ ได้รับเงินทุนก้อนโตหลายล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากนักลงทุนมากมาย อาทิเช่น ปีเตอร์ ธีล ผู้ก่อนตั้งเพย์พาล (PayPal), คริสเตียน แองเกอร์เมเยอร์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ผู้ร่วมก่อตั้ง 1789 แคปิตอล (1789 Capital) เป็นต้น

แม้ว่า ดิโซซ่า จะยังไม่ได้เปิดเผยแหล่งเงินทุนทั้งหมด แต่ระบุเป็นนัยๆ ว่าบริษัทของเขามีแผนทำรายได้จากการขายสารเพิ่มสมรรถภาพโดยตรงให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นโมเดลที่คล้ายกับ "เรด บูลล์" (Red Bull) ที่สนับสนุนการแข่งขันกีฬาผาดโผน หรือ "เอ็กซ์ตรีม" หลายประเภทเพื่อทำการตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง

ขณะที่ องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ "วาด้า" (WADA) จะมองว่าการแข่งขันเอ็นฮานซ์ เกมส์ จะเปรียบเหมือน "การแสดงตลก" ที่ให้ความสำคัญกับกำไรมากกว่ากฎกติกา แต่ ดิโซซ่า ยืนยันว่ากฎการต่อต้านการใช้สารกระตุ้นในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ล้าสมัย และแนวคิดของเขาเป็นทางเลือกที่ดีกว่า 

เหตุผลที่เจ้าตัวอ้างแบบนั้นเพราะระบบโภชนาการ และเทคโนโลยี มีบทบาทสำคัญกับวงการกีฬาหลักทั้งหมด นั่นทำให้เกิดความได้เปรียบอย่างชัดเจนสำหรับนักกีฬาและองค์กรที่มีเงินลงทุนสูง 

แล้วทำไมการใช้สารกระตุ้น (PEDs) จึงเป็นเรื่องที่แตกต่างล่ะ ? แทนที่จะยึดติดกับระบบต่อต้านสารกระตุ้นที่หลายคนมองว่าเสียหาย ก็หันมาใช้สารเพิ่มสมรรถภาพแบบเปิดเผยกันไปเลย เพื่อสร้างความบันเทิงซึ่งถือเป็นแนวคิดที่ดีกว่าหลายเท่า 

อย่างไรก็ตาม เอ็นฮานซ์ เกมส์ ระบุชัดเจนว่าจะไม่ได้ปล่อยเสรีสำหรับการใช้สารเพิ่มสมรรถภาพ โดยนักกีฬาที่เข้าร่วมจะได้รับอนุญาตให้ใช้สารที่ถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกาและได้รับการสั่งโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต เช่น เทสโทสเตอโรน, โกรทฮอร์โมน และสเตียรอยด์แบบอนาโบลิก หลายชนิด เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ "วาด้า" ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับมหกรรมกีฬาเอนซ์ ฮานซ์ อย่างมาก เพราะมองว่าเป็นแนวคิดที่อันตรายและขาดความรับผิดชอบ โดยให้เหตุผลนักกีฬาเป็นแบบอย่างที่ดี แต่การแข่งขันรายการนี้เป็นการส่งเสริมให้ทำเรื่องที่ผิดไปยังเยาวชนะและผู้คนทั่วโลก

 TOMMY TEE.