ความคืบหน้าการแข่งขันขี่ม้าอีเว้นติ้ง รายการ "เอฟอีไอ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2022" ระหว่างวันที่ 14-25 ก.ย. 65 ที่ประเทศอิตาลี ซึ่งมีนักขี่ม้าไทยสร้างประวัติศาสตร์คอลิฟายผ่านเข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรก นั้นคือ "นัท" กรธวัช สำราญ ดีกรีเหรียญทองแดงทีมอีเว้นติ้งเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18
โดยการแข่งขันรายการนี้ กรธวัช สำราญ ใช้เวลาในคอลิฟายมากว่า 1 ปี หลังจากจบการแข่งขันโอลิมปิก "โตเกียวเกมส์" กรธวัช เปิดเผยถึงความพร้อมกับการแข่งขันชิงแชมป์โลกครั้งแรกของตัวเองว่า ชิงแชมป์โลกครั้งนี้มีความยากมากกว่าระดับโอลิมปิกกว่าหนึ่งขั้นคือในระดับ 5 ดาวแต่โชคดีที่ตนมีประวัติการแข่งขันจากโอลิมปิกมาแล้วทำให้ไม่ต้องเริ่มใหม่
"เช่นตอนไปโอลิมปิกเราต้องเริ่มคลอลิฟายตั้งแต่สองดาว เมื่อมาคอลิฟายชิงแชมป์โลก เราไม่ต้องแข่งระดับ 2 ดาวแล้ว แต่แข่งที่ระดับ สี่ดาวเลยและทำการแข่งแค่สี่ดาวแบบยาว แบบสั้น ซึ่งการแข่งขันแต่ละครั้งให้ผ่านเกณฑ์ก็สามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้แล้ว ทั้งนี้แล้วต้องขอขอบคุณทางสมาคมกีฬาขี่ม้าและบีกริมผู้สนับสนุนหลักของผมที่ได้ให้การสนับสนุน และเล็งเห็นความสำคัญตั้งแต่แรก จึงทำให้ผมได้มีโอกาสได้คัดเลือกและเข้าร่วมในการแข่งขันครั้งนี้"
"นัท" กล่าวต่ออีกว่า "สำหรับเป้าหมายในการแข่งขันครั้งนี้ คือ ตั้งเป้าหมายจะพยายามทำคะแนนในศิลปการบังคับม้า ให้มากที่สุดซึ่งตั้งเป้าไว้ที่ 68 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีคะแนนเสียในครอสคันทรี่และกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ทุกอย่างมีความยากมากขึ้นอีกหนึ่งขั้นจากโอลิมปิกแต่ตนและม้ามีความพร้อมมากขึ้นในครั้งนี้"
"แต่ท้ายที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน ผมคงคำนึงถึงสวัสดิภาพของม้ามาเป็นอย่างแรก เพราะอย่างที่ทราบอีเว้นติ้งเราต้องแข่งกันถึง 3 วัน 3 อีเว้นต์ คือ ศิลปการบังคับม้า, ครอสคันทรี และกระโดดข้ามเครื่องกีดขวาง ซึ่งหลังจากแข่งจบแต่ละอีเว้นต์แล้วต้องมีการตรวจม้าก่อนจะลงแข่งอีเว้นต์ต่อไป หากม้าเจ็บหรือมีอาการไม่ปกติก็ต้องยุติการแข่งขันทันที"
"ส่วนการแข่งขันรายการนี้มีนักกีฬาลงแข่งขันทั้งสิ้น 27 ประเทศ และมีนักกีฬาจากเอเชียแค่ 4 ประเทศที่ผ่านคอลิฟายคือ จีน, อินเดีย, ญี่ปุ่น และ ไทย ถือเป็นการดูฟอร์มของคู่แข่งที่จะได้เจอกันใน อชก. 19 ปลายปีหน้าอีกด้วย ซึ่งตั้งเป้าไว้ที่เหรียญทองประเภททีม และ 1 ใน 3 ประเภทบุคคล" กรธวัช กล่าว