อดีตนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ชู 3 เหตุผลสำคัญ ชวนสังคมเปลี่ยนมุมมอง เชิดชู "นักกีฬาไทย" ผู้ทุ่มเทแรงกายแรงใจสร้างชื่อเสียงให้ชาติ สมควรได้รับการยกย่องในระดับชาติ เทียบเท่าศิลปินแห่งชาติในวงการศิลปะ
นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ออกมาแสดงทัศนะผ่านสื่อโดยเสนอให้สังคมไทย เปลี่ยนมุมมองต่อ “นักกีฬาไทย” พร้อมยก 3 เหตุผลหลักที่ควรผลักดันให้บุคคลเหล่านี้ได้รับการเชิดชูอย่างเป็นระบบ ไม่ต่างจากศิลปินแห่งชาติ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่คนรุ่นใหม่และส่งเสริมวงการกีฬาไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
3 เหตุผลสำคัญจาก "เศรษฐา ทวีสิน"
1.ภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างครอบคลุม
รัฐบาลมีเครื่องมือสนับสนุนวงการกีฬาไทยอยู่แล้ว ทั้ง กองทุนพัฒนาการกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่สามารถช่วยเหลือนักกีฬาในทุกมิติ ตั้งแต่วิทยาศาสตร์การกีฬา การเจรจาผลประโยชน์ ไปจนถึงการสนับสนุนงบประมาณแก่สมาคมกีฬา
2.ควรยกย่องนักกีฬาในระดับชาติ
นักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยควรได้รับการยกย่องอย่างเป็นระบบ เช่นเดียวกับ "ศิลปินแห่งชาติ" เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ครอบครัวและวงศ์ตระกูล โดยยกตัวอย่างเช่น "เทนนิส" พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของ 2 เหรียญทองโอลิมปิกจากเทควันโด และ "บัวขาว บัญชาเมฆ" นักมวยไทยระดับตำนานที่เผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยสู่เวทีโลก
3.พัฒนาฐานข้อมูลและระบบสถิติ
กีฬาไทยยังขาดการจัดเก็บสถิติอย่างเป็นระบบ เช่น จำนวนครั้งที่นักกีฬาติดทีมชาติ หรือข้อมูลการฝึกซ้อม เปรียบเทียบกับประเทศอย่างอังกฤษที่มีระบบบันทึกข้อมูลนักฟุตบอลอย่างละเอียด และควรมี รางวัลหรือเกียรติบัตร สำหรับนักกีฬาที่ติดทีมชาติครั้งแรก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ
เศรษฐาทิ้งท้าย: “ความมีวินัยและความอดทน คือหัวใจของนักกีฬา”
“ผมเชื่อว่าความมีวินัยและความอดทนเป็นสารตั้งต้นของนักกีฬา และเมื่อพวกเขาทุ่มเททำงานหนักและประสบความสำเร็จ การให้รางวัลที่เหมาะสมควรตามมา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬารุ่นใหม่ในอนาคต”