“1%” เพลงซีเกมส์ครั้งที่ 33 'กอล์ฟ F.Hero' ถ่ายทอดแนวคิดไม่ยอมแพ้

การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดการประชุมคณะมนตรีกีฬาซีเกมส์ พร้อมมอบหนังสือเชิญแก่ชาติสมาชิกทั้ง 11 ประเทศ อย่างเป็นทางการ โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุม ณ โรงแรมเดอะ แกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้แทนระดับสูงจากประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งกำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 9- 20 ธันวาคม 2568 นี้

โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงานครั้งนี้ คือการแถลงข่าวเปิดตัวเพลงประจำการแข่งขันอย่างเป็นทางการ กับเพลงที่มีชื่อว่า “1%” ซึ่งนับเป็นบทเพลงแห่งพลังใจที่สะท้อนจิตวิญญาณของนักกีฬา และสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักกีฬาจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ กอล์ฟ F.Hero ร่วมกันแถลงข่าว

สำหรับเพลง “1%” แต่งขึ้นโดย กอล์ฟ F.Hero ณัฐวุฒิ ศรีหมอก แร็ปเปอร์ชื่อดังของเมืองไทยที่มีผลงานระดับนานาชาติมาแล้ว และเขายังร่วมขับร้องในท่อนแร็ปของเพลงนี้ด้วยตนเอง โดยถ่ายทอดแนวคิดของการไม่ยอมแพ้ ผ่านถ้อยคำที่มีพลัง โดยกอล์ฟ เปิดเผยว่า แม้คุณจะมีพลังแค่ 1% แต่ถ้าใจยังสู้อยู่ มันก็สามารถกลายเป็น 100% ได้ในที่สุด และยังเชื่อว่า กีฬา และ ดนตรี คือภาษาสากลที่สามารถเชื่อมโยงผู้คนได้อย่างไร้พรมแดน เพลง “1%” จึงไม่ใช่เพียงแค่เพลงประกอบการแข่งขันเท่านั้น หากแต่เป็นเครื่องมือส่งพลังใจ ถ่ายทอดความหวัง ความพยายาม และจิตวิญญาณแห่งชัยชนะ บทเพลงนี้ขับร้องโดย วิโอเลต วอเทียร์ ศิลปินหญิงผู้มีเอกลักษณ์ด้านเสียงร้องที่เป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากล โดยขับร้องทั้งเวอร์ชั่นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ทำให้เพลงนี้เข้าถึงหัวใจผู้ฟังจากหลากหลายชาติได้อย่างลงตัว สำหรับท่อนแร็ปภาษาอังกฤษนั้น ทางทีมผู้สร้างยังคงปิดไว้เป็นเซอร์ไพรส์เพื่อสร้างความตื่นเต้นในช่วงใกล้การแข่งขัน

“เพลง “1%” จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ของการแข่งขันซีเกมส์ในปีนี้ แต่ยังเป็น “พลังเสียง” ที่จุดประกายความกล้า ความเชื่อมั่น และการก้าวข้ามขีดจำกัดของนักกีฬาและผู้คนทั้งภูมิภาค พร้อมกันนั้น ยังสะท้อนถึงความพร้อมของประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ครั้งสำคัญ และแสดงถึงศักยภาพของการใช้ ดนตรี เป็นสื่อกลางแห่งมิตรภาพ ความร่วมมือ และความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ นั่นเอง”

กองประชาสัมพันธ์ กกท.