"อนุชา"เหมาคนเดียว3ทองแดงศึกยกน้ำหนักเอเชียที่บาห์เรน

เหรียญแรกในศึกยกน้ำหนักชิงแชมป์เอเชีย 2022 ที่บาห์เรน มาแล้ว "แจ็ค" อนุชา ดวงศรี จัดให้ โชว์พลังคว้า 3 เหรียญทองแดง ในการแข่งขันรุ่น 67 กก.ชาย ให้กับทัพจอมพลังไทย

การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2022 ที่กรุงมานามา ประเทศบาห์เรน เมื่อช่วงดึกวันที่ 10 ต.ค.65 ตามเวลาไทย จอมพลังไทยขึ้นเวทีชิงชัยต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังก่อนหน้านี้ โป๊ยเซียน ยอดสารประเดิมสนามในรุ่น 55 กก.หญิง จบอันดับ 5 ทั้งท่าสแนตช์, คลีนแอน์เจิร์ค และน้ำหนักรวม

สำหรับวันที่สอง ไทยส่ง "แจ็ค" จ่าเอก อนุชา ดวงศรี ลงแข่งขันในรุ่น 67 กก.ชาย ซึ่งในสนามแข่งขัน "มาดามบุษ" นางบุษบา ยอดบางเตย เลขาธิการสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (เอดับเบิ้ลยูเอฟ) และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกนำ้หนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันและให้กำลังใจนักกีฬาด้วย

เริ่มต้นท่าสแนตช์ "แจ็ค" เรียกเหล็ก 133 กก. แต่ดึงเหล็กไม่ยืดอก ทำให้เสียจังหวะต้องปล่อยเหล็กตกพื้น ก่อนออกมาแก้ตัวสำเร็จในครั้งที่ 2 ที่น้ำหนักเดิม 133 กก. จากนั้นครั้งที่ 3 เรียกเหล็ก 136 กก. ยกผ่านไปได้ ทำให้สถิติอยู่ที่ 136 กก. ได้เหรียญทองแดงในท่าสแนตช์ไปครอง และนับเป็นเหรียญรางวัลแรกของทัพจอมพลังไทยในครั้งนี้ด้วย

ต่อในท่าคลีนแอนด์เจิร์ค อนุชา เรียกเหล็กครั้งแรก 165 กก. ออกมายกด้วยความมั่นใจ ผ่านไปได้สบาย, ครั้งที่ 2 เรียกเหล็ก 168 กก. ยกไม่ผ่าน แต่เพียงพอจะตุนเหรียญทองแดงแล้ว ครั้งที่ 3 จึงขยับเหล็กเป็น 170 กก.แต่ยกไม่ผ่านเช่นกัน ทำให้สถิติอยู่ที่ 165 กก. ได้เหรียญทองแเดง ขณะที่น้ำหนักรวมอยู่ที่ 301 กก. ได้อีก 1 เหรียญทองแดง

ขณะที่ อัดคามอน เออร์กาเชฟ จากอุซเบกิสถาน คว้า 3 เหรียญทองในรุ่นนี้ หลังยกท่าสแนตช์ 138 กก., ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 176 กก., น้ำหนักรวม 314 กก. ด้าน โมฮัมหมัด ยาซิน จากอินโดนีเซีย ได้ 3 เหรียญเงิน ท่าสแนตช์ 137 กิก., ท่าคลีนแอนด์เจิร์ค 166 กก., น้ำหนักรวม 303 กก.

สำหรับโปรแกรมนักกีฬายกน้ำหนักไทยคนอื่นๆ (ตามเวลาประเทศไทย) ที่เหลือ มีดังนี้ ทิพย์วรา จรถวิล รุ่น 64 กก.หญิง แข่งวันที่ 11 ต.ค. เวลา 17.30 น., ดวงกมล คงทอง รุ่น 76 กก.หญิง แข่งวันที่ 13 ต.ค. เวลา 20.00 น. และ รุ่งสุริยา ปัญญะ รุ่นน้ำหนักมากกว่า 109 กก.ชาย แข่งวันที่ 16 ต.ค. เวลา 19.00 น. โดยผู้สนใจสามารถติดตามไลฟ์สกอร์ได้ที่เว็บไซต์ www.awfederation.com


 


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport