ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงความเป็นไปได้ที่ประเทศไทยอาจเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ ในอนาคต โดยอาจเกิดขึ้นในช่วงหลังจากที่ ซาอุดีอาระเบีย รับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันในปี 2034 (เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 22)
ดร.ก้องศักด กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวยังอยู่ในระดับ คอนเซปต์ เท่านั้น ขณะนี้ยังไม่ได้จัดทำแผนอย่างเป็นทางการ หากทุกฝ่ายเห็นพ้องและรัฐบาลสนับสนุน ก็อาจมีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้อย่างจริงจัง โดยประเทศไทยอาจจัดในรูปแบบเจ้าภาพเดี่ยว หรือเจ้าภาพร่วมก็ได้เช่นกัน
สำหรับแนวทางเตรียมความพร้อม กกท. ได้เดินหน้า โครงการศูนย์กีฬานานาชาติ จังหวัดชลบุรี บนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) บริเวณ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกทั้ง ฟุตบอลโลก, เอเชียนเกมส์, ซีเกมส์, โอลิมปิกเกมส์ รวมถึงอีเวนต์ระดับนานาชาติอื่น ๆ
ในอีกด้าน ดร.ก้องศักด ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการจัดมหกรรมกีฬา ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9–20 ธันวาคม 2568 ณ กรุงเทพมหานคร, จังหวัดชลบุรี และสงขลา ว่างบประมาณล่าสุดในการดำเนินการทั้งหมดทะลุถึง 2,055 ล้านบาท แล้ว โดยใช้งบจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเป็นหลักในส่วนของการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬา
ทั้งนี้ยังมีงบประมาณเพิ่มเติมที่อยู่ระหว่างการจัดทำเพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย
งบเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬา (เพิ่มเติมราว 300 ล้านบาท)
งบปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน (เช่น ราชมังคลากีฬาสถาน, อินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก, และสนามที่โคราช สำหรับพาราเกมส์)
งบการจัดการแข่งขัน
โดยจะรวมทั้งหมดเป็น แพ็กเกจเสนอ ครม. ซึ่งตัวเลขเบื้องต้นคาดว่าจะเกินจากกรอบเดิมในหลัก ร้อยล้านบาท แต่จะเป็นการลงทุนที่ใช้ประโยชน์ได้ระยะยาว ไม่จำกัดแค่ซีเกมส์เพียงอย่างเดียว