โอลิมปิคไทยวางเกณฑ์คัดเลือกนักกีฬาที่เข้มข้นขึ้น เตรียมลุยเอเชียนเกมส์ 2026 ที่ญี่ปุ่น หวังโกยเหรียญทอง โดยเน้นชนิดกีฬาที่มีชิงเหรียญจำนวนมาก ขณะที่ทุกสมาคมกีฬากังวลปัญหางบประมาณ หลังยังเจอปัญหาค้างจ่ายจากซีเกมส์ ด้าน “พลเรือเอก อภิวัฒน์” เตรียมบินประชุมนาโกย่า 22-26 ก.ย.นี้
คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วางแนวทางเข้มงวดคัดเลือกนักกีฬาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่เมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 19 ก.ย.–4 ต.ค. 2569 โดยมีเป้าหมายยกระดับผลงานของทัพนักกีฬาไทย หลัง 3 ครั้งหลังสุดพลาดท่าแพ้เวียดนาม
การประชุมคัดเลือกชนิดกีฬา นักกีฬา และเจ้าหน้าที่ประจำทีม ครั้งที่ 1/2568 จัดขึ้นเมื่อ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม 1 โอลิมปิคไทย โดยมี นายธนา ไชยประสิทธิ์ เลขาธิการโอลิมปิคไทย เป็นประธาน พร้อมแต่งตั้ง พลเรือเอก อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ เหรัญญิกโอลิมปิคไทย เป็นหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย
ที่ประชุมยังตั้งคณะกรรมการคัดเลือกฯ โดยมี รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต และ พลเรือเอก ชัยณรงค์ เจริญรักษ์ เป็นรองประธาน ขณะที่ นายณัฐวุฒิ เรืองเวส เป็นกรรมการและเลขานุการ
ทุกสมาคมกีฬายังแสดงความกังวลเรื่องงบประมาณ หลังจากซีเกมส์ครั้งล่าสุดยังได้รับเงินสนับสนุนไม่ครบ ขาดอีกกว่า 400 ล้านบาท โดยเฉพาะงบประมาณสำหรับปี 2569 ที่ กกท. ของบไว้ 2,300 ล้านบาท แต่ได้รับจัดสรรเพียง 1,200 ล้านบาท ทำให้การส่งนักกีฬาไปแข่งขันยังไม่ชัดเจน
นายธนา เปิดเผยว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้ ญี่ปุ่นจะจัดแข่งขันทั้งหมด 41 ชนิดกีฬา โดยแบ่งที่พักนักกีฬาออกเป็น 5 โซน ได้แก่ นาโกย่า, โตเกียว, ชิซึโอกะ, กิฟุ และโอซาก้า ด้าน พลเรือเอก อภิวัฒน์ จะเดินทางเข้าร่วมประชุมหัวหน้านักกีฬา ณ เมืองนาโกย่า วันที่ 22-26 ก.ย.นี้ เพื่อนำข้อมูลกลับมาวางแผนการเก็บตัวทีมชาติ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. 2569
สำหรับเกณฑ์การคัดเลือกนักกีฬา จะพิจารณาจากผลงานในระดับต่างๆ ได้แก่ อันดับ 1-3 ซีเกมส์และอาเซียน, อันดับ 1-6 เอเชียนเกมส์หรือเอเชีย, อันดับ 1-10 โอลิมปิกเกมส์หรือชิงแชมป์โลก รวมถึงชนิดกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกจากสหพันธ์ เช่น กีฬาประเภททีม
นายธนา ย้ำว่า จะคัดเลือกเฉพาะนักกีฬาที่มีโอกาสคว้าเหรียญรางวัล เพื่อใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะในชนิดกีฬาที่มีการชิงเหรียญจำนวนมาก เช่น กรีฑา, ว่ายน้ำ, ยิงปืน และยิมนาสติก ซึ่งในช่วงหลังนักกีฬาไทยทำผลงานน้อยลง ขณะที่เวียดนามกลับแซงหน้าไปได้ถึง 3 ครั้ง
“สิ่งสำคัญคือเราต้องเข้มงวดมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ยังไม่แน่นอน เราจะส่งเฉพาะกีฬาที่หวังผลได้จริง และจะร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาให้ทัพนักกีฬาไทยกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม” นายธนากล่าว