กระทรวงกีฬา ผนึกพันธมิตร ระเบิดศึกวิ่งอัลตร้ามาราธอนนานาชาติ

กระทรวงกีฬา ผนึกพันธมิตร ระเบิดศึกวิ่งอัลตร้ามาราธอนนานาชาติ
กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกกรุงเทพมหานคร พร้อมเครือข่ายพันธมิตร จัดวิ่งอัลตรามาราธอนนานาชาติ รายการ IAU 100KM Asia & Oceania Championship 2025 ระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย.นี้ ที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) กทม.

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล เลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ร้อยตำรวจโท ดร.มนัส โนนุช ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันวิ่งอัลตรามาราธอนนานาชาติ รายการ "IAU 100KM Asia & Oceania Championship 2025" ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา 

นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การแข่งขันครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมกีฬาอัลตรามาราธอนในระดับทวีปเอเชีย และประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางกีฬาเพื่อสุขภาพของเอเชีย ภายใต้นโยบาย "Amazing Thailand 2025" ของรัฐบาล และเตรียมความพร้อมในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการระดับโลกในอนาคตด้วย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพร้อมให้การสนับสนุนในทุกด้าน

ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เผยว่า กทม.มีสวนและสนามกีฬาหลายแห่ง ที่พัฒนา ปรับปรุง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่ง เมื่อมีสนามแล้วไม่มีนักวิ่ง ก็ไม่มีประโยชน์ จึงอยากเชิญชวนให้ออกมาวิ่งกันเยอะๆ และพร้อมสนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้อย่างเต็มที่ให้ประสบความสำเร็จ และก้าวไปเป็นรายการระดับโลกในอนาคตให้ได้

สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 1.วิ่งอัลตรามาราธอน ระยะ 100 กม. ชิงแชมป์เอเชียและโอเชียเนีย ชายและหญิง, 2.การแข่งขันวิ่ง 100 กม. และ 24 ชม. ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนชิพ ทั้งชายและหญิง, 3.การแข่งขันแบบโอเพ่น ระยะ 100 กม., 50 กม., 24 ชั่วโมง, 12 ชั่วโมง และ 6 ชม.

ทั้งนี้การแข่งขันจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 พ.ย.นี้ ที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) กรุงเทพมหานคร โดยระยะทางการวิ่งต่อ 1 รอบ อยู่ที่ 4 กม. ผู้ที่แข่งขันระยะ 100 กม. จะต้องวิ่ง 25 รอบ ซึ่งได้รับการวัดและรับรองอย่างเป็นทางการจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติแล้ว  ผู้สนใจเข้าร่วมการแข่งขัน สมัครและดูรายละเอียดได้ที่ race.thai.run/iau100k




ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport