ชาติไทยพัฒนาชูนโยบาย 4 ด้านหนุนกีฬาชาติ

เหลือเวลาอีกไม่กี่วัน พี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ ก็จะได้ใช้สิทธิ์ออกเสียงกันแล้ว กับการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ.2566

การเลือกตั้งครั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น นับว่ามีบุคคลสำคัญจากวงการต่างๆ ลงสนามสู้ศึกการเมืองกันอย่างมากมาย ไม่เว้นแม้แต่วงการกีฬา  

แน่นอนว่า “บิ๊กท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ที่อยู่บนยุทธจักรการเมืองมานานหลาย 10 ปี ก็ยังคงอาสารับใช้ประชาชนเหมือนเช่นเคย ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

จากการเป็นบุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของ ฯพณฯ บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ของประเทศไทย 

ประกอบกับปัจจุบัน ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย จึงทำให้ภาพลักษณ์ของคุณวราวุธ คือนักการเมืองอย่างเต็มตัว 

ทว่า อีกหนึ่งตัวตนของมหาบุรุษแห่งเมืองสุพรรณผู้นี้ ใครจะรู้บ้างว่า เขาคือคนรักกีฬาอย่างแท้จริง พร้อมกับคลุกคลีกับวงการกีฬามาอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าจะเป็นการเคยดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี การอยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ของทัพนักกีฬาสุพรรณบุรี ทั้งในมหกรรมกีฬาแห่งชาติและเยาวชนแห่งชาติ ซึ่งทีมกีฬาสุพรรณบุรีมักจะมีจำนวนเหรียญทองเป็นอันดับต้นๆในระดับท็อป 10 ของตารางสรุปเหรียญรางวัลมาโดยตลอด

นอกจากนี้ คุณสุวรรณา ศิลปอาชา ผู้เป็นภรรยา ยังนั่งตำแหน่งกรรมาธิการสหพันธ์สเก็ตน้ำแข็งนานาชาติ(ISU) อีกด้วย 

อีกทั้ง “น้องเทมส์” ฑีฆรี ศิลปอาชา บุตรสาวมากความสามารถ ยังเป็นนักฟิกเกอร์สเก็ตทีมชาติไทยอีกต่างหาก โดยมีผลงานเด่นกับการคว้าแชมป์ฟิกเกอร์สเก็ตติ้งชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี พ.ศ.2565 มาแล้ว

เรียกได้ว่า ตลอดชีวิตกว่า 5 ทศวรรษของ “บิ๊กท็อป” ใกล้ชิดกับวงการกีฬามาโดยตลอด จึงทำให้ทราบถึงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในวงการกีฬาของชาติเป็นอย่างดี

ด้วยเหตุนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาจึงนำเสนอนโยบายพัฒนากีฬาของประเทศ 4 ด้าน ซึ่งมีดังนี้

1.กีฬาขั้นพื้นฐาน  พรรคชาติไทยต้องการปลูกฝังให้ประชาชนรักการเล่นกีฬาตั้งแต่เด็ก เพิ่มชั่วโมงวิชาพลศึกษาในโรงเรียน เพราะนอกจากจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว กีฬายังปลูกฝังให้เด็กๆรู้แพ้,รู้ชนะ และรู้อภัย ส่งเสริมให้เป็นคนมีน้ำใจนักกีฬา มีค่านิยมที่ดี สามารถเป็นคนดีในสังคมได้ 

2.กีฬาเพื่อมวลชน  นอกจากจะเพิ่มชั่วโมงวิชาพลศึกษาในโรงเรียนแล้ว ต้องเพิ่มสถานที่ออกกำลังกายในชุมชนต่างๆด้วย ซึ่งอาจจะไม่ใช่แค่สนามกีฬา แต่คือพื้นที่สีเขียว โดยสหประชาชาติได้มีผลวิจัยมาแล้วว่า ประชากร 1 คนต้องมีพื้นที่สีเขียวประมาณ 10 ตารางเมตร ถึงจะมีสุขภาพที่ดี  ดังนั้นพรรคชาติไทยพัฒนามีนโยบายเพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชนต่างๆ เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้ประชาชนสามารถมาวิ่งออกกำลังกายได้ นอกจากนี้ หากประชาชนคนใดออกกำลังกายจนมีสุขภาพดี ไม่ได้ใช้สิทธิ์ 30 บาทรักษาทุกโรคเลย ก็จะได้เงินคืน 3,000 บาท

3.กีฬาอาชีพ ในปัจจุบันประเทศไทยมีนักกีฬาอาชีพมากมาย ทว่ายังไม่มีกฎหมายคุ้มครองที่ดีพอ ในฐานะที่คุณวราวุธ ศิลปะอาชา เคยเป็นประธานสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี เอฟซี มาก่อน จึงเข้าใจปัญหานี้เป็นอย่างดี “บิ๊กท็อป” กล่าวว่า ที่ผ่านมา ในกีฬาอาชีพในบ้านเรา มักมีข่าวเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างนักกีฬากับต้นสังกัดอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นทางพรรคชาติไทยพัฒนาจะมีนโยบายดูแลสัญญาที่เป็นธรรมระหว่างนักกีฬาและต้นสังกัด อีกทั้ง ต้องการที่จะช่วยยกระดับกีฬาหลายชนิด ให้เป็นกีฬาอาชีพอย่างยั่งยืนอีกด้วย

4.กีฬาเป็นเลิศ จากการที่ภรรยาอย่าง คุณสุวรรณา ศิลปะอาชา เคยดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟิกเกอร์และสปีดสเก็ตติ้งแห่งประเทศไทย และมีส่วนสำคัญกับการพานักกีฬาฟิกเกอร์สเก็ตและสปีดสเก็ตติ้งคว้าเหรียญทองซีเกมส์มาแล้ว แถมยังคว้าสิทธิ์ไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาวและโอลิมปิกฤดูหนาวอีกต่างหาก 

ทำให้ “บิ๊กท็อป” ทราบดีว่า การจะปั้นนักกีฬาสักคนหนึ่งให้เป็นแชมป์ในเวทีระดับนานาชาติได้นั้น ต้องผลักดันหลายๆด้านควบคู่กันไป แต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ นักกีฬาและผู้ปกครองต้องมีทัศนะคติที่ดี  

อีกทั้ง นโยบายพรรคชาติไทยพัฒนายังจะให้ความสำคัญกับสวัสดิการของนักกีฬาทีมชาติเมื่อเลิกเล่น และกระจายงบกีฬาสู่ท้องถิ่นอีกด้วย เพื่อสร้างฮีโร่กีฬาของแต่ละชุมชน ให้ก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาทีมชาติ

นอกจากนี้ คุณวราวุธ ศิลปะอาชา ได้กล่าวย้ำว่า หากพรรคชาติไทยพัฒนา ได้มีโอกาสเข้ามาบริหารกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะขอใช้เวลาเพียงปีเดียวเท่านั้น ในการสะสางปัญหาต่างๆในวงการกีฬาชาติให้หมดไป ด้วยนโยบาย 4 ด้านของพรรคที่ได้กล่าวมา



ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport