"บิ๊กตูน" ณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย วางผลักดันให้นักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทยประสบความสำเร็จและมีความต่อเนื่อง พร้อมทำให้ชนิดกีฬาปิงปองได้รับความนิยมเป็น 2 ภารกิจหลักในการเดินหน้างานของคณะทำงานสมาคมอีก 4 ปี หลังจากนี้ หลังที่เดินหน้าพันธกิจจนประสบความสำเร็จมาแล้ว ทั้งการคว้าอันดับ 5 โอลิมปิกเกมส์ หรือคว้าเหรียญทองแดงเอเชียนเกมส์
"บิ๊กตูน" ณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของวงการปิงปองไทยล่าสุดว่า หลังจากที่ตนได้รับตำแหน่งประมุขของสมาคมฯ เป็นวาระที่ 2 ซึ่งตนและคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ได้วางพันธกิจหลักที่จะดำเนินการเป็นสำคัญในช่วงเวลา 4 ปีที่รับตำแหน่งหลังจากนี้ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2568 - 2571 มีด้วยกัน 2 ข้อ นั่นก็คือ 1. การผลักดันให้นักกีฬาเทเบิลเทนนิสทีมชาติไทยประสบความสำเร็จและมีความต่อเนื่อง และ 2. การทำให้ชนิดกีฬาปิงปอง หรือ เทเบิลเทนนิส เป็นที่นิยมมากขึ้นต่อไป ซึ่ง 2 ข้อนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการหางบประมาณมาสนับสนุนสมาคมฯ เพื่อพัฒนาผลักดันในทุกสิ่งอย่างตลอดช่วงเวลา 4 ปีหลังจากนี้
ประมุขลูกเด้งไทย กล่าวว่า ในข้อที่ 1 นั้นสมาคมฯได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถ้าเราทุ่มให้กับการสนับสนุนนักกีฬาจริงๆ นักกีฬาก็ประสบความสำเร็จได้ วัดจากผลงานของนักกีฬาปิงปองทีมชาติไทยในช่วงหลายปีหลังที่ผ่านมาที่เราทำในสิ่งที่ไม่เคยเป็นจริงได้อยู่หลายอย่าง อาทิ การคว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองจากมหกรรมกีฬาซีเกมส์, การคว้าเหรียญทองแดงประวัติศาสตร์จากมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ รวมไปถึงการได้อันดับ 5 ของโลกในประเภททีมหญิงจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ล่าสุด ดังนั้นคำถามคือ จะทำอย่างไรให้ผลงานของนักปิงปองไทยมีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เราคงจะไม่ได้สนับสนุนและผลักดันนักกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกขึ้นมาติดทีมชาติเพื่อทดแทนรุ่นพี่ที่กำลังโรยราเพียงทางเดียวแบบเดิมปกติ แต่เราจะเพิ่มพาร์ทของการสนับสนุนนักกีฬาในกลุ่มที่มีเกณฑ์ความสามารถและความต้องการที่จะเป็นนักกีฬาระดับโลก ซึ่งในกลุ่มนี้ตัวนักกีฬาจะต้องมีความต้องการที่จะให้เวลากับกีฬาปิงปองแบบฟูลไทม์ เลือกเส้นทางของการเล่นกีฬาเพียงอย่างเดียว เพื่อเตรียมพร้อมที่จะใช้ชีวิตไปกับการเก็บตัวฝึกซ้อมและเดินทางไปแข่งขันในที่ต่างๆ
"แน่นอนว่าในแผนงานนี้เรื่องงบประมาณสนับสนุนเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทางสมาคมฯ เองก็พยายามมองหาผู้สนับสนุนภาคเอกชนเข้ามาช่วยสมาคมฯ และนักกีฬาตัวแทนทีมชาติ ซึ่งปัจจุบันนี้เราก็มี ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน), กลุ่มเซ็นทรัล และ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ที่เป็นผู้ใหญ่ใจดีหลักๆ ของเรา แต่เราก็ยังหวังว่าทางภาครัฐจะร่วมเข้ามาช่วยให้ความสำคัญกับการสนับสนุนส่งนักกีฬาแข่งขันต่างประเทศของสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทยมากกว่าการหนุนงบประมาณเพื่อการเก็บตัวฝึกซ้อมแบบปกติ เพราะต้องยอมรับว่าบางชนิดกีฬานั้นใช้เรื่องของการเก็บแรงกิ้งหรือคะแนนสะสมโลกจากการไปแข่งขันรายการต่างๆทั่วโลก เพื่อเป็นตั๋วในการร่วมศึกมหกรรมระดับโลกอย่างโอลิมปิกเกมส์ เช่น แบดมินตัน หรือ เทเบิลเทนนิส เป็นต้น"
ในส่วนข้อที่ 2 นั้น "บิ๊กตูน" กล่าวว่า การจะทำให้กีฬาปิงปองของประเทศไทยเป็นที่นิยมได้นั้นก็แบ่งเป็นสองส่วนได้อีก นั่นคือส่วนแรกคือจากปกติที่คนไทยเราได้เห็นนักกีฬาระดับโลกแข่งขันกันผ่านการถ่ายทอดสดจากในจอ แต่ทุกวันนี้รวมถึงต่อๆ ไปแฟนๆ ก็ได้เห็นนักกีฬาไทยอยู่ในจอการถ่ายทอดสดแมตช์ระดับโลกมากขึ้นแล้ว ซึ่งในส่วนนี้ก็จะล้อมาจากข้อแรกคือต้องทำให้นักกีฬาประสบความสำเร็จไปอยู่ในจุดที่จะโดนสปอร์ตไลต์จับตามอง ได้ไปอยู่ในรายการใหญ่ๆ ให้ได้เสียก่อน และส่วนที่สองของข้อ 2 ก็คือจะทำให้ปิงปองไทยเป็นที่นิยมได้สมาคมฯ ก็จะพยายามจัดกิจกรรมให้บ่อยครั้งขึ้นไป โดยในตอนนี้ก็จะเห็นว่าเรามีกิจกรรมและการแข่งขันเกิดขึ้นเดือนละหลายๆ ครั้งเลยทีเดียว และก็พยายามกระจายรุ่นอายุการแข่งขันให้มากขึ้นไปด้วย ไม่ว่าจะระดับเล็กหรือสูงอายุ เพื่อครอบคลุมการเปิดโอกาสให้คนไทยได้เล่นกีฬาเทเบิลเทนนิสหรือปิงปองอย่างทั่วถึงทุกรุ่นอายุและทุกเพศทุกวัย