กัมพูชายันส่งนักกีฬาร่วมซีเกมส์ 2025 "ดร.ก้อง" เดินหน้าปลายมิ.ย.โปรโมทเจ้าภาพเต็มรูปแบบ

นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ สหพันธ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประธานในการประชุมติดตามความหน้าในการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (พ.ศ.2568) ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพ 9-20 ธ.ค.นี้ ที่กทม.,ชลบุรี และสงขลา โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการจัดการแข่งขัน ผู้แทนจากชาติอาเซียน เข้าร่วม ที่โรงแรมแกรนด์ โฟร์วิงส์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ เมื่อ 11 มิ.ย.68

นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  เผยว่า การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง 11-13 มิ.ย.นี้ โดยจุดมุ่งหมายคือการติดตามความคืบหน้าในการจัดแข่งขัน ในส่วนของการเตรียมงานนั้น แต่ละชาติให้ความชื่นชมประเทศไทยเป็นอย่างมากในเรื่องของการเตรียมงานด้านต่างๆ จะติดอยู่เพียงเรื่องเดียว คือเรื่องของการสร้างบรรยากาศการแข่งขัน ซึ่งก็อยากให้ประเทศไทยช่วยโหมโรงและสร้างกระแสการจัดการแข่งขันให้หนักและแรงขึ้นในช่วง 6 เดือนที่จะถึงต่อจากนี้

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท.เผยว่า ในส่วนของกกท.ต้องขอบคุณทุกฝ่ายทุกภาคส่วนที่ให้ข้อคิดเห็นและแสดงความคิดเห็นที่ดีหลายๆส่วนเข้ามา ซึ่งกกท.ได้น้อมรับและพร้อมเอาคำแนะนำต่างๆที่เป็นประโยชน์มาปรับใช้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเตรียมความพร้อม เรื่องเทคนิค การต้อนรับ การจัดที่พัก การเดินทาง และการสร้างบรรยากาศ ซึ่งมีการพูดกันหลายหน

"ท่านรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ได้ย้ำและให้ความสำคัญกับเรื่องการสร้างบรรยากาศแข่งขันตลอดเช่นกันครับ ซึ่งหลังจากปลายเดือนมิ.ย.นี้ เป็นต้นไป ทั้ง กทม., ชลบุรี และสงขลา จะออกแคมเปญสร้างกระแสของและบรรยากาศของการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ให้คึกคัก ให้เป็นที่รับทราบของประชาชนคนไทยโดยทั่วไปในทุกๆช่องทาง โดยเฉพาะในช่องทางโซเชียลมีเดีย ที่จะมีการดึงอินฟลูเอ็นเซอร์ นักกีฬาดังๆเข้ามาร่วมโปรโมทในแคมเปญต่างๆที่จะออกมาหลังจากนี้"

นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ยังกล่าวเสริมด้วยว่า อีกหนึ่งเรื่องร้อนที่จำเป็นที่มีการหารือกันในครั้งนี้คือ กัมพูชาได้เสนอกับตนเองเมื่อคืนก่อนว่า พวกเขาพร้อมที่จะส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 แม้ตอนนี้ไทยกับกัมพูชาจะมีปัญหาในเรื่องข้อพิพาทเรื่องพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งพวกเขายืนยันจะส่งนักกีฬาเข้าร่วม และแสดงความประสงค์และเข้าใจชัดเจนว่ากีฬากับการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน

"สิ่งที่เขากังวล และอยากจะฝากในที่ประชุมให้ปรึกษากับทางรัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงรัฐบาลก็คือของวีซ่า ซึ่งไทยและกัมพูชาต่างมีมาตรฐานจำกัดเรื่องวีซ่าของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศตนเองเหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 60 วัน ซึ่งมาตรการวีซ่าดังกล่าวมีการปรับลด ภายหลังเกิดปัญหาข้อพิพาทกัน ซึ่งเรื่องนี้ทางฝั่งผู้บริหารกีฬาของกัมพูชาแสดงความกังวลในข้อจำกัดดังกล่าวจะส่งผลกับการเข้าร่วมแข่งขันซีเกมส์ของนักกีฬากัมพูชา จึงอยากให้ไทยช่วยหารือและยกเว้นในเรื่องดังกล่าว"

"ผมยืนยันกลับไปว่าเรื่องนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้จะสามารถหารือ และหาทางออกร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาแน่นอน ซึ่งผมได้ติดต่อไปทางผู้ใหญ่ของกัมพูชาและชี้แจงไปว่าประเด็นนั้นเป็นเรื่องของรัฐบาลที่ไม่ได้เกี่ยวกับกีฬา ซึ่งเรื่องนี้สามารถหารือและพูดคุยกันได้ และมีทางออกอยู่แล้ว และทางฝ่ายกีฬาของเขาเองก็ได้ชี้แจงไปทางผู้ใหญ่ของกัมพูชาแล้วว่าซีเกมส์ยินดีที่ต้อนรับพวกเขา เราเป็นองค์กรที่เกี่ยวกับกีฬา ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง ก็ได้อยากให้ทุกฝ่ายสบายใจ ว่าไทย ทุกๆชาติ และองค์กรซีเกมส์ ยินดีต้อนรับคณะนักกีฬาจากกัมพูชา"